ธุรกิจถุงเท้า หลายคนอาจมองว่าเป็นสินค้าที่ขายได้เฉพาะช่วงหน้าหนาว แต่จริงๆ แล้วหากมองให้ลึกสามารถขายได้ตลอดทั้งปี จากไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่ต้องสวมใส่ถุงเท้าระหว่างการทำงาน ออกกำลังกาย เรียนหนังสือ หรือแม้กระทั่งเวลานอน ทำให้กลายเป็นสิ่งจำเป็นของผู้คน ดังนั้นเมื่อราคาถุงเท้าราคาเพียงคู่ละ 10 บาท จึงไม่แปลกใจที่ทำให้แฟรนไชส์ถุงเท้า J&RAY ขายดิบขายดี
แม้จะคลุกคลีกับโรงงานผลิตถุงเท้ามาก่อน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ “ศุภิดา ไวว่อง หรือ โบว์” สนใจมากนัก ตัดสินใจเดินออกมาทำธุรกิจของตนเอง อย่าง การเปิดร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้า แต่เมื่อได้ลองทำธุกริจเหล่านี้ กลับพบว่าเธอไม่สามารถต่อยอด หรือเพิ่มลูกเล่นให้ธุรกิจได้มากนัก จากจำนวนคู่แข่งที่ค่อนข้างมาก ลูกค้ามีทางเลือกมากมาย จึงต้องกลับมาช่วยงานที่โรงงานถุงเท้าของญาติเช่นเดิม
แต่การกลับมาครั้งนี้ เธอนำประสบการณ์จากการดำเนินธุรกิจอื่นๆ มาปรับใช้ โดยเกิดไอเดียการจัดแพคเกจถุงเท้าขายในราคาถูก เช่น ราคา 3 คู่ 50 บาท ซึ่งเป็นราคาขายส่ง พร้อมจัดส่งให้ถึงมือลูกค้าทั่วประเทศ ภายใต้แบรนด์ J&RAY ซึ่งช่วงแรกเธอยอมรับว่ามีกำไรไม่มากนัก จากปริมาณการจำหน่ายยังได้ไม่กี่คู่ และคนยังไม่ค่อยรู้จัก
แต่เมื่ออาศัยพลังโซเชียลมีเดียพร้อมรุกตลาดมากขึ้นด้วยการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ ก็ได้รับความสนใจขึ้น ทำให้เวลาเพียงไม่นานเธอสามารถขยายสาขาได้ถึง 100 สาขา จากคนสนใจไปเปิดสาขาตามตลาดนัดออฟฟิศใจกลางกรุง และต่างจังหวัด ซึ่งการตอบรับดีในเวลารวดเร็วเช่นนี้ เธอบอกว่า มาจากคุณภาพสินค้า ที่มีความหนา นุ่ม เทียบเท่าถุงเท้าแบรนด์ดัง และลวดลาย สีสัน มีให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ผู้คนทุกเพศทุกวัย รวมถึงเธอยังเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่แฟรนไชซี ด้วยการเปลี่ยนคืนสินค้าได้หากลวดลายไหนขายไม่ดี
สำหรับการลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ คุณโบว์ ได้แบ่งการลงทุนไว้ 6 รูปแบบ ได้แก่ 1.เงินลงทุนเริ่มต้น 5,000 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองมีอาชีพ สามารถเปลี่ยนสินค้าได้ 10 ครั้ง 2.ลงทุน 10,000 บาท สามารถเปลี่ยนสินค้าได้ตลอด และได้รับป้ายถุงเท้า J&RAY ไปติดตั้งบริเวณที่จำหน่ายด้วย 3.ลงทุน 20,000 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีอาชีพจริงจัง และไม่ต้องการความเสี่ยง โดยทางร้านการันตีหากสินค้าขายไม่ได้ จะคืนเงินให้ 100% 4.ลงทุน 100,000 บาท จะเป็นในรูปแบบของตัวแทนจำหน่ายขนาดย่อม โดยจะได้สินค้าเพิ่มในมูลค่า 10,000 บาท 5.ลงทุน 300,000 บาท ได้มูลค่าตามจำนวนเงินลงทุน พร้อมส่วนลด 15% สามารถเปลี่ยนสินค้าได้ตลอด เหมาะกับการจำหน่ายปลีกและส่ง และ 6.ลงทุน 500,000 บาท ได้รับส่วนลด 20% เหมาะกับการดำเนินธุรกิจขายส่ง
โดยที่ผ่านมามีผู้สนใจลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์เป็นจำนวนมากด้วยรูปแบบที่แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีงานประจำอยู่แล้ว และต้องการหาอาชีพเสริม ซึ่งถุงเท้า J&RAY ก็ตอบโจทย์ตรงจุดนี้ได้ รวมถึงกลุ่มนักศึกษาที่นิยมนำไปจำหน่ายในอินสตราแกรม (IG) หารายได้เสริม ซึ่งจะนำไปจัดชุดแพคเกจถุงเท้าให้สวยงาม และถ่ายรูป ก็สามารถเพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้
ปัจจุบันถุงเท้า J&RAY มีสินค้าที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทุกเพศทุกวัย ทุกอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น ถุงเท้านักเรียนเด็ก-ผู้ใหญ่, ถุงเท้ากีฬา, ถุงเท้าแฟชั่น, ถุงเท้ากันหนาว รวมถึงถุงมือ ปลอกแขน ก็มีให้เลือกสรร โดยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่คู่ละ 10 บาท นอกจากนี้ทาง J&RAY ยังออกแบบกล่องสำหรับใส่ถุงเท้าเพื่อมอบให้เป็นของขวัญ ของฝาก อีกด้วย โดยการม้วนถุงเท้าให้คล้ายขนมเค้ก หรือรูปทรงอื่นๆ ที่น่าสนใจ ก็ได้รับการตอบรับดีทั้งชาวไทยและต่างชาติไม่น้อย
ส่วนอนาคตเธอวางแผนจะขยายโรงงานผลิตและสร้างแบรนด์ถุงเท้า J&RAY ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และจะตกแต่งสาขาที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ให้เป็นหน้าร้านต้นแบบเพื่อให้ผู้สนใจในธุรกิจแฟรนไชส์ได้ดูเป็นตัวอย่าง และตัดสินใจลงทุนได้ง่ายยิ่งขึ้น
***สนใจติดต่อ 09-2794-1188 หรือที่ https://www.facebook.com/cheapsock***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *