xs
xsm
sm
md
lg

‘Wash Mobil’ ล้างรถดีลิเวอรี่ ชูมาตรฐานเชื่อมไอที ติดปีกแฟรนไชส์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แบรนด์ “วอช โมบิล” (Wash Mobil) เข้าสู่ธุรกิจล้างรถดีลิเวอรี่ ประมาณ 1 ปี ด้วยการชูบริการได้มาตรฐานระดับคาร์แคร์ ที่สำคัญนำระบบไอที มาช่วยบริหารจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการทำงาน ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว และต่อยอดเป็นแฟรนไชส์ เพื่อมุ่งขยายฐานลูกค้าสู่หัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ

กิตติชัย ธรรมพัฒนาภรณ์ เจ้าของธุรกิจ บอกจุดเด่นของ Wash Mobil คือ สร้างมาตรฐานงานบริการที่ดี ลูกค้าไว้วางใจได้ เริ่มตั้งแต่พนักงานแต่งชุดฟาร์ม ขับขี่มอเตอร์ไซค์ในโทนสีส้ม-ดำ เป็นรูปแบบเดียวกันทั้งหมด ซึ่งก่อนที่พนักงานจะออกปฏิบัติงานจริง ผ่านการอบรมมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน และหลังจากบริการเสร็จแล้ว จะมีโทรศัพท์สอบถามความพึงพอใจหรือปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึง รับประกัน หากรถเกิดความเสียหายจากการทำความสะอาดของพนักงาน ยินดีจะรับผิดชอบค่าเสียหายเต็มจำนวน
กิตติชัย ธรรมพัฒนาภรณ์ เจ้าของธุรกิจ
นอกจากนั้น นำระบบไอทีมาช่วยบริหารจัดการ โดยจะรับคำสั่งจากลูกค้าผ่านออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ไอจี และไลน์ รวมถึงแบบ call center หลังจากนั้น ข้อมูลจะถูกบันทึกลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ส่วนกลาง เพื่อนำไปจัดวางคิววิ่งรถให้พนักงานออกบริการได้รวดเร็วตรงต่อเวลา และมอเตอร์ไซค์ทุกคันจะติดตั้งระบบ GPS สามารถตรวจสอบจุดที่อยู่ปัจจุบันได้ตลอดเวลา

“ผมเชื่อว่า สิ่งสำคัญของธุรกิจล้างรถดีลิเวอรี่ ลูกค้าต้องไว้วางใจและมีบริการที่ดี ดังนั้น ผมจัดวางรูปแบบการทำงานของเราให้เป็นแบบมืออาชีพมากที่สุด ประกอบกับนำระบบไอทีมาช่วยเสริมประสิทธิภาพบริการดีลิเวอรี่ให้สะดวกรวดเร็วขึ้น ซึ่งตรงกับเทรนด์คนรุ่นใหม่ ที่ปัจจุบันนิยมเรียกใช้บริการต่างๆผ่านออนไลน์สูงมาก” กิตติชัย กล่าว

สำหรับมอเตอร์ไซค์ที่จะขับไปให้บริการล้างรถนั้น เขาให้ข้อมูลว่า จ้างวิศวกรออกแบบให้เป็นการเฉพาะ สามารถบริการล้างรถได้ครบวงจร โดยบรรทุกน้ำเปล่าได้ถึง 60 ลิตร ในกรณีน้ำหมดหรือไม่พอ พนักงานจะแวะเติมตามปั๊มน้ำมัน อีกทั้งมีชุดแบตเตอรี่ในตัวไว้สำหรับเสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เพียงพอจะล้างรถได้ 5 คันต่อวัน นอกจากนั้น ติดตั้งเครื่องมือและน้ำยาต่างๆ ในการล้างรถไว้ครบถ้วน

ด้านบริการมีตั้งแต่ล้างรถดูดฝุ่น ล้างห้องเครื่อง อบโอโซน ขัดเงา และเคลือบแก้ว เป็นต้น ค่าบริการเริ่มตั้งแต่ 260 บาทไปจนถึง 18,000 บาท (ขึ้นอยู่กับบริการ และขนาด/ประเภทรถ) บวกค่าเดินทาง 40-100 บาท (ตามแต่ระยะ) ใช้เวลาล้างเฉลี่ย 45 นาทีต่อคัน

กิตติชัย เผยด้วยว่า ประกอบธุรกิจนี้ มาประมาณ 1 ปี เนื่องจากส่วนตัวเป็นคนรักรถ และได้ศึกษาธุรกิจล้างรถ ทำให้เห็นโอกาส จากที่แทบทุกคนที่มีรถต้องใช้บริการล้างรถ และมีอัตราใช้ซ้ำต่อเนื่อง ขณะที่บริการแบบดีลิเวอรี่ ช่วยประหยัดต้นทุนการเปิดหน้าคาร์แคร์ถึง 30% และยังตอบไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว

ทั้งนี้ ใช้เงินลงทุนธุรกิจประมาณ 1 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าออกแบบและดัดแปลงมอเตอร์ไซค์ ค่าวางระบบไอที ค่าอุปกรณ์ล้างรถ และค่าว่าจ้างโรงงานผลิตน้ำยาล้างรถต่างๆ แบรนด์ Wash Mobil โดยคุณภาพน้ำยา ยืนยันว่าเป็นเกรดที่ดีที่สุด

เขาบอกด้วยว่า กลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการ Wash Mobil ส่วนใหญ่ คือ เจ้าของกิจการขนาดกลางและเล็กที่มักไม่มีเวลาล้างรถเอง กับกลุ่มแม่บ้านที่ไม่ชอบการล้างรถ นอกจากนั้น กลุ่มคนที่ชอบเรียกไปล้างรถระหว่างตัวเองทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นฟิตเนส นวดสปา ตีกอล์ฟ เป็นต้น เฉลี่ยใช้จ่ายประมาณ 300-600 บาทต่อครั้ง

ผมเริ่มต้นจากมีมอเตอร์ไซค์ให้บริการแค่ 1 คัน ทำตลาดเบื้องต้นอาศัยผ่านสื่อออนไลน์ เดือนแรกมีลูกค้าเรียกใช้แค่ 40-50 คน แต่หลังจากนั้น เริ่มมีการเรียกใช้บริการซ้ำ และได้กระแสบอกต่อ ปัจจุบัน ปริมาณลูกค้าใช้บริการประมาณ 400 รายต่อเดือน เพิ่มมอเตอร์ไซค์บริการเป็น 8คัน โดยเฉลี่ยในหนึ่งวัน มอเตอร์ไซค์หนึ่งคันให้บริการลูกค้าประมาณ 4 ราย ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล” เขาเผย
บรรจุน้ำได้ 60 ลิตร
จากอัตราการเติบโตของลูกค้าดังกล่าว กิตติชัยต่อยอดธุรกิจเปิดขายแฟรนไชส์ โดยเข้าอบรมพัฒนาระบบแฟรนไชส์จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยผู้สนใจมาเป็นแฟรนไชส์ Wash Mobil ต้องเปิดในพื้นที่หัวเมืองใหญ่ตามภูมิภาคเท่านั้น เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต และชลบุรี เป็นต้น และต้องเป็นจังหวัดที่มีปริมาณจดทะเบียนรถใหม่ 5 ปีย้อนหลังเกิน 1 แสนคันขึ้นไปจึงได้เข้าเกณฑ์พิจารณา ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ทางส่วนกลางจะเป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อป้องกันปัญหาแย่งลูกค้ากันเอง

แฟรนไชส์ Wash Mobil ใช้เงินลงทุน 4.9 แสนบาท ได้รับชุดอุปกรณ์ น้ำยา ชุดยูนิฟอร์ม โปรแกรมคอมพิวเตอร์รับคิวลูกค้า อบรมพนักงาน เป็นต้น ส่วนมอเตอร์ไซค์ให้ยืมใช้ พร้อมการซ่อมบำรุงตลอดอายุสัญญา นอกจากนั้น มีการสนับสนุนจากส่วนกลาง เช่น ที่ปรึกษาธุรกิจ และทำตลาดจากส่วนกลาง ตั้งงบไว้กว่า 4 แสนบาท

รูปแบบระบบบริการของ wash mobil
เงื่อนไขแฟรนไชซีต้องซื้อน้ำยาล้างจากส่วนกลางเท่านั้น รวมถึง มีหน้าที่ทำตลาดหาลูกค้าในพื้นที่ และรับผิดชอบค่าแรงพนักงานเอง ซึ่งควรมีอัตราลูกค้าใช้บริการประมาณ 200 รายต่อเดือนขึ้นไป จะทำให้มีกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆอยู่ที่ประมาณ 40% ของรายได้ และมีอัตราคืนเงินลงทุนภายในเวลา 1.8 ปี
รูปแบบลงทุนแฟรนไชส์
สิ่งที่ได้รับจากการซื้อแฟรนไชส์
สำหรับระบบแฟรนไชส์ที่วางไว้ เมื่อลูกค้าแจ้งคำสั่งล้างรถเข้ามาทางออนไลน์ ข้อมูลจะถูกส่งมาที่คอมพิวเตอร์ส่วนกลาง จากนั้นระบบจะจัดคิวให้บริการส่งกลับไปยังแฟรนไชส์สาขาต่างๆ ทำให้รู้ยอดลูกค้า และยอดการใช้น้ำยาล้าง เป็นการตรวจสอบสาขาแฟรนไชส์ว่าปฏิบัติตรงตามเงื่อนไขหรือไม่ ซึ่งวิธีนี้ ช่วยดูแลคุณภาพงานบริการให้ดีต่อเนื่อง

“ผมตั้งเป้าปีนี้ (2559) คาดมีแฟรนไชส์แค่ 5 รายเท่านั้น เลือกเฉพาะรายที่มีความพร้อมจริงๆ นอกจากนั้น จะพัฒนาคุณภาพแบตเตอรี่ให้มอเตอร์ไซค์หนึ่งคันสามารถบริการล้างรถได้เพิ่มเป็น 7 คันต่อวัน และเพิ่มยอดลูกค้าใช้บริการเป็น 1 พันรายต่อเดือน รวมถึง เสริมบริการอื่นๆ เช่น รับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ปะยาง เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง รถยก ต่อ พรบ. และทำประกัน เป็นต้น เหล่านี้ช่วยเสริมรายได้ให้แก่ธุรกิจด้วย” กิตติชัย เผย

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น