การเปลี่ยนแปลงบนโลกสื่อสารมวลชน การเข้ามาของสื่อดิจิทัล ทำให้ความมั่นคงของสื่อหลักค่อยๆหมดไป เป็นเหตุผลที่ทำให้วันนี้ “คำรณ หว่างหวังศรี” นักข่าวชาวบ้าน ภาคสนามชื่อดัง กับสโลแกน (นะจะบอกให้) ยังต้องทิ้งอุดมการณ์ที่ว่า ไม่มีวันที่ผมจะไปหาผลประโยชน์ หรือเอาเงินชาวบ้านเด็ดขาด จะอยู่กับอาชีพสื่อไปจนวันตาย
“หลายคนเจอผม มักจะถามผมว่า “คุณคำรณ” ไม่คิดจะค้าขายอะไรที่เป็นกิจการของคุณเองบ้างเหรอ คำพูดนี้ ผมได้ยินมาตั้งแต่ 30 ปีก่อน ผมบอกไปว่า ผมไม่เคยมองเชิงการค้า ไม่เคยคิดว่าจะไปเอาเงินชาวบ้าน ผมมองชีวิตผู้คน ได้อยู่กับชาวบ้านไม่ต้องการอะไร ความสุขของผม คือ การทำให้ชาวบ้านมีความสุข มีเสียงหัวเราะ ผมต้องการแค่นี้ ผมคิดว่าเราอยู่กับการทำสื่อแบบนี้ไปจนตายจากกัน แต่วันนี้เป็นแค่ความคิดเราต้องอยู่บนความเป็นจริง ยังต้องกิน ต้องใช้” คำรณกล่าว
“น้ำปลาร้าปรุงรส ตรา คำรณ (นะจะบอกให้)” ในครั้งนี้ เกิดขึ้น เมื่อ 3 เดือนก่อนหน้านี้ ที่ผ่านมามีคนมาชวนผมทำธุรกิจ ค้าขายต่างๆ มากมาย เพราะเห็นว่า ชื่อเสียงของผมเป็นแบรนด์ที่สร้างชื่อให้กับสินค้าของเขาได้ ผมเองก็ปฏิเสธมาตลอด จนกระทั่ง การเปลี่ยนแปลงของสื่อสารมวลชน สื่อดิจิทัลเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลก ทำให้สื่อหลักที่ผมทำอยู่วันนี้ ก็ต้องโดนเบียดบังไป การที่ผมคิดว่าจะอยู่กับการเป็นสื่อไปจนวันตาย อย่างที่ผมคิดในอดีต คงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว แต่ในขณะที่ผมเองก็ยังต้องกินต้องใช้ ต้องหาเงิน ต้องใช้เงิน ถ้าไม่ทำอะไร หรือ ไม่คิดเชิงการค้า มองแค่อุดมการณ์ การเป็นสื่ออย่างเดียว ต่อไปเราก็คงจะต้องอดตาย ผมบอกเลยว่า ถ้าผมไม่ต้องใช้เงิน หรือ มีเงินมากพอ ผมก็คงไม่คิดจะเอาเงินชาวบ้านแบบนี้ แน่นอน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า เราจะมีคนรู้จักมากมาย แต่การที่เราจะเอาชื่อเสียงที่สั่งสมมา เป็นแบรนด์ขายสินค้า และไปเอาเงินชาวบ้าน แต่เราก็เลือกที่จะตอบแทนชาวบ้าน โดยให้สิ่งที่ดีที่สุดและให้ประโยชน์สูงสุดแก่ทุกคน เพื่อตอบแทนชาวบ้านช่วยสนับสนุนสินค้าของเรา เพราะต่อไป ผมคงไม่ได้แค่ทำน้ำปลาร้า ผมมีแผนที่จะใช้ ชื่อ “คำรณ” ในการทำผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ที่ผมคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้าน และทำให้ผมมีรายได้เลี้ยงตัวเองในยามแก่ เฒ่า ช่วงที่เราไม่สามารถทำรายการผ่านสื่อได้
สำหรับที่มาของน้ำปลาร้า เกิดขึ้นมาจากผมได้รู้จก กับอำนวยการภาคอีสาน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ซึ่ง ผอ.เกษียณอายุไปแล้ว ไปทำน้ำปลาร้า ซึ่งน้ำปลาร้าของผอ. แตกต่างจากน้ำปลาร้าทั่วไป เพราะทำมาจากน้ำแร่ อยู่ที่ตำบลน้ำร้อน อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ และวันหนึ่งผอ.มาชวนขายน้ำปลาร้า ผมเห็นว่า น้ำปลาร้าของ ผอ.มีข้อดี แตกต่างจากน้ำปลาร้าทั่วไป เพราะผลิตโดยการนำเนื้อปลากระดี๋มาเป็นวัตถุดิบหลัก และทำการต้มโดยน้ำแร่ธรรมชาติใต้ดินบ้านน้ำร้อน จังหวัดเพชรบูรณ์ และการทำในน้ำแร่ ทำให้ได้น้ำปลาร้ากลิ่นไม่ฉุนรุนแรง แต่ยังมีความเป็นน้ำปลาร้าอยู่
“จากการเดินทางไปทำงานไปทั่วประเทศ ทำให้ผมรู้ว่า คนไทยกว่า 80% กินปลาร้า และวันนี้ ปลาร้า มีการปรับเป็นน้ำปลาร้า ทำให้คนรุ่นใหม่ หันมากินปลาร้ามากขึ้น แม้ว่า ในท้องตลาดมีแบรนด์น้ำปลาร้าปรุงรสกว่า 40-50 แบรนด์ แต่ความแตกต่างตรงน้ำแร่ และชื่อเสียงของผม จะทำให้คนหันมาซื้อน้ำปลาร้าของเรา และถ้าเขาได้ชิมก็น่าจะชอบและกลับมาซื้อน้ำปลาร้าของเราในครั้งต่อไป เหมือนกับปากกาแตกต่างกัน ใครชอบปากกาที่ผมออกแบบ เขาก็มาซื้อปากกาของ คำรณ ทุกคนก็มีความเป็นตัวตนของตัวเอง แล้วแต่ว่าใครชอบแบบไหนก็จะซื้อแบบนั้น”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ตลอด 3 เดือน “คำรณ” เลือกลงพื้นที่ ไปแนะนำน้ำปลาร้าด้วยตัวเอง ซึ่งสิ่งที่เขาได้สัมผัส แตกต่างจากการออกไปทำงานสื่อที่ทำอยู่ เพราะบางคนจำได้ บางคนพอรู้ว่าเขาจะไปขายของก็ทำเป็นจำไม่ได้บ้าง ใครต้อนรับหรือ จดจำเขาได้ เขาก็ขอนำสินค้าไปวางขายหน้าร้าน ซึ่งมีร้านขายของฝากหลายจังหวัดยอมให้เขาได้นำน้ำปลาร้าไปวางขาย
“ การที่ผมเลือกลงพื้นที่ ไปขายน้ำปลาร้าเอง เพราะรู้ว่าส่วนตัวผมรู้จักคนเยอะ น่าจะได้รับการตอบรับที่ดี และไม่ได้จะเอาของไปขายอย่างเดียว บางส่วน นำไปแจกให้คนทั่วไปได้ลองชิม หลายคนที่ชิมส่วนใหญ่จะชอบ ผมรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน ช่วยซื้อบ้าง และที่ผมลงพื้นที่แนะนำน้ำปลาร้าด้วยตัวเอง เพราะส่วนหนึ่งต้องการจะสัมผัสการทำตลาดด้วยตัวเอง ว่า คนรู้สึกอย่างไร ถ้าผมจะหันมาขายของ ซึ่งมีทั้งที่คนให้การตอบรับดี และบางคนก็มองไม่ดี แต่ได้บทเรียนชีวิตที่ได้สัมผัส สักครั้งหนึ่ง เพราะเราไม่ได้มีเงินที่จะใช้ไปกับการทำประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ และเราคนทำสื่อเราก็รู้อยู่ว่าต้องใช้เงินเยอะ และไม่รู้ว่าทำไปแล้วจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่เราเอาชื่อเสียงของเราแบบนี้ และค่อยๆ ทำไป ทำแบบน้ำซึมบ่อทราย สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จได้เอง”
“คำรณ” กล่าวถึงแผนการทำตลาดว่า มีแผนที่จะนำน้ำปลาร้า ของเขาเข้าไปขายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 แต่ทางเซเว่น ต้องการให้น้ำปลาร้าเป็นที่รู้จักมากกว่านี้เสียก่อน เพราะจากประสบการณ์สินค้าที่ไม่เป็นที่รู้จัก นำไปวางขายในเซเว่น ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะคนไม่รู้จักแบรนด์ ก็จะไม่หยิบ ส่วนช่องทางอื่นๆ ตอนนี้ ผมก็มีนำไปวางในร้านขายของฝากหลายจังหวัด และลูกค้าในต่างประเทศอย่างในสหรัฐอเมริกา สนใจโทรเข้ามาขอเป็นตัวแทนเพื่อนำน้ำปลาร้าของเราไปขายที่อเมริกา
ทั้งนี้ “คำรณ” บอกว่า หลังจากที่ตนเองเปิดตัวที่จะใช้ชื่อเสียงตัวเองมาทำแบรนด์ ขายสินค้า มีคนติดต่อเข้ามา ขอใช้ชื่อคำรณ ในการทำแบรนด์สินค้าหลายตัว แต่ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงที่เสียไป ถ้าเลือกทำสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ และที่สำคัญ สินค้านั้นต้องเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้าน เพราะเมื่อตัดสินใจว่าจะไปเอาเงินชาวบ้าน เราก็ต้องหาสิ่งที่ดีที่สุดและเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านมากที่สุดด้วย
สำหรับประวัติ “คำรณ หว่างหวังศรี” จุดเริ่มต้นการเป็นนักข่าวชาวบ้าน เนื่องจากครอบครัวอาชีพเกษตรกรในวัยเด็กซึมซับการเป็นเกษตรกร ทำให้เล็งเห็นว่าเป็นอาชีพที่ยากลำบาก จึงตั้งใจเรียนหนังสือ เมื่อมาเห็นเรื่องราวแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดต่าง ๆ ก็เกิดความสนใจ ตอนเรียนนั้นก็สอบติดในสายงานหนังสือพิมพ์ จนก้าวขึ้นมาสู่หน้าจอทีวี ที่ผ่านมาไม่เคยคิดว่าจะมีชื่อเสียง แต่มาโด่งดังมากกับบทบาททางช่อง 7 มีเงินจำนวนมาก แต่วันหนึ่งต้องออกจากช่อง 7 และย้ายมาอยู่ที่ใหม่ทางช่อง 3 ด้วยค่าตอบแทนมากกว่า 40 เท่าจากเดิม และพอดิจิทัล เข้ามา ไม่ใครแบกใครได้แล้ว ต้องหาโฆษณากันเอาเอง ทำทีวีจนหมดตัว ขายบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ ที่มีอยู่จนต้องเช่าบ้านอยู่ จากวันนั้น ไม่เคยคิดขายของ แต่วันนี้ พร้อมลุยกับธุรกิจที่การันตีด้วยชื่อเสียงของเขา ...คำรณ หว่างหวังศรี
สนใจ โทร.08-1761-6645
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
www.facebook.com/SMEs.manager">
SMEs manager