ตรัง – ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เรียกส่วนราชการติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบขบวนการบุกรุกป่า เผยข้อมูลพื้นที่ 10 อำเภอ ถูกบุกรุกร่วม 2 พันไร่ สั่งเปิดเผยข้อมูลข้าราชการและนายทุนร่วมกันเขมือบป่าเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (31 มี.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดตรัง ชั้น 3 นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามคดีเกี่ยวกับป่าไม้ และทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นในจังหวัดตรัง
ประกอบด้วย นายไชยยศ ธงไชย ปลัดจังหวัดตรัง นายเนติวิทย์ ขาวดี หัวหน้าชุดเฉพาะกิจไอยรา นายเสรี พาณิชย์กุล นายอำเภอสิเกา นายสิทธิพร ณ พัทลุง นายอำเภอนาโยง นายสัมพันธ์ เนตตกุล นายอำเภอวังวิเศษ รวมทั้งปลัดอำเภอในพื้นที่เสี่ยง และเกิดการบุกรุกพื้นที่ป่าเป็นลำดับต้นๆ ในช่วงระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ตลอดจน พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง
นอกจากนั้น ยังมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับรายงานสรุปคดีคดีเกี่ยวกับป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - วันที่ 30 มีนาคม 2551 โดยพบว่า พื้นที่ป่าในจังหวัดตรัง ทั้ง 10 อำเภอ มีการบุกรุกพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 2,000 ไร่ โดยพบว่ามีไม้สงวนในป่าสมบูรณ์ถูกตัดโค่น พร้อมการแปรรูป กว่า 400 ชิ้น
ประกอบด้วย ไม้ตะเคียน ไม้ยาง ไม้หลุมพอ ซึ่งถือเป็นไม้ที่มีขนาดใหญ่และมีอายุหลายสิบปี รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนกว่า 310,684,500 ล้านบาท โดยอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี จำนวน 107 คดี และมีการสั่งฟ้องแล้ว จำนวน 1 คดี รวมทั้งสิ้น จำนวน 108 คดี และมีผู้ต้องหา จำนวน 8 คน
จากการรายงานพบว่าพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงมีอยู่ทั้งหมด 5 อำเภอ คือ อำเภอนาโยง ซึ่งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด และเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่ชาติเขาปู่เขาย่า อำเภอปะเหลียน อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด และเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาบรรทัด อำเภอสิเกา อยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ตง.สิเกา อำเภอวังวิเศษ อยู่ในเขตพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบางปะคาม และเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าไสป่าแก และอำเภอรัษฎา อยู่ในเขตพื้นที่ตำบลหนองบัว
นอกจากนี้ จากการรายงานของนายอำเภอท้องที่ทราบว่า ในบางคดีนั้นมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่มีส่วนรู้เห็น และมีส่วนร่วมในการกระทำผิด โดยการเอื้อประโยชน์แก่ผู้กระทำผิด รวมทั้งมีผู้อิทธิพลในพื้นที่ ซึ่งจะคอยให้ความช่วยเหลือในการกระทำผิดป่าไม้ ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้สั่งการเน้นย้ำให้นายอำเภอท้องที่ มีการเอาจริงเอาจังกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐ รวมทั้งนายทุนผู้จ้างวานในการบุกรุกพื้นที่ป่า ทั้งรายใหญ่และรายเล็ก ไม่เฉพาะผู้รับจ้างตัดไม้ทำลายป่า ที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมมาได้เท่านั้น
นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ยังได้สั่งการให้มีการเปิดเผยข้อมูลรายชื่อเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ผู้นำท้องถิ่น และผู้มีอิทธิพล ให้แก่เจ้าหน้าทีตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เพื่อเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
นอกจากนี้ สำหรับพื้นที่ที่ได้มีการจับกุม พร้อมกับตรวจยึดพื้นที่ป่าที่มีการบุกรุกได้แล้วนั้น ขอให้นายอำเภอทุกพื้นที่สั่งการให้ผู้ที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้น ไม่ว่าจะเป็นกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน ทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงมายังจังหวัดตรังภายใน 7 วัน และหลังจากนี้เป็นต้นไป จะต้องมีการดำเนินการอย่างเข้มข้น เกี่ยวกับปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่า เพื่อให้ผืนป่าในจังหวัดตรังมีความอุดมสมบูรณ์ต่อไป