xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว”ขึ้นเวทีอวยพรวันเกิด“ทั่นยุทธ” พร้อม เปิดใจอ้อนแม่ยก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย – “แม้ว”ขึ้นเวทีอวยพรวันเกิด “ทั่นยุทธ” ยืนยันเป็นคนตั้งใจทำงาน แต่ยังใช้กรรมไม่หมดเหมือนกับตนเอง เอ่ยปากอ้อนแม่ยก คงต้องเดินสายทำบุญใช้กรรมให้หมดก่อน ด้าน “ยงยุทธ” ประกาศกลางเวที ถูกใส่ร้ายกรณีทุจริตเลือกตั้ง อ้าง “กำนันชัยวัฒน์” คนดังเป็นสมาชิก ปชป. แถมแขวะ “สนธิ ลิ้มทองกุล”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 3 เม.ย.51 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี และนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ได้เดินทางไปที่บ้านของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ,ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ที่ ต.สันทราย อ.แม่จัน จ.เชียงราย เพื่อร่วมอวยพรเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 47 ปี ของนายยงยุทธ โดยมีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรรม และบรรดาเพื่อน ส.ส.เชียงราย - ประชาชน ข้าราชการ ผู้นำชุมชน มาร่วมงานคับคั่ง ซึ่งภายในบริเวณงานมีการจัดเวที พร้อมเขียนข้อความว่า “ใต้ร่มพระบารมี ขอทำความดีเพื่อแผ่นดิน”

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี ได้ทำพิธีจุดเทียนและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตามประเพณีล้านนา พร้อมกับกล่าวบนเวทีว่า ตั้งใจมาเชียงราย เพราะตั้งใจจะมาทำบุญและไหว้พระธาตุดอยตุง เนื่องจากอดีตนั้นสมัยตนอายุ 12 ปี เคยเดินทางจากสันกำแพง จ.เชียงใหม่ เดินขึ้นพระธาตุฯมาครั้งหนึ่ง จึงมีความผูกพัน และสมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ให้บูรณะทางขึ้น และบูรณะวัดที่พะเยา วันนี้จึงตั้งใจมาทำบุญ

ทั้งนี้ มาทราบว่าเป็นวันคล้ายวันเกิดของนายยงยุทธ จึงมาร่วมอวยพรยินดี ซึ่งนายยงยุทธ เป็นผู้ที่ทำงานทุ่มเทมาโดยตลอด ในช่วงรัฐประหาร ตนไปอยู่ประเทศอังกฤษ ส่วนนายยงยุทธ ไปอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้พบกันบ้าง เพราะบางครั้งนายยงยุทธ มาเยี่ยมตน บางครั้งตนก็ไปเยี่ยม ทำให้ได้พบสัจธรรมชีวิตหลายอย่าง ได้พบทั้งสิ่งที่ดี - แย่ที่สุด เกิดมาครั้งเดียวได้พบทั้งนรก – สวรรค์ในเวลาเดียวกัน

กระทั่งมีการเลือกตั้งนายยงยุทธ ก็มาเป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และได้รับการเลือกตั้งอีก รวมทั้งได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ถือว่าเป็นศักดิ์ศรีของชาวเชียงราย แต่ก็ยังถูกแกล้ง ไม่รู้ว่าบ้านเมืองนี้เป็นอะไรกัน วันๆคิดแต่จะหาเรื่องกัน ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องของเวรกรรม หากกรรมยังไม่หมดก็ยังต้องใช้เวรใช้กรรม แต่หากเมื่อไหร่กรรมหมดก็จะได้พบกับความสุข จึงขอให้ทุกคนอดทน ตนนั้นอายุห่างนายยงยุทธ หนึ่งรอบพอดี และคิดว่าทั้งตนและนายยงยุทธ ยังมีกรรมอยู่จึงต้องทำบุญให้มากๆ หวังว่านายยงยุทธ จะได้กลับมาทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

ด้านนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน เปิดใจบนเวทีว่า ตลอดช่วงระยะเวลา 1 ปีเศษที่มีการรัฐประหาร เพื่อนๆที่รู้จักหลายคน บางคนเป็นเจ้าหน้าที่ก็หายหน้าไป เพราะไม่กล้ามาหาที่บ้าน น้องสาวตน น.ส.ละออง ติยะไพรัช ตอนไปหาเสียงเลือกตั้ง รถหาเสียงยังเอาเข้ามาบ้านไม่ได้ เพราะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ ทุกคนกลัวแต่ก็เป็นเพราะประชาชนส่วนใหญ่ให้ความไว้วางใจ จึงทำให้ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องการถูกใส่ร้ายต่างๆนานาให้มีภาพพจน์เป็นคนไม่ดี เป็นนักเลง อันธพาล ซึ่งจริงๆแล้วชาวบ้านจะทราบดีว่าไม่ใช่

ยกตัวอย่างมีการกล่าวหาตนต่างนานา แต่ตนไม่เคยฟ้องร้อง แต่มีข้าราชการคนหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ทนไม่ไหวไปฟ้องต่อศาล ปรากฏว่า ศาลตัดสินให้ “คุณสนธิ ลิ้มทองกุล” ผิด แสดงให้เห็นว่าเรื่องหลายเรื่องที่มีการกล่าวหาตามสื่อบางแขนงไม่เป็นความจริงและอยากให้ประชาชนรับฟังข้อมูลจาก ส.ส.ในแต่ละพื้นที่ด้วยหากสงสัยอะไรจะได้ชี้แจงได้

สำหรับกรณีที่ตนถูกกล่าวหาว่าซื้อเสียง นั้นขอชี้แจงว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมาจากมีกำนันในพื้นที่ไปทำก่อสร้างขุดลอกคลองต่างๆในพื้นที่ โดยรับช่วงมาจากผู้รับเหมาที่รับโครงการของราชการมา แต่ยังไม่ได้รับเงิน ระหว่างนั้นได้มีนายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า อ.แม่จัน ซึ่งเป็นคนรู้จักกัน วางแผนกับข้าราชการฝ่ายความมั่นคงบางคนชักชวนกันให้ไปพบตน เพื่อที่จะให้ตนช่วยติดตามเรื่องค่ารับเหมาที่ยังไม่ได้รับจากผู้จ้าง ซึ่งก็มีการเดินทางไปหาตนที่ กทม. ตนก็ไม่ทราบ ว่าจะมีการมาพบ เพราะไม่มีการนัดหมาย ก็ไปรอตนตั้งแต่ 15.00 น. กระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น. เสร็จจากประชุม เห็นว่ามากันไกลจึงมาพบสักพักที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค แล้วก็กลับ

ต่อมานายชัยวัฒน์ ก็นำเงินมาแจกให้กับกำนันที่ไปด้วย ซึ่งเป็นเงินของเขาเอง และตั๋วเครื่องบินก็ซื้อเองทุกอย่าง ทุกอย่างเป็นการจัดฉากไว้หมดแล้ว มีการบันทึกวีดีโอตั้งแต่เดินทางไป และหลังจากนายชัยวัฒน์ กลับมาลงเครื่องที่เชียงราย ได้มีเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งมารับตัวนายชัยวัฒน์ ไปกินข้าวที่ร้านอาหารแจ่วฮ้อน เชียงราย

ถามว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่แปลกที่สุดในโลก ที่มีการการกล่าวหาว่าซื้อเสียง แต่นายชัยวัฒน์ ที่จ่ายเงินให้กับกำนันที่ไปด้วย ทำไมมาฟ้องร้องตนได้ ถามว่าทำไมถึงเกลียดผมขึ้นมาทันที เพราะอะไร หากรับเงินตนมาจริงทำไมมาฟ้องผม หรือที่จริงไม่ใช้เงินของตนกันแน่ และที่จริงกำนันชัยวัฒน์ ไม่ได้บอกว่ารับเงินมาจากตนโดยตรงด้วย แต่รับมาจากผู้ใกล้ชิดตนเท่านั้น หากจะสืบกันจริงๆ นายชัยวัฒน์ หาเสียงให้กับ ส.จ.หล้า อดีต ส.อบจ.เชียงราย ในพื้นที่ และเมื่อมีการไปเช็คแล้วล่าสุดพบว่านายชัยวัฒน์ เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องนี้ตนจึงถูกใส่ร้ายแน่นอน หลังสุดยังมีการไปปล่อยข่าวให้ร้ายตนและนายบรรจง ยางยืน อดีตนายกเทศบาลตำบลจันจว้า ให้ชาวบ้านเกลียดนายบรรจงไปด้วย

อย่างไรก็ตามอนุกรรมการ กกต.ก็ลงมติ 3 ใน 5 ให้ใบแดงตน ซึ่งแตกต่างจากที่มีการยึดเงินจากหัวคะแนนพรรคการเมืองบางพรรค ซึ่งได้ล้านกว้าบาทที่ จ.เพชรบูรณ์ แต่ กกต.ให้แค่ใบเหลือง เรื่องนี้ตนจึงฟ้อง กกต.แต่ไม่ได้ฟ้องที่แจกใบแดงใบเหลือง แต่ฟ้องว่าที่มีการแต่งตั้งตำรวจสันติบาลให้มาจับผิดพรรคพลังประชาชนอย่างเดียว และเมื่อชาวบ้านจะลุกฮือช่วงเมื่อหลายเดือนก่อน ก็ให้ตำรวจและชุดคอมมานโดมาฝึกซ้อมขู่ชาวบ้าน

อีกเรื่องคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งมีหลายมาตราที่เขียนโดยคณะผู้ยึดอำนาจมาก มีบทลงโทษเกี่ยวกับพรรคการเมืองรุนแรง เช่นหากกรรมการบริหารพรรคไปทำอะไรที่เป็นความผิดก็จะสั่งยุบพรรค ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจประชาชน นอกจากนี้คณะกรรมการที่ตั้งมาตรวจสอบในหลายเรื่อง ก็เป็นคู่กรณี หรือปรปักษ์กับคนในรัฐบาล ซึ่งไม่เหมาะสมเช่นกัน วันนี้จึงอยากจะชี้แจงชาวบ้านฟังและขอขอบคุณประชาชนที่คนที่ให้กำลังใจด้วยมาตลอด



กำลังโหลดความคิดเห็น