การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC ที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้ มีสินค้าหลายตัวที่มีการเตรียมความพร้อมในการเข้าไปเปิดตลาด รวมถึง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง จากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย วันนี้มาทำความรู้จักกับเครื่องสำอางไทยที่กำลังจะระเบิดศึกช่วงชิงตลาดในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกันว่าเขามีแนวทางในการทำตลาดอย่างไร
การบุกตลาด AEC บริษัทสยามเนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด
สำหรับ บริษัทสยามเนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด เป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่ายเครื่องสำอางแบรนด์เนเชอรัล (Naturerich) เจาะกลุ่มสาวโรงงาน และแบรนด์ สโนว์เกิร์ล (Snowgirl) เจาะกลุ่มสาวออฟฟิศในช่วงวัยรุ่น และวัยทำงาน โดยขายผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือ โมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น และตัวแทนจำหน่ายในจังหวัดต่างๆ ภายใต้การบริหารงานของ “นายธนธรรศ สนธีระ”
นายธนธรรศ ได้เริ่มต้นทำธุรกิจนี้ เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา โดยอาศัยความรู้และประสบการณ์จากการได้ร่ำเรียนทางด้านคอสเมติกมาโดยตรง และประสบการณ์จากการทำงานบริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางมาก่อน นำมาเป็นพื้นฐานความรู้ก่อนที่จะหันบุกเบิกสร้างผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ของตนเองออกมาจำหน่าย
ทั้งนี้ การเข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน AEC นั้น ได้เริ่มมาได้ประมาณ 1-2 ปี ด้วยการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศลาว และพม่า เป็นหลัก ซึ่งตลอดระยะเวลา 1-2 ปีประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพึงพอใจ สำหรับทั้ง 2 ประเทศยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่เลือกเข้าไปทำตลาด 2 ประเทศนี้เพราะเห็นว่ามีความใกล้เคียงทางด้านวัฒนธรรมและชื่นชอบอะไรคล้ายๆ กัน
สำหรับสินค้าที่มาจากประเทศไทย บางครั้งอาจจะสู้ไม่ได้เรื่องราคากับประเทศจีน หรือความทันสมัยของสินค้าจากเกาหลี แต่สิ่งที่ลูกค้ายอมรับคือ คุณภาพที่เชื่อใจ และราคาไม่แพง เพราะที่ผ่านมาไทยมีการส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ไปขายในประเทศกลุ่ม AEC ภายใต้แบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศ ดังนั้น ประเทศเหล่านี้มองว่าสินค้าที่มาจากประเทศไทยเป็นสินค้าที่ได้มาตรฐาน และคุณภาพดี แต่เมื่อพอมาเป็นแบรนด์ไทย ความเชื่อใจตรงนั้นก็ยังมีอยู่ ซึ่งหัวใจสำคัญของเรา คือ ต้องทำสินค้าคุณภาพดี และราคาถูก สามารถแข่งขันได้ในตลาด AEC
ส่วนแผนการตลาดในปี 2559 ตั้งใจขยายตลาดไปในประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่เลือก 2 ประเทศนี้เพราะสินค้าของเราได้ผลิตภายใต้มาตรฐานของฮาลาล และ GMP ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า 2 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นมุสลิม โดยในปีแรกของการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2559 จะผลักดันยอดขายในกลุ่มนี้ให้ได้ 10% ของยอดขายของบริษัท และตั้งเป้าเพิ่มยอดขายให้ได้ปีละ 10% ทุกปี โมเดลการตลาดที่วางไว้คงใช้โมเดลเดียวกับ ประเทศไทย คือ เน้นร้านสะดวกซื้อ และโมเดิร์นเทรดในประเทศนั้น แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องหาพาร์ตเนอร์ที่ดีในประเทศคู่ค้าให้ได้ก่อน
การแข่งขันรุนแรง ตลาดเครื่องสำอาง AEC
ในส่วนการแข่งขันในตลาด AEC ถ้าเป็นเครื่องสำอาง และเวชสำอาง ที่สำคัญหนีไม่พ้นแบรนด์ประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น และ จีน จุดขายของเกาหลีคือ เขามาพร้อมกับศิลปินที่ต่างชาติชื่นชอบ ในขณะที่ญีปุ่นมีจุดแข็งแรงเรื่องมาตรฐาน และความเป็นแบรนด์อินเตอร์เกิดขึ้นมานาน ส่วนประเทศจีน จะเป็นเรื่องของราคา แต่ถ้าเป็นประเทศในกลุ่ม AEC ด้วยกัน ที่น่ากลัวคงหนีไม่พ้น ประเทศฟิลิปปินส์ เพราะมีเครื่องสำอางที่คล้ายกับบ้านเรา ส่วนหนึ่งเกิดจากการย้ายฐานการผลิต ของเจ้าของแบรนด์ที่ย้ายไปจากประเทศไทย ดังนั้น มาตรฐาน เทคนิค และความเชี่ยวชาญ ได้จากเจ้าของแบรนด์ในแบบที่ผู้ประกอบการไทยได้รับ ถูกถ่ายทอดให้ผู้ประกอบการในฟิลิปปินส์เช่นกัน
โทร. 08-1268-5902
มุมมอง “แบรนด์หมอจุฬา” หนึ่งในเวชสำอางที่พร้อมเปิดศึกใน AEC
บริษัท หมอจุฬา จำกัด Morchula (MCL) ผลิตภัณฑ์เวชสำอางภายใต้แบรนด์ หมอจุฬา MCL ชื่อที่หลายคนคุ้นเคยกับแบรนด์นี้ และก็คงนึกในแบบเดียวกันว่า เจ้าของแบรนด์จะต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากจุฬาฯ แต่พอวันนี้รู้เหมือนกันว่าเจ้าของแบรนด์คือ “นายจิรัฎฐ์ รุ่งสินเดชาพัฒน์” ซึ่งเริ่มขายแบรนด์หมอจุฬาเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา จากการมีปัญหาเรื่องผิวพรรณ ได้หาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตัวเองมาใช้ จนได้มารู้จักกับ หมอจุฬา แนะนำครีมตัวหนึ่งมาให้ใช้ เกิดใช้ดีก็เลยนำมาทดลองจำหน่าย เริ่มขายในตลาดนัดทั่วไป ปรากฏว่าขายดีเพราะใช้แล้วได้ผล มีเพื่อนที่ขายอยู่ด้วยกันสนใจขอรับไปจำหน่ายบ้าง ครีมหมอจุฬา ก็เลยเป็นที่รู้จักตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
นายจิรัฎฐ์เล่าว่า ตอนเริ่มขายครีมหมอจุฬานั้น ดีมากจนเกิดการเลียนแบบขึ้นมา ทำให้ที่ผ่านมามีชื่อแบรนด์มหมอจุฬา เกิดขึ้นมากมาย เพราะหลังจากได้สูตรการทำครีมมาจากคุณหมอที่จุฬาก็มาให้โรงงานแห่งหนึ่งผลิต ปรากฏว่าโรงงานได้เอาสูตรครีมของเราไปผลิตให้คนอื่นๆ ขาย จึงมีสินค้าที่เหมือนกับเราออกมาเป็นจำนวนมาก แต่ที่สำคัญเขาใช้แบรนด์ หมอจุฬา เช่นกัน เราจึงได้ตัดสินใจไปจัดตั้งบริษัท และเปลี่ยนชื่อมาเป็น MCL หมอจุฬาแทน
สำหรับผลิตภัณฑ์เด่นของหมอจุฬา คือ ไนต์ครีม ตัวเดียวทำยอดขายได้ถึงวันละ 30,000 บาทในช่วงที่ยังไม่ได้เปิดบริษัท แต่หลังจากเปิดบริษัทเป็นรูปเป็นร่าง การเติบโตดีขึ้นเรื่อย มีสินค้าที่หลากหลายขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย จากเดิมเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่น วัยทำงาน ไม่เกิน 35 ปี ปัจจุบันมีการขยายกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยช่องทางขายหลักคือ การมีตัวแทนจำหน่าย ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศกว่า 200 ราย
คุณภาพ ราคา จุดขายเครื่องสำอางไทยแข่งขันได้ใน AEC
ในปี 2559 การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนตั้งใจที่จะขยายตลาดในกลุ่ม AEC ให้มากขึ้น จากปัจจุบันมีขายอยู่ที่ประเทศลาว และเวียดนาม ทั้ง 2 ประเทศให้การตอบรับดีมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกค้าที่เคยใช้ และเกิดการบอกต่อ มีการมาหิ้วสินค้าจากประเทศไทยเข้าไปขายก่อน ต่อมามีคนสนใจขอเป็นตัวแทนจำหน่าย ทำให้เราได้ตัวแทนจำหน่ายในประเทศนั้นๆ อย่างไรก็ตาม การที่หาพาร์ตเนอร์ตัวแทนที่ดีในต่างประเทศค่อนข้างยาก มาจากหลายเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นความเข้าใจ การสื่อสารภาษาที่สื่อสารกันไม่ชัดเจน และนิสัยใจคอของเขาที่เราต้องเรียนรู้
“ดังนั้นช่วงนี้เปิดกว้างให้กับทุกคนที่สนใจ สามารถเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของเราได้ เช่นเดียวกับตัวแทนในประเทศไทยแทนการตั้งเอเยนต์รายเดียว เพราะเราเชื่อมั่นในคุณภาพ และราคาที่ให้กับลูกค้า ไม่เช่นนั้นคงจะไม่มีคนลอกเลียนสินค้าของเราเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีการใช้งบประชาสัมพันธ์อะไร ทุกอย่างเกิดมาจาก บอกต่อเรื่องคุณภาพ ราคา ทำให้สามารถนำเงินตรงนี้มาเป็นผลตอบแทนให้กับตัวแทนของเราได้อย่างเต็มที โดยที่ไม่ผลกระทบต่อราคาสินค้า”
ส่วนแผนการบุกตลาด AEC ทำควบคู่ไปกับการทำตลาดในประเทศไทย ประเทศต่อไปที่จะเข้าไปคือ พม่า ซึ่งพม่าเองตอนนี้มีตัวแทนอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงการเริ่มต้น พม่า นั้นรู้จักแบรนด์ของเราพอสมควร เกิดจากการที่หิ้วจากประเทศไทยไปฝาก และใช้ดีก็กลับมาหิ้วไปขาย ยังไม่ได้มีการขอจดทะเบียน การค้า ขออนุญาตเข้าไปขายอย่างจริงจัง เหมือนในลาว และเวียดนาม
จิรัฎฐ์กล่าวถึงการทำตลาดใน AEC ของแบรนด์เครื่องสำอางไทยว่า ไม่ใช่เรื่องยาก และไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงแต่เราจะมีช่องทางอย่างไร เพราะที่ผ่านมาประเทศเพื่อนบ้านเราเขาคุ้นเคยและใช้สินค้าจากประเทศไทยกันอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนบอกเหมือนกัน คือ เชื่อมั่นในคุณภาพ และมาตรฐานของสินค้า ไม่เว้นแม้แต่เครื่องสำอางจากประเทศไทย ที่สำคัญราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้รับ ส่วนคู่แข่งเกิดขึ้นได้ในทุกที่ แม้แต่แบรนด์คนไทยด้วยกันก็ถือว่าเป็นคู่แข่งที่สำคัญในตลาด AEC โดยเฉพาะ ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม แต่การออกไปทำตลาดในต่างประเทศถ้าสามารถแข่งขันได้กับแบรนด์ที่มาจากประเทศอื่นๆ เป็นความภาคภูมิใจมากกว่า
โทร. 08-6144-4488
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *