xs
xsm
sm
md
lg

ไทยแป๊ปเปอร์ นำพริกเม็กซิกัน Jarapeno ปลูกในไทย สร้างรายได้เกษตรกรหลักล้านบาท / ฤดูกาล 4 เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พริกเม็กซิกันสายพันธุ์ Jarapeno มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเม็กซิโก มีลักษณะทุกอย่างเหมือนกับพริกทั่วไป ผลมีรูปทรงกลมรีและอ้วนคล้ายผลพริกหยวก แต่เปลือกผลจะไม่ย่น ผลโตเต็มที่ยาวประมาณ 2.5–3 นิ้วฟุต เปลือกผลหนา ผลสุกเป็นสีเหลืองปนแดง มีเมล็ดจำนวนมาก ซึ่ง เมล็ดจะมีรสเผ็ดมาก นิยมเอาเฉพาะเปลือกผลทั้งดิบและสุกปรุงเป็นอาหาร ขยายพันธุ์ด้วยเมล็


พริกเม็กซิกัน ปลูกในไทย

สำรับพริกเม็กซิกัน Jarapeno จะพบเห็นได้ในอาหารชาติตะวันตก อย่างเช่น พิซซ่า หรือ ไก่ทอด ชื่อดัง ใช้พริกเม็กซิกัน ตามโรงแรมต่างๆ ที่ทำอาหารเสิร์ฟลูกค้าต่างชาติ นำเข้าพริกเม็กซิกัน ด้วยเหตุนี้ เอง คุณทัศนีย์ จินดายก เจ้าของ บริษัท ไทยเป๊ปเปอร์ โปรดักส์ จำกัด เล็งเห็นถึงโอกาสทางการตลาด จึงได้เกิดไอเดียที่ทำผลิตภัณฑ์แปรรูปจากพริกเม็กซิกัน Jarapino ออกมาจำหน่ายให้กับกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม และร้านอาหารเม็กซิกันในประเทศไทย เพราะทุกเมนูอาหารเม็กซิกัน ก็จะต้องใช้พริกชนิดนี้

ที่ผ่านมา ในประเทศไทยมีการปลูกพริกเม็กซิกัน Jarapeno ที่โครงการหลวงเพียงแห่งเดียว เพราะด้วยสภาพอากาศที่พืชชนิดนี้ ต้องปลูกในโรงเรือนควบคุมอากาศไม่ให้ร้อนเกินไป อุณหภูมิไม่เกิน 25-26 องศาเซลเซียล พื้นที่ราบจึงปลูกพริกชนิดนี้ได้ผลผลิตไม่ดี ทำให้เห็นการปลูกพริกเม็กซิกันในประเทศไทยไม่ได้เยอะมาก ทั้งที่ความต้องการพริกชนิดนี้มีสูง


ทาง “คุณทัศนีย์” เห็นว่าโครงการหลวงปลูกได้ ทดลองนำเข้าเมล็ดพันธุ์ มาปลูกบ้าง โดยให้เกษตรกรอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่บนดอยน่าจะปลูกและได้ผลผลิตดี ทำการทดลองปลูกและถ้าปลูกได้เราก็จะลุยเดินหน้าแปรรูปและรับซื้อผลผลิตทั้งหมด ในลักษณะของคอนเท็กฟาร์มมิ่ง แต่ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะพืชที่ยังใหม่สำหรับเกษตรกร และใหม่สำหรับคุณทัศนีย์ ทำให้เธอต้องศึกษา และพัฒนาอยู่ระยะหนึ่งร่วมกับเกษตรกร กว่าจะได้ผลผลิตออกมาอย่างทุกวันนี้


ต้นตำรับแปรรูปพริกเม็กซิกันในไทย ลดการนำเข้า

คุณทัศนีย์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจของ ไทยเป๊ปเปอร์ โปรดักส์  ว่า เริ่มต้นขึ้นเมื่อ เมื่อปี 2549 ที่ อำเภอ แม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยตนเองได้เริ่มนำพริกเม็กซิกันสายพันธุ์ Jarapeno เข้ามาทดลองปลูกในประเทศ เพราะเล็งเห็นว่าร้านอาหารเม็กซิกันในเมืองไทย รวมถึงโรงแรมหลายแห่งยังต้องนำเข้าพริกสายพันธุ์นี้ และตนเองอยู่ในพื้นที่ อำเภอแม่สาย ซึ่งน่าจะปลูกพริกสายพันธุ์นี้ ได้ ตอนนี้ ทางโครงการหลวงมีการปลูกและได้ผลผลิตดี

อย่างไรก็ดี พอเริ่มนำเมล็ดพันธุ์ มาให้เกษตรกรปลูก ในระยะแรกประสบปัญหาหลายด้าน ทั้งเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ได้คุณภาพ พื้นที่เพาะปลูก สภาพภูมิอากาศ แต่เราก็ได้พยายาม ศึกษา พัฒนาการปลูกพริกร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่ จนได้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ ได้ปริมาณตามที่ต้องการ เพื่อมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตามที่ตลาดต้องการ เช่น พริกดอง ซอสพริก พริกรมควัน และส่วนผสมของซอสต่างๆ หลังจากนั้นในปี 2550 เริ่มผลิตสินค้าตัวแรกจากพริกเม็กซิกันออกมาได้เป็นผลสำเร็จ นั่นคือ พริกดอง และได้ไปขอรับรองมาตรฐานอาหารจาก อย.และได้มาตรฐานการผลิต GMP และ Haccp พร้อมกับการทำตลาด เจาะกลุ่มร้านอาหารเม็กซิกันในโรงแรม ซึ่งสินค้าได้รับการตอบรับทีดีมาก ลูกค้าค่อนข้างพอใจกับ พริกดองเม็กซิกันที่เราผลิต ได้คุณภาพเทียบได้ บางครั้งดีกว่าสินค้านำเข้า เพราะของเราสดและใหม่กว่า


สร้างรายได้เกษตรกร หลักแสนหลักล้านบาทต่อฤดูกาล

โดยปัจจุบันในส่วนของการแปรรูปพริกเม็กซิกัน ที่ผลิตโดยเกษตรกรที่เพาะปลูกในประเทศไทย ที่ทำคอนเท็กฟาร์มมิ่งกับเรามีอยู่ประมาณ 10 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เกษตรกรคนรุ่นใหม่ Young smart farmer เกือบทั้งหมด การลงทุนทำฟาร์มจะเป็นการปลูกในแบบการทำเกษตรสมัยใหม่ที่เป็นการปลูกในโรงเรือนระบบปิดเป็นหลัก เพราะได้ควบคุมเรื่องสารปนเปื้อน และแมลงศรัตรูพืชได้ด้วย ซึ่งการลงทุนของเกษตรกรบางรายลงทุนหลักล้านบาท แต่ไม่ได้ปลูกเฉพาะพริกเม็กซิกัน มีการปลูกพืชอื่นผสมผสานไปด้วย เพราะพริกเม็กซิกันจะให้ผลผลิตตามฤดูกาล เป็นพืชที่ปลูกค่อนข้างยาก ผลผลิตจะออกช่วงเดือน ธันวาคม ถึง เมษายน ถ้าอากาศมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ผลผลิตแทบจะไม่ออกเลย ดันให้พริกมีราคาแพง โดยราคาในปัจจุบัน ถ้าเป็นราคาปกติ อยู่ที่กิโลกรัมละ 80 – 90 บาท แต่ถ้าผลผลิตน้อย อยู่ที่กิโลกรัมละ 100-110 บาท

สำหรับผลผลิตที่ทางบริษัทรับซื้อจากเกษตร ประมาณ 90 ตัน เกษตรกรมีรายได้เฉลี่ย บางรายก็หลักล้านบาท บางรายต่ำๆ ก็ประมาณ 200,000-300,000 บาท ต่อฤดูกาลเก็บผลผลิต 4 เดือน ซึ่งเกษตรกรนอกจากปลูกพริกเม็กซิกัน ในโรงเรือนมีปลูกพืชชนิดอื่นๆ ร่วมด้วย เพราะต้นทุนการปลูกพริกเม็กซิกันจะสูงกว่าพืชชนิดอื่นๆ ทำให้ต้องปลูกพืชชนิดอื่นๆ ร่วมด้วย


คุณทัศนีย์ กล่าวถึงการนำผลผลิตมาแปรรูปว่า ปัจจุบัน นอกจากพริกดองมีสินค้าประเภทอื่นๆ ด้วย โดยสินค้าจำหน่าย หลักๆ ในตอนนี้ มี 15 รายการ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากพริกในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ พริกดอง, ซอส BBQ ซอสSalsa , Hot Sauce Tartar และ ซอสพริก4 ชนิด Hot sauce Hot extra sauce Green sauce Chipotle ส่วนสินค้าที่ขายดีได้รับความนิยมจากผู้บริโภค คือ Hot sauce, Extra และ chipotle โดยโรงงานผลิตตั้งอยู่ใกล้ๆ กับแหล่งปลูกพริก เพื่อลดขั้นตอนการขนส่งจะได้พริกที่สดใหม่มาใช้ในกระบวนการผลิต โรงงานตั้ง อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย นอกจากผลิตภัณฑ์แปรรูปจากพริกแล้ว ทางโรงงานยังผลิตชีส จากนมวัว และนมแพะ ได้วัตถุดิบนม จากสหกรณ์โคนมที่เลี้ยงดูโดยเกษตรกรท้องถิ่น ใน จ เชียงราย ซึ่งเราได้คัดสรรนมคุณภาพระดับพรีเมี่ยม มาผลิตเป็นชีสที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร


เจาะกลุ่มตลาดร้านอาหาร และโรงแรม

ในส่วนลูกค้าของ ไทยเป๊ปเปอร์ แบ่งเป็นกลุ่มร้านอาหาร โรงแรม และ ธุรกิจ OEM มีต่างชาติสนใจต้องการสั่งสินค้าของเราแต่ติดปัญหาเรื่องความสามารถในการผลิตของเรายังไม่มากพอ การส่งออกได้ ต้องผลิตสินค้าได้เป็นตู้คอนเทรนเนอร์ และผลผลิตพริกที่ได้ก็ยังไม่เพียงพอที่จะนำมาผลิตสินค้าจำนวนมากๆ ได้

ปัจจุบัน พฤติกรรมการบริโภค ของคนยุคใหม่ มีความเร่งรีบ ชื่นชอบ ความสะดวกสบาย นิยมบริโภคอาหารจานด่วน อาหารฟาสต์ ฟู้ดมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดกลุ่มลูกค้าของไทยเป๊ปเปอร์มีการขยายตัวตามไปด้วยโดย อาหารแม็กซิกัน อย่างพิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ นั้นเป็นเมนูจานโปรด เป็นอาหาร ที่หลายๆคนชื่นชอบ และผลิตภัณฑ์ของเราอย่าง พริกดอง ซอส BBQ Salsa ซึ่งเป็นเสมือนท๊อปปิ้ง หรือ เครื่องเคียง ที่ขาดไม่ได้” คุณทัศนีย์ กล่าวในที่สุด

ติดต่อ โทร. 08-6191-0495
www. thaipepperproducts.com

คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น