สั่ง “นายพล” แจงข้อเท็จจริง ดำเนินคดี “สุนัย” โฆษก ตร.โดดป้องลูกน้อง ชี้ทำตามขั้นตอน โยนบาปให้ศาลออกหมายจับ พร้อมพิสูจน์ข้อกล่าวหา “รัฐตำรวจ” หาก ป.ป.ช.ชี้มูลมีความผิด
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. ในฐานะรองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีที่ นายณฐพร โตประยูร ทนายความนายสุนัย นโนมัยอุดม เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ออกมาระบุว่ามีนายตำรวจระดับนายพลออกคำสั่งร้อยเวรให้ดำเนินคดีต่อนายสุนัยว่า ได้มีการพูดคุยกับ พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.จ.อยุธยาในเรื่องดังกล่าว และแนะนำให้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงตามข่าวที่ปรากฏ และในส่วนของสำนวนคดีตั้งแต่การรับเรื่อง การรวบรวมพยานหลักฐาน การออกหมายเรียก
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวอีกว่า หมายจับเป็นอำนาจของศาลในการออกคำสั่ง ไม่ใช่อำนาจของตำรวจ โดยส่วนตัวมองว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้ทำผิดระเบียบขั้นตอน แต่อาจไม่ถูกใจสังคม เพราะตำรวจอยู่ตรงกลางระหว่างผู้ถูกกล่าวหา และผู้กล่าวหาซึ่งเป็นที่จับตามองของคนในสังคมจึงต้องทำตามระเบียบ ซึ่งหลักการในการออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหา เป็นขั้นตอนการกระบวนการยุติธรรม เพื่อเป็นการพิสูจน์ความผิดตามที่ถูกกล่าวหา โดยมีพนักงานสอบสวนเป็นผู้มีอำนาจในการสั่งคดี ถ้าพยานหลักฐานไม่เพียงพอก็สามารถออกหมายเรียกมาสอบปากคำได้
“วิธีการออกหมายเรียกที่ตำรวจทำถามว่าจำเป็นหรือไม่ มองว่าอาจไม่จำเป็น ซึ่งได้สอบถามพนักงานสอบสวนว่าได้มีการรวบรวมหลักฐานจากส่วนอื่นหรือยังก็ได้รับการยืนยันว่าเก็บหลักฐานจากสื่อแล้วแต่ยังไม่เพียงพอจึงออกหมายเรียกนายสุนัย แต่เป็นการเรียกมาพบสอบถามข้อมูลไม่ได้ควบคุมตัว ซึ่งตำรวจก็พยายามทำตามระเบียบ” รองโฆษก ตร.กล่าว
ส่วนกรณีที่นายสุนัยได้ส่งเรื่องนี้ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อเอาผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกับพนักงานสอบสวน รอง โฆษก ตร.กล่าวว่า เรียงนี้เป็นขั้นตอนของ ป.ป.ช.ที่จะพิจารณาหากชี้มูลว่ามีความผิด พนักงานสอบสวนก็ถือว่ามีความผิด ไม่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนอีกสามารถถูกลงโทษให้ออกหรือไล่ออกเหมือนกรณีของ พล.ต.ต.มานิตย์ วงษ์สมบูรณ์ อดีต ผบก.น.1 ซึ่งก็เป็นข้อพิสูจน์เรื่องการถูกโจมตีว่าเป็นรัฐตำรวจนั้นเป็นไปไม่ได้เพราะมีองค์กรตรวจสอบอยู่ตลอด ถ้าตำรวจใช้อำนาจไปในทางที่ไม่ถูกต้องก็จะถูกลงโทษ