ทีมทนาย “สมัคร” ยื้อคดีรถดับเพลิงฉาวไม่เลิกยื่นพยาน 18 ปากให้ คตส.สอบเพิ่ม ด้านอนุฯเซ็นทรัลแล็ป เรียก “อดิศัย”แจ้ง เจ้าตัวยอมรับเซ็นอนุมัติเห็นด้วยต่อ ครม.จริง แต่แค่ในหลักการ ส่วนหลักปฎิบัติต้องประสานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ ส่วน “อำนวย” รับบัวแก้วส่งเอกสารแปลคดี CTX ให้หมดแล้ว ยันสรุปได้ใน ก.พ.นี้ “อริสมันต์” ร้องเสียงหลงหลังถูกแจ้งข้อหาเป็นตัวกลาวงาบบ้านเอื้อฯ อ้างไม่เคยทำผิด แต่ถูกแกล้ง สตง.เตรียมประมูลทรัพย์สิน ทรท. 790 รายการวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สถานที่ทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) วานนี้ (8 ม.ค.) มีการประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการจัดซื้อเรือและรถดับเพลิง กทม. มีนายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. ในฐานประธานอนุกรรมการไต่สวน เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาว่า นาย อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม.และนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการนี้หรือไม่ โดยนายนามยืนยันว่า เป็นการหยิบหยกมาหารือธรรมดา แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป
ขณะที่ในช่วงบ่าย นายสมหมาย กู้ทรัพย์ ทนายความผู้ได้รับมอบหมายจาก นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน อดีตผู้ว่าฯกทม. หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา ได้เดินทางเข้าพบคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อเสนอรายชื่อพยานพร้อมประเด็นการสอบปากคำเพิ่มเติม
นายสมหมาย กล่าวภายหลังเข้าพบคณะอนุกรรมการไต่สวนฯว่า ได้ยื่นรายชื่อ พยานและประเด็นเพื่อให้สอบปากคำเพิ่มต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนฯแล้ว จำนวน 18 ปาก จาก 20 ปาก ทั้งนี้ทีมทนายความได้เสนอตัดพยานออก 2 ปาก คือ นาย สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรมว.ต่างประเทศ และนายจักรมณฑ์ ผาสุกวณิช อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม สำหรับรายชื่อของพยาน ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
นายสมหมาย กล่าวว่า ในการเข้าให้ถ้อยคำเพิ่มเติมกับอนุกรรมการไต่สวน ทีมทนายความ ได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 วันที่ 17 ม.ค. จำนวน 7 ราย ประกอบด้วย พล.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการซื้อขายรถ-เรือดับเพลิง ของดีเอสไอ นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พานิชย์ เป็นต้น กลุ่มที่ 2 นัดวันที่ 22 ม.ค. จำนวน 8 ราย และกลุ่ม 3 ซึ่งเป็นพยานชาวต่างชาติ 3 ราย ยังไม่ได้กำหนดวัน เนื่องจากอยู่ระหว่างการประสาน โดยได้รับปากว่าจะประสานให้ พร้อมออกหมายเรียกพยานทุกปากให้ด้วย
นายนาม เปิดเผยว่าในวันที่ 9 ม.ค. คตส.จะออกหมายเรียกพยาน 18 ราย ตามที่ทีมทนายความนายสมัคร อ้างถึงเข้าให้ปากคำต่อคณะอนุกรรมการ โดยทางทีมทนายความรับว่าจะมีการส่งโทรสารที่อยู่จริงของพยานทั้ง 18 ปากมาให้ อนุกรรมการไต่สวนในวันที่ 9 ม.ค.นี้ ทั้งนี้ หากพยานไม่มาจะถือว่าขัดหมายเรียก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันยังมีการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบ โครงการจัดซื้อวัตถุอุปกรณ์ของบริษัทห้องปฏิบัติการกลางตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด(เซ็นทรัลแล็บ)ที่มีนางเสาวนีย์ อัศวโรจน์ กรรมการคตส. เป็นประธาน โดยที่ประชุม ได้เรียก นายอดิสัย โพธารามิก อดีต รมว.พานิชย์ เข้าให้ถ้อยคำเพิ่มเติม
นายอดิสัย กล่าวก่อนเข้าให้ถ้อยคำว่า ตนไม่ทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร ในคดีนี้ เพราะความจริงทราบรายละเอียดในโครงการดังกล่าวเพียงคร่าวๆ แต่ลึกๆ ไม่ทราบ และตนเป็นคนให้ความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรต่อที่ประชุมครม.ในฐานะที่เป็นรมว.พานิชย์ในขณะนั้น โดยให้ความเห็นไปว่าเห็นด้วยในหลักการส่วนในหลักปฏิบัติขอให้ประสานงานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบให้แน่ชัด
นายอำนวย ธันธรา คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความ เสียหายแก่รัฐ (คตส. )ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด CTX 9000 เปิดเผยว่าขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ ได้ส่งเอกสารคำแปลของสหรัฐอเมริกาในคดีซีทีเอ็กซ์ จำนวน 29 แผ่นสุดท้าย มาให้คณะอนุกรรมการฯเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางคณะอนุกรรมการต้องขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศที่ให้ความร่วมมือการตรวจสอบคดีกับทาง คตส.เป็นอย่างดี และคาดว่าคดีนี้น่าจะสรุปผลเพื่อเสนอต่อ คตส.ชุดใหญ่ได้ในช่วงปลาย ก.พ.นี้อย่างแน่นอน
นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีตเลขานุการ รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาในคดีการทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่มี นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการคตส.และประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนการทุจริต โครงการบ้านเอื้ออาทร กล่าวถึงกรณีที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีดังกล่าว ในฐานะเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน จำนวน 7 ล้านบาท ว่าขอยืนยันว่าตนไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการบ้านเอื้ออาทร อีกทั้งในช่วงที่ ดำรงตำแหน่งเลขานุการ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้น ก็เป็น เลขานุการของ นายประชา มาลีนนท์ ไม่ใช่ นายวัฒนา เมืองสุข ตามที่ คตส.กล่าวหา อีกทั้งไม่เคยรู้จักกับนายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ หน้าห้องรัฐมนตรี ซึ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหา ฐานเป็นผู้สนับสนุนการทุจริต และนางรัตนา แซ่เฮง เลขานุการคนสนิทของ บริษัท เพรสซิเดนท์ ในฐานะตัวกลางเรียกรับสินบน และผู้บริหารบริษัท ไทยเฉนหยู
“น่าจะเป็นความเข้าใจผิดหรืออาจเป็นการกลั่นแกล้งโดยมีเจตนาให้ข่าว คลาดเคลื่อนเพื่อดิสเครดิตสร้างความเสียหายทางการเมืองแก่ผม ขอให้ คตส. ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งเพราะเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง แต่ผมไม่สามารถ ฟ้องร้อง คตส.ได้ เพราะมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ ก็ขอให้ คตส.ลงข่าวขอโทษแทน สาเหตุหนึ่งอาจจะมาจากเมื่อครั้งที่หาเสียงเลือกตั้ง ระหว่างที่ผ่านไปยังบริเวณ หน้าบ้านพักคุณแก้วสรร อติโพธิ ผมได้หยุดพูดเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของ คุณแก้วสรรและคตส. อาจจะเป็นความจงใจของคุณแก้วสรรที่ต้องการให้ข้อมูลผิดๆ เพื่อดิสเครดิตผมก็ได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช) ได้เดินทางเข้าพบ นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส. เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการตรวจสอบคดีต่างๆ ที่ คตส.รับผิดชอบอยู่ และจะนำไปรายงานต่อที่ประชุม สนช. ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้
นายสังศิต ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้าพบว่า สนช.ต้องการให้ คตส.เร่งรัดและรายงานความคืบหน้าคดีต่างๆ เพราะ สนช. ชุดนี้จะหมดวาระในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2551 เบื้องต้นทราบว่าขณะนี้ มีหลายคดีที่เสร็จแล้ว และยังมีอีกหลายคดีที่ ต้องใช้เวลาถึง 3 เดือน
“การตรวจสอบคดีต่างๆ ของ คตส. เป็นหนึ่งในสาเหตุของการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องการทราบว่าทำอะไรไปบ้าง ผมจึงต้องมาประสานข้อมูลส่วนนี้ เพื่อนำไปเสนอต่อสภาฯ แต่โดยส่วนตัวมองว่า การตรวจสอบคดีต่างๆ ของ คตส. ควรจะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนที่ สนช. ชุดนี้จะหมดวาระ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย คุณหญิง จารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าสตง. ได้ตรวจทรัพย์สินของพรรคไทยรักไทย ที่เตรียมขายทอดตลาดหลังจากที่เจ้าหน้าที่ สตง.ได้มีการขนทรัพย์สินทั้งหมดจากพรรคไทยรักไทย มารวมไว้ในเต้นท์ หน้าที่ทำการ สตง. จำนวน 790 เพื่อทำการประมูลขายทอดตลาดในวันที่ 9 ม.ค.นี้ เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สถานที่ทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) วานนี้ (8 ม.ค.) มีการประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการจัดซื้อเรือและรถดับเพลิง กทม. มีนายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. ในฐานประธานอนุกรรมการไต่สวน เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาว่า นาย อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม.และนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการนี้หรือไม่ โดยนายนามยืนยันว่า เป็นการหยิบหยกมาหารือธรรมดา แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป
ขณะที่ในช่วงบ่าย นายสมหมาย กู้ทรัพย์ ทนายความผู้ได้รับมอบหมายจาก นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน อดีตผู้ว่าฯกทม. หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา ได้เดินทางเข้าพบคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อเสนอรายชื่อพยานพร้อมประเด็นการสอบปากคำเพิ่มเติม
นายสมหมาย กล่าวภายหลังเข้าพบคณะอนุกรรมการไต่สวนฯว่า ได้ยื่นรายชื่อ พยานและประเด็นเพื่อให้สอบปากคำเพิ่มต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนฯแล้ว จำนวน 18 ปาก จาก 20 ปาก ทั้งนี้ทีมทนายความได้เสนอตัดพยานออก 2 ปาก คือ นาย สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรมว.ต่างประเทศ และนายจักรมณฑ์ ผาสุกวณิช อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม สำหรับรายชื่อของพยาน ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
นายสมหมาย กล่าวว่า ในการเข้าให้ถ้อยคำเพิ่มเติมกับอนุกรรมการไต่สวน ทีมทนายความ ได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 วันที่ 17 ม.ค. จำนวน 7 ราย ประกอบด้วย พล.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการซื้อขายรถ-เรือดับเพลิง ของดีเอสไอ นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พานิชย์ เป็นต้น กลุ่มที่ 2 นัดวันที่ 22 ม.ค. จำนวน 8 ราย และกลุ่ม 3 ซึ่งเป็นพยานชาวต่างชาติ 3 ราย ยังไม่ได้กำหนดวัน เนื่องจากอยู่ระหว่างการประสาน โดยได้รับปากว่าจะประสานให้ พร้อมออกหมายเรียกพยานทุกปากให้ด้วย
นายนาม เปิดเผยว่าในวันที่ 9 ม.ค. คตส.จะออกหมายเรียกพยาน 18 ราย ตามที่ทีมทนายความนายสมัคร อ้างถึงเข้าให้ปากคำต่อคณะอนุกรรมการ โดยทางทีมทนายความรับว่าจะมีการส่งโทรสารที่อยู่จริงของพยานทั้ง 18 ปากมาให้ อนุกรรมการไต่สวนในวันที่ 9 ม.ค.นี้ ทั้งนี้ หากพยานไม่มาจะถือว่าขัดหมายเรียก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันยังมีการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบ โครงการจัดซื้อวัตถุอุปกรณ์ของบริษัทห้องปฏิบัติการกลางตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด(เซ็นทรัลแล็บ)ที่มีนางเสาวนีย์ อัศวโรจน์ กรรมการคตส. เป็นประธาน โดยที่ประชุม ได้เรียก นายอดิสัย โพธารามิก อดีต รมว.พานิชย์ เข้าให้ถ้อยคำเพิ่มเติม
นายอดิสัย กล่าวก่อนเข้าให้ถ้อยคำว่า ตนไม่ทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร ในคดีนี้ เพราะความจริงทราบรายละเอียดในโครงการดังกล่าวเพียงคร่าวๆ แต่ลึกๆ ไม่ทราบ และตนเป็นคนให้ความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรต่อที่ประชุมครม.ในฐานะที่เป็นรมว.พานิชย์ในขณะนั้น โดยให้ความเห็นไปว่าเห็นด้วยในหลักการส่วนในหลักปฏิบัติขอให้ประสานงานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบให้แน่ชัด
นายอำนวย ธันธรา คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความ เสียหายแก่รัฐ (คตส. )ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด CTX 9000 เปิดเผยว่าขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ ได้ส่งเอกสารคำแปลของสหรัฐอเมริกาในคดีซีทีเอ็กซ์ จำนวน 29 แผ่นสุดท้าย มาให้คณะอนุกรรมการฯเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางคณะอนุกรรมการต้องขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศที่ให้ความร่วมมือการตรวจสอบคดีกับทาง คตส.เป็นอย่างดี และคาดว่าคดีนี้น่าจะสรุปผลเพื่อเสนอต่อ คตส.ชุดใหญ่ได้ในช่วงปลาย ก.พ.นี้อย่างแน่นอน
นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีตเลขานุการ รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาในคดีการทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่มี นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการคตส.และประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนการทุจริต โครงการบ้านเอื้ออาทร กล่าวถึงกรณีที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีดังกล่าว ในฐานะเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน จำนวน 7 ล้านบาท ว่าขอยืนยันว่าตนไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการบ้านเอื้ออาทร อีกทั้งในช่วงที่ ดำรงตำแหน่งเลขานุการ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้น ก็เป็น เลขานุการของ นายประชา มาลีนนท์ ไม่ใช่ นายวัฒนา เมืองสุข ตามที่ คตส.กล่าวหา อีกทั้งไม่เคยรู้จักกับนายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ หน้าห้องรัฐมนตรี ซึ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหา ฐานเป็นผู้สนับสนุนการทุจริต และนางรัตนา แซ่เฮง เลขานุการคนสนิทของ บริษัท เพรสซิเดนท์ ในฐานะตัวกลางเรียกรับสินบน และผู้บริหารบริษัท ไทยเฉนหยู
“น่าจะเป็นความเข้าใจผิดหรืออาจเป็นการกลั่นแกล้งโดยมีเจตนาให้ข่าว คลาดเคลื่อนเพื่อดิสเครดิตสร้างความเสียหายทางการเมืองแก่ผม ขอให้ คตส. ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งเพราะเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง แต่ผมไม่สามารถ ฟ้องร้อง คตส.ได้ เพราะมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ ก็ขอให้ คตส.ลงข่าวขอโทษแทน สาเหตุหนึ่งอาจจะมาจากเมื่อครั้งที่หาเสียงเลือกตั้ง ระหว่างที่ผ่านไปยังบริเวณ หน้าบ้านพักคุณแก้วสรร อติโพธิ ผมได้หยุดพูดเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของ คุณแก้วสรรและคตส. อาจจะเป็นความจงใจของคุณแก้วสรรที่ต้องการให้ข้อมูลผิดๆ เพื่อดิสเครดิตผมก็ได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช) ได้เดินทางเข้าพบ นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส. เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการตรวจสอบคดีต่างๆ ที่ คตส.รับผิดชอบอยู่ และจะนำไปรายงานต่อที่ประชุม สนช. ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้
นายสังศิต ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้าพบว่า สนช.ต้องการให้ คตส.เร่งรัดและรายงานความคืบหน้าคดีต่างๆ เพราะ สนช. ชุดนี้จะหมดวาระในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2551 เบื้องต้นทราบว่าขณะนี้ มีหลายคดีที่เสร็จแล้ว และยังมีอีกหลายคดีที่ ต้องใช้เวลาถึง 3 เดือน
“การตรวจสอบคดีต่างๆ ของ คตส. เป็นหนึ่งในสาเหตุของการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องการทราบว่าทำอะไรไปบ้าง ผมจึงต้องมาประสานข้อมูลส่วนนี้ เพื่อนำไปเสนอต่อสภาฯ แต่โดยส่วนตัวมองว่า การตรวจสอบคดีต่างๆ ของ คตส. ควรจะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนที่ สนช. ชุดนี้จะหมดวาระ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย คุณหญิง จารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าสตง. ได้ตรวจทรัพย์สินของพรรคไทยรักไทย ที่เตรียมขายทอดตลาดหลังจากที่เจ้าหน้าที่ สตง.ได้มีการขนทรัพย์สินทั้งหมดจากพรรคไทยรักไทย มารวมไว้ในเต้นท์ หน้าที่ทำการ สตง. จำนวน 790 เพื่อทำการประมูลขายทอดตลาดในวันที่ 9 ม.ค.นี้ เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป