กระเป๋าแบรนด์ “Chatty” โดดเด่นด้วยการเลือกใช้วัสดุเป็น “ผ้ายีนส์ญี่ปุ่น” ที่มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทาน และยิ่งใช้นานลายผ้าจะยิ่งสวย ประกอบกับการออกแบบแสนสร้างสรรค์ ในหนึ่งใบสามารถจะปรับเปลี่ยนรูปแบบและการใช้งานได้หลากหลาย ช่วยเรียกความสนใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ดีไซน์สุดเฉียบดังกล่าวให้เดาผู้อยู่เบื้องหลังผลงานคงคิดว่าต้องเป็นดีไซเนอร์มืออาชีพ หรือคนอยู่ในแวดวงศิลปะ แต่แท้จริงแล้วคือฝีมือหนุ่มวัย 34 ปี “สุพจน์ เพมพรวิสาร” (พจน์) ที่ไม่เคยร่ำเรียนด้านออกแบบใดๆ มาก่อนเลย แถมชีวิตช่วงหนึ่งต้องยึดอาชีพพนักงานขี่จักรยานยนต์ส่งเอกสาร หรือ “เมสเซนเจอร์” เพื่อเลี้ยงชีพ แต่ด้วยพรสวรรค์ติดตัวบวกพรแสวงทำให้เกิดผลงานกระเป๋าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นน่าชื่นชมอย่างยิ่ง
พจน์เล่าว่า เดิมครอบครัวเคยทำกระเป๋าสตรีขายส่งสำเพ็ง และประตูน้ำ แต่เขาไม่เคยฝึกทำกระเป๋าใดๆ เลย และหลังจากสินค้าจีนเข้ามาตีตลาด ที่บ้านต้องเลิกอาชีพดังกล่าวไปเพราะไม่สามารถแข่งราคาถูกกับสินค้าจีนได้ ในขณะที่ตัวเขาเองต้องออกจากมหาวิทยาลัยตอนอยู่ปี 2 คณะนิเทศศาสตร์ เพราะลดปัญหาการเงินของครอบครัว
“ผมเริ่มจากทำงานเป็นเด็กยกเครื่องเสียง ทำอยู่เกือบ 8 ปีก็ต้องเลิกเพราะร่างกายเริ่มมีปัญหาเพราะต้องยกของหนักมาตลอด ก็เริ่มหาอาชีพใหม่ ซึ่งตอนนั้นผมคิดง่ายๆ ว่าเราขี่มอเตอร์ไซค์เป็น เลยไปสมัครเป็นเมสเซนเจอร์ และทำงานเป็นเมสเซนเจอร์อยู่เกือบ 2 ปี” หนุ่มพจน์เล่าเส้นทางสู้อาชีพ
ส่วนที่มาของอาชีพทำกระเป๋านั้น เกิดจากพูดคุยกับแฟนสาว (ปริยฉัตร ภรยมรทัต (ฉัตร)) ว่าอยากจะมีอาชีพของตัวเอง และเนื่องจากส่วนตัวเป็นคนรักงานดีไซน์ โดยเฉพาะกระเป๋า จึงลาออกจากการเป็นพนักงานขี่จักรยานยนต์ส่งเอกสารเพื่อมาลุยทำกระเป๋าขาย
“ถึงครอบครัวผมจะเคยทำกระเป๋าผู้หญิงมาก่อน แต่ผมก็ไม่มีความรู้เรื่องการทำกระเป๋าใดๆ เลย แต่ส่วนตัวผมเป็นคนรักการแต่งตัว ชอบสินค้าแฟชั่น พอจะคิดทำกระเป๋าเลยคิดอยากจะทำให้เป็นกระเป๋าแฟชั่นดีไซน์ที่แตกต่างจากท้องตลาดทั่วไป ซึ่งระยะแรกใช้วิธีลองผิดลองถูกเองทั้งหมด”
กระเป๋า ‘Chatty’ เริ่มทำออกขายเมื่อ 7 ปีที่แล้ว โดยหนุ่มสาวคนขยันช่วยทำกันเองทุกขั้นตอน ซึ่งช่วงแรกจะใช้วัสดุหนังเทียม ขายถูกแค่ใบละ 180 บาท ตามตลาดนัดไอเดียที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ เช่น สวนลุมไนท์บาซาร์ และตลาดนัดอินดี้อินทาวน์ (หน้าเซ็นทรัลเวิล์ด)
“ตอนแรกผมทำอาชีพนี้แบบไม่มีความรู้อะไรเลย ไม่ได้วางกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย หรือวางแผนตลาดอะไรเลย คิดแค่อยากจะทำกระเป๋าสวยๆ ที่ไม่เหมือนใคร ในราคาถูกซื้อได้ง่าย แต่สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผมพัฒนากระเป๋าได้เกิดจากลูกค้าคอยแนะนำว่าต้องการอย่างไรบ้าง หลังจากนั้นผมก็นำมาปรับปรุงสินค้าเรื่อยๆ”
จากเริ่มต้นใช้หนังเทียม ต่อมาปรับมาใช้วัสดุผ้า “แคนวาส” จากนั้นเปลี่ยนมาเป็น “ผ้ายีนส์” ซึ่งเริ่มจากผ้ายีนส์ย้อมจากประเทศจีน ซึ่งพบปัญหาสีตกมาก ในที่สุด หันมาเปลี่ยนใช้ “ผ้ายีนส์ญี่ปุ่น” ซึ่งมีข้อดีแข็งแรงทนทาน สีและลายสวยงาม ยิ่งใช้นานเนื้อผ้าจะยิ่งสวย และที่สำคัญคุณภาพการย้อมดี ไม่มีปัญหาสีตก
“ผ้าแคนวาสใช้ไปสักระยะมันจะดูเก่าโทรมไม่สวย ผมเลยเปลี่ยนมาใช้ผ้ายีนส์แทน ซึ่งส่งมาจากเมืองจีน แต่ก็มีปัญหาสีตกเยอะมาก ผมก็เลยหาวัตถุดิบใหม่ จนไปเจอผ้ายีนส์ญี่ปุ่นซึ่งมีคุณสมบัติตามต้องการ ส่วนเรื่องการออกแบบ ผมอยากให้ลูกค้าได้ใช้ประโยชน์มากๆ มีกระเป๋าใบเดียวแต่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ผมเลยออกแบบให้ในกระเป๋าหนึ่งใบสามารถเปลี่ยนฟังก์ชันใช้งานได้อย่างน้อย 2 ลักษณะขึ้นไป เช่น เปลี่ยนจากกระเป๋าหิ้วเป็นกระเป๋าสะพายได้ เป็นต้น”
แม้จะไม่ได้เรียนด้านการออกแบบมาโดยตรง แต่เพราะรักงานดีไซน์ ประกอบกับมีพรสวรรค์ และที่สำคัญน้อมฟังข้อแนะนำจากลูกค้าทุกรายมาปรับปรุงเสมอ ช่วยให้กระเป๋า ‘Chatty’ พัฒนาจนมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ลูกค้าจดจำได้ คือ ใช้ผ้ายีนส์ญี่ปุ่นเป็นวัสดุหลัก ดีไซน์จะค่อนข้างเรียบเท่ และทุกใบสามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงและการใช้สอยได้หลากหลาย อย่างน้อย 2 แบบ และสูงสุดปรับได้ถึง 6 แบบ
ส่วนราคายังคงเป็นมิตรต่อลูกค้าเช่นเดิม เริ่มต้นใบละ 300 บาท ถึงสูงสุดแค่ 1,100 บาท ปัจจุบันมีทั้งหมด 7 แบบ แต่ละแบบจะมีสีสันและรายละเอียดแตกต่างกันไป โดยเป็นงานแฮนด์เมดทั้งหมด ทุกใบจะไม่เหมือนกันเลย ด้านช่องทางขาย มีหน้าร้านของตัวเองที่ “ซิเคด้า หัวหิน” และฝากขายที่สยามพารากอน และเอ็มโพเรียม รวมถึงผ่านออนไลน์ต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก chattybag
เจ้าของแบรนด์ ‘Chatty’ บอกด้วยว่า ทุกวันนี้พยายามหมั่นเติมเต็มความรู้เสมอ โดยเฉพาะเรื่องการตลาด เพื่อจะทำสินค้าได้ตรงใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แท้จริง รวมถึงเพิ่มโอกาสสร้างตลาดใหม่ๆ ด้วยการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมเอสเอ็มอีด้านการออกแบบของภาครัฐ เช่น เข้าโครงการ “นวัตศิลป์” ของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศศป. เป็นต้น
เส้นทางชีวิตของหนุ่มพจน์อาจจะไม่ได้มีต้นทุนเพียบพร้อม แต่ด้วยพรสวรรค์ ประกอบกับความพยายามแสวงหาความรู้สม่ำเสมอ พร้อมเก็บคำแนะนำจากลูกค้ามาปรับปรุง ช่วยให้ ‘Chatty’ เป็นกระเป๋าสุดเท่ ที่พร้อมทั้งดีไซน์เฉียบควบคู่ประโยชน์ใช้สอยอันเหมาะสม
@@@@@@@@@@@@@@@@
Tel. 08-4876-1443, 08-7102-0310 และ FB:chattybag
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *