MGR Online - “พล.ต.ต.เจริญ” ร่วมกับ ผอ.ฝ่ายบริหารตลาดนัดจตุจักร เปิดโครงการชาวจตุจักรร่วมใจป้องกันภัยอาชญากรรม นำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยเป็นจิตอาสา จากสถิติจำนวนก่อเหตุลดลงพบต่างด้าวกระทำผิดส่งกลับประเทศ
วันนี้ (12 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.45 น. บริเวณตลาดนัดสวนจตุจักร ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพฯ พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว ผกก.สน.บางซื่อ นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร ร่วมกันเปิดโครงการชาวจตุจักรร่วมใจป้องกันภัยอาชญากรรม โดยมีคณะ กต.ตร.สน.บางซื่อ และตัวแทนผู้ค้า อาสาสมัครตลาดนัดจตุจักร เข้าร่วมกว่า 200 คน
โดย พล.ต.ต.เจริญเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากตลาดนัดจตุจักรเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมลำดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากมีสินค้าที่หลากหลาย ราคาย่อมเยา อีกทั้งพ่อแม่ค้าก็มีน้ำใจ ยิ้มแย้ม เป็นเสน่ห์ดึงดูดคนซื้อซึ่งมีจำนวนมากถึง 1 แสนคนต่อวัน แต่ก็ทำให้เกิดปัญหาตามมาโดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรม ถือเป็นหน้าที่โดยตรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการป้องกันและปราบปราม สำหรับโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อรวมพลังประชาชนเข้ามาเป็นจิตอาสาช่วยกิจการและร่วมปฏิบัติงานกับตำรวจ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาตรงจุด เช่น ช่วยเป็นล่ามให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติในการติดต่อ หรือขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พล.ต.ต.เจริญเปิดเผยต่อไปว่า โครงการดังกล่าวจะช่วยดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว รับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนช่วงปลายปีนี้ โดยใช้ระบบรักษาความปลอดภัยแบ่งเป็นกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบที่คอยสอดส่องดูแลพื้นที่ กำลังสายตรวจและอาสาสมัครตัวแทนจากผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรที่จะช่วยเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกทั้งยังมีการนำกล้องวงจรปิดมาใช้จำนวน 70 ตัว ที่มีเจ้าหน้าที่คอยดูอยู่ในห้องควบคุมกลางเพื่อคอยสังเกตมิจฉาชีพทั้งบุคคลและกลุ่มคนที่อาจเข้ามาก่อเหตุ
ทั้งนี้จะมีการจัดทำแฟ้มประวัติเหล่ามิจฉาชีพ หากพบตัวจะได้เฝ้าสังเกต เมื่อกระทำผิดก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที นอกจากนี้ ได้มีการติดตั้งสัญญาณแจ้งเหตุ 6 จุด บนเนื้อที่ตลาดนัดจตุจักร 68 ไร่ เพื่อเป็นช่องทางแจ้งเหตุไปสู่จับกุมผู้ทำความผิด ที่ผ่านมาสถิติคดีลักทรัพย์ ล้วงกระเป๋า กรีดกระเป๋าที่เกิดขึ้นภายในตลาดนัดจตุจักร ปี 2557 เกิดขึ้น 155 ครั้ง แต่ปี 2558 มีเพียง 57 ครั้ง ถือว่าลดลงอย่างมาก ส่วนใหญ่ผู้ก่อเหตุเป็นชาวพม่า กัมพูชา เวียดนาม หลังจับกุมดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ได้ผลักดันส่งกลับประเทศแล้ว