หัวหน้าพรรคพลังประชาชนส่งทนายความเจรจายืมมือ คตส.ออกหนังสือเรียกพยาน 20 ปาก ชี้แจงคดีรถดับเพลิง ด้าน คตส.ขีดเส้นแถลงประเด็นสอบพยานก่อน ค่อยพิจารณาออกหมายเรียกเป็นรายบุคคล “นาม” ลั่นถ้าประเด็นซ้ำตัดทิ้งทันที รับคดีอาจยื้อถึง ก.พ.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า ในช่วงบ่ายวานนี้ (3 ม.ค.) ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตการจัดซื้อเรือ-รถดับเพลิงของ กทม. ที่มีนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เป็นประธาน โดยที่ประชุมได้นัดนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ในฐานะอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาให้นำพยาน 4 ปาก ที่ขอให้ คตส.สอบเพิ่มเข้าให้ถ้อยคำต่ออนุกรรมการฯ ซึ่งนายสมัครได้มอบหมายให้นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ เข้าพบอนุกรรมการฯ แทน
ภายหลังการเข้าพบ นายพิชิฏ เปิดเผยว่า บรรยากาศการหารือไม่ค่อยดี โดยทีมทนายไม่ได้นำพยานเข้าให้ถ้อยคำต่ออนุกรรมการฯ ตามนัด เนื่องจากมีเวลาติดต่อพยานเพียง 2 วัน เพราะติดวันหยุดช่วงปีใหม่ ทั้งนี้ ในการหารือร่วมกันกับอนุกรรมการฯ ทางอนุกรรมการฯ ได้นัดให้ทีมทนายนำประเด็นที่จะสืบพยานแต่ละรายมาแถลงต่อคณะอนุกรรมการฯ ในวันที่ 8 ม.ค. แต่ทีมทนายไม่เห็นด้วย เพราะอนุกรรมการฯ อาจตัดพยานบางปากออก โดยอ้างว่า คตส.สอบไปแล้ว ซึ่งจะเป็นการปิดกั้นพยานของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาในการเข้าสู่สำนวน และจะเป็นการตัดโอกาสนายสมัครในการต่อสู้คดี ซึ่งในการหารือ ตนยังได้พูดกับ คตส.ด้วยว่า ทีคดีของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. ยังไม่เห็นทำอะไรเลย แต่ทำไมคดีของนายสมัครถึงได้เร่ง
นายพิชิฏ กล่าวว่า ถ้ามีการตัดพยาน ทางทีมทนายความจะโต้แย้งทันที หาก คตส.ไม่รับฟัง จะทำหนังสือโต้แย้งในชั้นอัยการและศาลต่อไป ซึ่งจะทำให้เสียเวลาทั้ง 2 ฝ่าย และอาจมองว่าทนายความต้องการประวิงเวลา ทั้งที่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น ทั้งนี้ ทีมทนายความอยากให้ คตส.ออกหมายเรียกพยานทั้ง 20 ปาก เข้าให้ถ้อยคำก่อน ป้องกันปัญหาการติดต่อประสานงาน เนื่องจากพยานส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ และบางรายเป็นถึงอดีตทูตออสเตรีย ซึ่งข้าราชการบางคนจำเป็นต้องใช้หมายเรียกในการให้ถ้อยคำในเวลาราชการ และถ้าให้ทีมทนายความติดต่อนำตัวพยานมาเองก็จะถูกกล่าวหาว่าพยานดังกล่าวเข้าข้างนายสมัคร และไม่เป็นกลาง ซึ่งถ้าทำตามแนวทางของทีมทนายความ กระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นในเดือน ก.พ.นี้ และจะลบข้อครหาในเรื่องความเป็นธรรมของ คตส.
ด้าน นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ กล่าวว่า หลังจากที่อนุกรรมการฯ ได้รับฟังคำแถลงประเด็นของทีมทนายความและพยานแล้วจะพิจารณาอีกครั้งว่าสมควรออกหนังสือเรียกพยานคนใดเข้าให้ถ้อยคำเพิ่มเติม เพราะพยานทั้ง 20 ปากส่วนใหญ่ คตส.สอบมาหมดแล้ว หากมีประเด็นซ้ำซ้อนต้องตัดทิ้ง แต่หากไม่ซ้ำซ้อนก็พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งในส่วนของอดีตทูตออสเตรียที่นายสมัครอ้างเป็นพยานให้ คตส.สอบเพิ่มด้วยนั้น หาก คตส.มีหนังสือเรียกให้ถ้อยคำไปแล้วแต่ไม่มา คตส.ก็คงต้องตัดพยานปากนี้ออก เพราะถือว่าได้เรียกไปแล้ว
ทั้งนี้ อนุกรรมการฯ จะพยายามเร่งพิจารณาให้เสร็จในเดือน ก.พ.นี้ และหากนายสมัครได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่เกี่ยวกับการทำงานของ คตส. เพราะทำงานคนละหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้ส่งแจกันดอกไม้เพื่อให้กำลังใจในการทำงานมาให้ตน
