ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ตฉุนทรัพยากรทำงานไม่เป็นรูปธรรมในการปราบปรามจับกุมผู้บุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมประกาศจะนำชุดเฉพาะกิจลุยจัดการกับนายทุนผู้มีอิทธิพลบุกรุกป่าไม้เอง
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ ถึงการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่ทางมหาดไทยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 90 วัน
โดยเฉพาะการจัดการกับนายทุนและผู้มิอิทธิพลที่เข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติทุกประเภทว่า ขณะนี้ในการดำเนินการของหน่วยงานทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้นยังไม่เห็นผลการปฏิบัติงานที่เป็นรูปธรรมและยังไม่มีผลงานในการดำเนินการที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นหลังจากนี้จะต้องดำเนินการเข้าไปตรวจสอบทุกจุด และในการดำเนินการนั้นให้แยกการดำเนินการออกมาเป็น 2 ฝ่าย คือ การบุกรุกของกลุ่มนายทุน และการบุกรุกของชาวบ้าน
นายนิรันดร์ กล่าวถึงการร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องของบุกรุกส่วนป่าบางขนุนในพื้นที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ด้วยว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาด เพราะมีปัญหาการร้องเรียนเข้ามาบ่อยครั้งและไม่เข้าใจว่าทำไมถึงจัดการไม่ได้ รวมทั้งขณะนี้มีกระแสข่าวเกี่ยวกับเรื่องของนายทุนจ้างให้ชาวบ้านบุกรุกซึ่งเรื่องนี้ขอให้ตรวจสอบให้ชัดเจน หากพบว่าเป็นการบุกรุกของนายทุนตนจะนำกำลังเข้าดำเนินการจับกุมเอง
อย่างไรก็ตาม สำหรับการจับกุมผู้บุกรุกทำลายป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้นในรอบเดือนมีนาคม 2551 พบว่ามีการจับกุมการบุกรุกแผ้วถางป่าได้ 2 ราย โดยเหตุเกิดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิด หมู่ที่ 6 ต.กะทู้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ยึดของกลางไม้หวงห้ามแปรรูปชนิดไม้ตะเคียน
ส่วนรายที่ 2 เป็นการจับกุมการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเลนคลองบางชีเหล้า-คลองท่าจีน หมู่ที่ 2 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งทั้งว 2 รายที่เข้าไปทำการจับกุมไม่พบผู้กระทำความผิด
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ ถึงการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่ทางมหาดไทยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 90 วัน
โดยเฉพาะการจัดการกับนายทุนและผู้มิอิทธิพลที่เข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติทุกประเภทว่า ขณะนี้ในการดำเนินการของหน่วยงานทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้นยังไม่เห็นผลการปฏิบัติงานที่เป็นรูปธรรมและยังไม่มีผลงานในการดำเนินการที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นหลังจากนี้จะต้องดำเนินการเข้าไปตรวจสอบทุกจุด และในการดำเนินการนั้นให้แยกการดำเนินการออกมาเป็น 2 ฝ่าย คือ การบุกรุกของกลุ่มนายทุน และการบุกรุกของชาวบ้าน
นายนิรันดร์ กล่าวถึงการร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องของบุกรุกส่วนป่าบางขนุนในพื้นที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ด้วยว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาด เพราะมีปัญหาการร้องเรียนเข้ามาบ่อยครั้งและไม่เข้าใจว่าทำไมถึงจัดการไม่ได้ รวมทั้งขณะนี้มีกระแสข่าวเกี่ยวกับเรื่องของนายทุนจ้างให้ชาวบ้านบุกรุกซึ่งเรื่องนี้ขอให้ตรวจสอบให้ชัดเจน หากพบว่าเป็นการบุกรุกของนายทุนตนจะนำกำลังเข้าดำเนินการจับกุมเอง
อย่างไรก็ตาม สำหรับการจับกุมผู้บุกรุกทำลายป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้นในรอบเดือนมีนาคม 2551 พบว่ามีการจับกุมการบุกรุกแผ้วถางป่าได้ 2 ราย โดยเหตุเกิดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิด หมู่ที่ 6 ต.กะทู้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ยึดของกลางไม้หวงห้ามแปรรูปชนิดไม้ตะเคียน
ส่วนรายที่ 2 เป็นการจับกุมการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเลนคลองบางชีเหล้า-คลองท่าจีน หมู่ที่ 2 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งทั้งว 2 รายที่เข้าไปทำการจับกุมไม่พบผู้กระทำความผิด