xs
xsm
sm
md
lg

บัวแก้วโต้คตส.เปล่าเกียร์ว่างระดมคน1กรมแปล-‘อำนวย’ยันขาดเอกสารสำคัญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บัวแก้ว โต้ คตส.ยันแปลเอกสาร CTX 9000 ไม่ช้าตามที่ถูกกล่าวหา ระบุเสร็จแล้ว 823 หน้าตามกำหนด แต่ คตส.ส่งมาให้แปลเพิ่ม ระบุทำงานแบบมืออาชีพให้ความร่วมมือตลอด แถมต้องระดมบุคลากรมาช่วยแปลเท่ากับ 1 กรม ด้าน “อำนวย-คุณหญิงจารุวรรณ” แฉส่งเอกสารแปลไม่ครบ และยังเป็นเอกสารสำคัญกระทบผลสรุปสำนวน ชี้ถ้าไม่เร่งก็ไม่ทำ ส่วน “สมัคร” ส่งทนายเล่นแง่ ยื่มมือ คตส.เรียกพยาน 20 ปาก แจงงาบรถดับเพลิงฉาว “นาม” ลั่นถ้าประเด็นซ้ำตัดทิ้ง

จากกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ตั้งข้อสังเกตว่ากระทรวงการต่างประเทศแปลเอกสารโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด CTX 9000 ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ล่าช้านั้น

นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ส่งคำแปลเอกสารให้แก่ คตส. เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2550 จำนวน 94 หน้า และ วันที่ 18 ธันวาคม 2550 อีกจำนวน 348 หน้า ดังนั้น ในปี 2550 ได้แปลเอกสารส่งให้ คตส. รวมทั้งสิ้น 823 หน้าครบตามที่ คตส. ได้ขอความร่วมมือไปก่อนหน้านี้

ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2550 คตส. ได้ส่งเอกสารเพิ่มเติมไปให้ช่วย แปลอีก 29 หน้า กระทรวงการต่างประเทศได้รับไว้ และแจ้งว่า จะดำเนินการ ให้แล้วเสร็จภายใน 15 มกราคม 2551 และกำลังเร่งดำเนินการโดยอาจจะเสร็จก่อนหน้านั้น จะเห็นได้ว่าอยู่ในกรอบเวลาที่ คตส. ต้องการอยู่แล้ว

นายธฤต กล่าวอีกว่า ในรอบปีที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้ระดมเจ้าหน้าที่ กรม กองต่างๆ มาตั้งเป็นคณะทำงานเฉพาะกิจ ถ้าเทียบเป็นสัดส่วนเท่ากับกำลังบุคลากร 1 กรมของเราทีเดียว และงานแปลเอกสารนี้ก็เพิ่มขึ้นจากงานประจำ เพราะตามหน้าที่แล้ว กระทรวงจะทำหน้าที่แปลเอกสารเฉพาะสนธิสัญญาต่างๆ ซึ่งข้าราชการในคณะทำงานฯ ก็ทำงานประจำที่มีอยู่ แล้วต้องมาแปลเอกสารทั้งในและนอกเวลา รวมทั้งวันหยุด เพื่อสนับสนุนงานของ คตส.

อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศทำงานแบบมืออาชีพ โดยยึดตามหลักการที่ถูกต้องมาโดยตลอด และจะทำต่อไป เพื่อสนับสนุนการทำงานของ คตส.

ขณะที่ นาย อำนวย ธันธรา คณะกรรมการ คตส. ในฐานะประธานอนุกรรมการ ไต่สวนโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด CTX 9000 กล่าวว่า อนุกรรมการไต่สวนได้เอกสารบางส่วนจริงแต่ยังไม่ครบ โดยยังขาดเอกสารบางส่วน ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากในคดี และหากไม่มีส่วนนี้อนุกรรมการก็ไม่สามารถ สรุปผลการไต่สวนส่งอัยการได้

ด้านคุณหญิง จารุวรรณ เมณฑกา กรรมการ คตส.ในฐานประธานอนุกรรมการ ไต่สวนโครงการวางท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ออกมายืนยันเช่นเดียวกันว่า เอกสารที่ส่งให้กระทรวงต่างประเทศแปลนั้นยังได้ไม่ครบ และที่สำคัญเอกสารในคดีซีทีเอ็กซ์ ก็ยังขาดในส่วนที่เป็นเอกสารสำคัญซึ่งจะมีผลต่อการประกอบการสรุปสำนวน อย่างไรก็ตาม คตส.ไม่อยากไปทะเลาะกับกระทรวงต่างประเทศอีก ไม่เร่งไปก็ไม่ทำ จะไม่ขอพูดอีกแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงบ่าย วานนี้ (3 ม.ค.) มีการประชุมคณะอนุกรรมการ ไต่สวนคดีทุจริตการจัดซื้อเรือ-รถดับเพลิงของกทม. ที่มีนายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน โดยได้นัดให้ทีมทนายของนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหานำพยาน 4 ปาก เข้าให้ถ้อยคำต่ออนุกรรมการฯ

นาย พิชิฏ ชื่นบาน ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากนาย สมัคร ให้ดูแลคดีดังกล่าว เปิดเผยภายหลังการเข้าพบอนุกรรมการฯว่า บรรยากาศไม่ค่อยดี เนื่องจาก ทีมทนายไม่ได้นำพยานเข้าให้ถ้อยคำต่ออนุกรรมการฯ เพราะมีเวลาติดต่อพยานเพียง 2 วัน เนื่องจากติดวันหยุดเทศกาลปีใหม่ แต่ในการเข้าพบครั้งนี้ได้มีการหารือร่วมกันกับอนุกรรมการฯ โดยอนุกรรมการฯ ได้นัดให้ทีมทนายนำประเด็นที่จะสืบพยานแต่ละรายมาแถลงต่อคณะอนุกรรมการฯ ในวันที่ 8 ม.ค. แต่ทีมทนายไม่เห็นด้วยเพราะอนุกรรมการฯอาจตัดพยานบางปากออก โดยอ้างว่าคตส.สอบไปแล้ว ซึ่งจะเป็นการปิดกั้นพยานของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาในการเข้าสู่สำนวน และจะเป็นการตัดโอกาส นายสมัคร ในก ารต่อสู้คดี ซึ่งในการหารือตนยังได้พูดกับ คตส.ด้วยว่า ทีคดีของนาย อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. ยังไม่เห็นทำอะไรเลย แต่ทำไมคดีของนายสมัคร ถึงได้เร่งจัง ทั้งนี้สำนวนของคตส.จะถือเป็นสำนวนหลักที่จะใช้ต่อสู้ในชั้นศาล

นายพิชิฏ กล่าวว่า ถ้ามีการตัดพยาน ทางทีมทนายก็จะโต้แย้งทันที หากคตส. ไม่รับฟังก็จะทำหนังสือโต้แย้งในชั้นอัยการและศาลต่อไป ซึ่งจะทำให้เสียเวลาทั้งสองฝ่าย และอาจจะมองว่าทนายต้องการประวิงเวลา ทั้งที่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น ทีมทนายอยากให้คตส.ออกหมายเรียกพยานทั้ง 20 ปากเข้าให้ถ้อยคำก่อน ป้องกันปัญหาการติดต่อประสานงาน เนื่องจากพยานส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ และบางรายเป็นถึงอดีตทูตออสเตรีย ซึ่งข้าราชการบางคนจำเป็นต้องใช้หมายเรียก ในการให้ถ้อยคำในเวลาราชการ และถ้าให้ทีมทนายติดต่อนำตัวพยานมาเองก็จะถูกกล่าวหาว่าพยานดังกล่าวเข้าข้างนายสมัคร และไม่เป็นกลาง ซึ่งถ้าทำตามแนวทาง ของทีมทนายกระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นในเดือนก.พ.นี้ และจะลบข้อครหาในเรื่องความเป็นธรรมของคตส.

ด้านนาย นาม ยิ้มแย้ม กล่าวว่า หลังจากที่อนุกรรมการฯได้รับฟังคำแถลงประเด็นของทีมทนายและพยานแล้ว จะพิจารณาอีกครั้งว่าสมควรออกหนังสือเรียกพยาน คนใดเข้าให้ถ้อยคำเพิ่มเติม เพราะพยานทั้ง 20 ปาก ส่วนใหญ่คตส.ก็สอบมาหมดแล้ว หากมีประเด็นซ้ำซ้อนก็ต้องตัดทิ้ง แต่หากไม่ซ้ำซ้อนก็พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งในส่วนของ อดีตทูตออสเตรีย ที่นายสมัคร อ้างเป็นพยานให้ คตส.สอบเพิ่มด้วยนั้น หากคตส.มีหนังสือเรียกให้ถ้อยคำไปแล้วแต่ไม่มา คตส.ก็คงต้องตัดพยานปากนี้ออก เพราะถือว่า ได้เรียกไปแล้ว ทั้งนี้อนุกรรมการฯจะพยายามเร่งพิจารณาให้เสร็จในเดือน ก.พ.นี้ และหากนายสมัคร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่เกี่ยวกับการทำงานของคตส. เพราะทำงาน คนละหน้าที่

อย่างไรก็ตามล่าสุดพล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้ส่งแจกันดอกไม้เพื่อให้กำลังใจในการทำงานมาให้ตน
กำลังโหลดความคิดเห็น