xs
xsm
sm
md
lg

“มิลเล่” เมคอัพโสมบุกไทย โหมเจาะ “ออนไลน์-ออฟไลน์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ชัญญาพัชญ์ ณัฐจีราวัฒน์” ประธานกรรมการ บริษัท มิลเล่ (ไทยแลนด์) จำกัด
ASTVผู้จัดการรายวัน - เครื่องสำอางเกาหลียังบุกไทยต่อเนื่อง ล่าสุดแบรนด์ “มิลเล่” เปิดตัวท่ามกลางกระแสธุรกิจเคาน์เตอร์แบรนด์ความงามแข่งขันเดือด ชูจุดเด่นด้วยคุณภาพสินค้าเพื่อสาวสังคมยุคใหม่ พร้อมขยายช่องทางจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ ปีหน้าขยายจุดขายให้ครบ 10 แห่ง หวังยอดขายปีละ 100 ล้านบาท

นางสาวชัญญาพัชญ์ ณัฐจีราวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท มิลเล่ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดความงามโดยเฉพาะเครื่องสำอางมีการแข่งขันที่สูงมากจากจำนวนหลายๆ แบรนด์เพื่อตอบรับการเติบโตเสรีทางการค้า ซึ่งปัจจุบันตลาดเครื่องสำอางมีมูลค่ารวมกว่า 2.5 แสนล้านบาท ล่าสุดบริษัทฯ ได้เป็นผู้แทนจำหน่ายเครื่องสำอางจากเกาหลีแบรนด์ “มิลเล่” MILLE) ที่เป็นแบรนด์ระดับพรีเมี่ยมเข้ามาทำตลาดในไทย

ในปี 2559 “มิลเล่” วางแผนว่าจะมีการขยายเคาน์เตอร์แบรนด์และแฟลกชิพสโตร์รวมทั้งสิ้น 10 สาขาตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ดังนี้ เคาน์เตอร์แบรนด์ 3 สาขาจากปัจจุบันมี 1 สาขาที่สาขาสยามพารากอน และแฟลกชิพสโตร์ 7 สาขาจากปัจจุบันมี 3 สาขาที่เซ็นทรัล เวสเกทต์, เดอะมอลล์ ท่าพระ และและมาร์เก็ต วิลเลจ บางพลี นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใน 3 ปีแรก ด้วยยอดจำหน่ายกว่าปีละ 100 ล้านบาท โดยคาดหวังว่าปีหน้ายอดขายจะเพิ่ม 30% ภายในไตรมาส 2 ของปี 2559

แผนการทำตลาดจะเน้นการผสมผสานของการตลาดเชิงรุกโดยใช้สื่อออฟไลน์ (Traditional Media) และออนไลน์มีเดียที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพ เนื่องด้วยเทรนด์การใช้จ่ายของผู้บริโภคมีแนวโน้มในการจับจ่ายใช้สอยทางช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ด้วยการดึงเอากลุ่ม Categories Leader Marketing Strategy ที่มีผลต่อการสร้างความเชื่อมั่นในช่วงเริ่มสร้างแบรนด์มาใช้ด้วยและมุ่งเน้นแผนการตลาดแบบ Communications Diffusion Process คือมีการสื่อสารทางช่องทางการตลาดที่ชัดเจนและแม่นยำจากทางออนไลน์และออฟไลน์พร้อมกันอย่างลงตัวเพื่อสื่อสารเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพและเน้นความสดใหม่

เครื่องสำอาง “มิลเล่” มุ่งเน้นกลุ่มหญิงสาวอายุ 18-35 ปี นำเสนอเทรนด์ความงามพร้อมกับความทันสมัยที่ส่งตรงจากเซเลบริตี้และสาวสังคมแถวหน้าจากประเทศเกาหลีให้แก่กลุ่มคนในช่วงวัยรุ่นกลุ่ม Generation Y-Z ที่ทันสมัยพร้อมกับมีใจรักในการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยให้สอดรับกับเทรนด์ความงามใหม่ๆ อยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยสินค้าประกอบด้วย 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์ แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าและเรือนร่าง กลุ่มผลิตภัณฑ์พื้นฐานความงามในกลุ่มเครื่องสำอาง โดยมีกลุ่ม Cheek, Lips, Eyes และ Base makeup/ Foundation/ Powder และกลุ่มแปรงและอุปกรณ์ต่างๆ (Accessories)

จากการที่จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2559 บริษัทฯ เตรียมแผนการตลาดอย่างเต็มรูปแบบทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เพื่อเตรียมรุกขยายตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตทางธุรกิจให้บริษัทฯ ตอบรับกับตลาดในเอเชียที่เติบโตอย่างต่อเนื่องกว่า 20-30% โดยคาดว่าจะมีความพร้อมขยายสู่ตลาดเออีซี และมีแผนจะส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านกลางปี 2560



กำลังโหลดความคิดเห็น