xs
xsm
sm
md
lg

เด็กไทยมีภาวะอ้วน ติด 1 ใน 3 ของอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมอนามัย เผยเด็กไทยมีภาวะอ้วน ติด 1 ใน 3 ของอาเซียน อายุ 0-5 ปี พบ 9.13% วัยเรียน 6-14 ปี 13.4% และวัยรุ่น 15-18 ปี 13.2% คาดปี 73 เด็กต่ำกว่า 20 ปี มีภาวะอ้วนอีกเกือบครึ่ง

เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า วันที่ 4 มี.ค.เป็นวันโรคอ้วนโลก (World Obesity Day) ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังภาวะเริ่มอ้วนและอ้วนในเด็กของกระทรวงสาธารณสุข (Health Data Center) วันที่ 16 ก.พ. 2566 พบว่า เด็กอายุ 0-5 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน 9.13% เด็กวัยเรียน 6-14 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน 13.4% และเด็กวัยรุ่น 15-18 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน 13.2% ติด 1 ใน 3 ของอาเซียน จากการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มในเด็ก พบว่า เด็กประมาณ 1 ใน 3 คน ดื่มนมรสหวานทุกวัน กินขนมกรุบกรอบทุกวัน และดื่มน้ำอัดลมทุกวัน และ 1 ใน 5 คน ดื่มน้ำหวาน น้ำผลไม้ทุกวัน ส่วนการเลือกซื้อของเด็กไทย ปี 2563 พบว่า ส่วนใหญ่ซื้ออาหารตามความชอบ 27.7% มีเพียง 8.1% ที่คำนึงถึงคุณค่าทางอาหาร คาดการณ์ภายในปี 2573 ประชากรอายุต่ำกว่า 20 ปี จะมีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนสูงขึ้นอีกเกือบร้อยละ 50

สาเหตุส่วนใหญ่เกิดพฤติกรรมการกินอาหารที่มีปริมาณไขมัน น้ำตาล และโซเดียมสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน อาหารทอด มัน อาหารจานด่วน ขนมขบเคี้ยว เบเกอรี และขนมหวานต่างๆ รวมทั้งเด็กมีภาวะตัดสินใจเลือกซื้ออาหารน้อย ประกอบกับกลยุทธ์การตลาด ลด แลก แจก แถม ชิงโชค ชิงรางวัล ทำให้การกินอาหารและเครื่องดื่มหวาน มัน เค็มกลายเป็นเรื่องปกติ อาจส่งผลไปยังสุขภาพในอนาคตของเด็กไทย ดังนั้น พ่อแม่ ผู้ปกครอง และโรงเรียนที่อยู่ใกล้ชิดเด็กมากที่สุด จึงควรสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพเด็กในการเลือกซื้ออาหารและส่งเสริมโภชนาการที่ดีให้ครบ 5 หมู่ ปริมาณที่เหมาะสม เลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ขนมหวานไม่ควรเกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์

ส่วนการออกกำลังกายก็สำคัญ ทำให้เด็กได้พัฒนาร่างกาย กล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อต่างๆ และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็ก ไม่เจ็บป่วยง่าย ออกกำลังกายง่ายๆ เช่น แอโรบิก วิ่ง ปั่นจักรยาน กระโดดตบ กระโดดเชือก ซิตอัป ดันพื้น ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ อย่างน้อย 60 นาทีทุกวัน สะสมต่อเนื่อง 10 นาทีขึ้นไป แต่ต้องอยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่เพื่อป้องกันอุบัติเหต หรือออกกำลังกายร่วมกันกับพ่แม่ การนอนยิ่งสำคัญ เด็กอายุ 6-13 ปี ควรนอนหลับสนิทวันละ 9–11 ชั่วโมง สำหรับเด็กอายุ 14-17 ปี วันละ 8–10 ชั่วโมง ช่วยพัฒนาสมรรถภาพของหัวใจ สมอง การเจริญเติบโต ให้สมวัย สูงสมส่วน และแข็งแรงอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น