ความสำเร็จของธุรกิจ ไม่ได้อยู่แค่สินค้าดี มีคุณภาพ ราคาเหมาะสมเท่านั้น แต่ทำเลเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ เพราะถึงสินค้าดี แต่ไม่คนเห็น ก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้น จึงได้นำแนวคิดของการเลือกทำเลเหมาะสม มาฝาก โดยนายธนวัต มีเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท SYNERGY INFO จำกัด ที่ปรึกษาด้านธุรกิจกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้ให้มุมมองการเลือกทำเล ไว้อย่างน่าสนใจดังนี้
1. ทำไมต้องทำเล …. หากธุรกิจของคุณ ต้องมีหน้าร้าน เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้า และลูกค้าไม่สามารถหาสิ่งเหล่านั้นได้จากช่องทางอื่น แล้วล่ะก็... "ทำเล" คือ ตัวชี้ขาด ธุรกิจ
2.พิจารณาทำเลอย่างไร..... เลือกจากสภาพแวดล้อม ทั้งภายใน และภายนอก รวมถึงบริเวณใกล้เคียง ต้องสะอาด และควรที่จะมีร้านอื่นๆ เปิดอยู่ในบริเวณนั้นด้วย เพราะถ้ามีร้านเปิดหลายร้าน ก็จะเป็นแม่เหล็กให้ลูกค้าเข้ามา ยกเว้นลูกค้าที่ตั้งใจมาซื้อจริงๆ ตัวอย่าง ร้านกาแฟร้านหนึ่งเปิดอยู่เพียงร้านเดียว แต่พอมีร้านสะดวกซื้อเจ้าดังอย่าง 7-11 มาเปิดใกล้จากยอดขายวันละหลักสิบแก้วกลายเป็นหลักร้อยแก้ว
3.เจ้าของพื้นที่ เอื้อ หรือ กวน ธุรกิจของเรา ….. หากต้องเช่าพื้นที่ แทนการซื้อ คงจะต้องมีการพูดคุยกับเจ้าของพื้นที่ หรือ ทำสัญญา ให้รัดกุม ป้องกันปัญหาในภายหลัง โดยเฉพาะในเรื่องของค่าเช่า ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร และต้องพิจารณาด้วยว่า เจ้าของพื้นที่เขาให้ความใส่ใจในการดูแล และอำนวยความสะดวก รวมถึงการทำกิจกรรม มากน้อยแค่ไหน เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นแม่เหล็กในการดึงลูกค้าด้วย
ตัวอย่างที่ Terminal 21 ซึ่งมีร้านอาหารชื่อดัง เปิดอยู่หลายร้าน หลายคนคงแปลกใจว่า ร้านเหล่านี้ ทำไมขายถูกกว่า ร้านข้างนอก เหตุที่สามารถขายถูกได้ เพราะทางห้างเก็บค่าเช่าไม่แพง เจ้าของร้านจึงขายในราคาถูกได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องตระหนักไว้เสมอ คือ การขึ้นของค่าเช่า ไม่ว่า ทำเลเป็นอย่างไร ถูกหรือแพงขนาดไหน ต้องเผื่อค่าเช่าที่จะต้องขึ้นทุกปี อย่างน้อย 5-10%
4.วิเคราะห์คู่แข่ง แบ่งความเป็นมิตรให้คู่ค้า...... หากในบริเวณนั้น มีคู่แข่งทางธุรกิจอยู่แล้ว ควรจะเฝ้าดูกิจกรรม ว่า เขาค้าขายเป็นอย่างไร ขายดีหรือไม่ดี ควรจะวิเคราะห์ในหลายๆมุมมอง เช่น ความสะดวก ความสะอาด การตั้งราคาขาย การให้บริการ การเปิดร้านสม่ำเสมอ เป็นต้น ซึ่งอาจจะต้องทำการสำรวจติดต่อกันหลายๆวัน เพื่อดูว่าจะรับมืออย่างไร แต่ถ้าเราไม่มีอะไรที่จะสู้ได้จริง แนะนำว่าไม่ควรเปิดใกล้ๆ
นอกจากสำรวจคู่แข่งแล้ว ให้ลองสำรวจดูว่า มีใครพอจะเป็นคู่ค้ากับเราบ้างได้ เช่น เปิดร้านอาหาร แต่รายอื่นขายขนม ขายกาแฟ พยายามตีสนิท ขอเป็นมิตรทางการค้าไว้ทำธุรกิจ มีมิตร ดีกว่า มีศัตรู จำไว้ว่า ถ้ามุ่งแต่จะเอาชนะกัน ทั้งเราและคู่แข่ง มีโอกาสเจ็บทั้งคู่
5. ทำเลนี้ มีลูกค้าเราอยู่แค่ไหน ….... การสำรวจกลุ่มเป้าหมายถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ เช่นกัน ซึ่ง การสำรวจการทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นดูข้อมูลเชิงประชากร โดยพิจารณาจาก อายุ รายได้ อาชีพ การศึกษา เป็นต้น หรือ การลงพื้นที่สำรวจจากสถานที่จริง ในแต่ละช่วงเวลา อาจจะใช้เวลาสังเกตระยะหนึ่ง อย่างละเอียด โดยดูเพศ วัย และลงลึกไปถึงว่า เขาถืออะไรมาในมือ และเราจะขายอะไร หลังจากเปิดร้านแล้ว ก็ยังคงต้องสำรวจดูพฤติกรรมของคนในย่านนั้นเพิ่มเติมด้วย โดยการติดกล้องวงจรปิด ทำให้เรารู้ความเคลื่อนไหวและประเมินสถานการณ์ในอนาคตได้ ข้อมูลส่วนนี้สำคัญมาก จดบันทึกไว้ให้ดี เพื่อนำไปประเมินในเรื่องการเงินได้
6: ทำเลไหนๆ ก็ต้องใช้เงินลงทุน..... เมื่อเรามีข้อมูลลูกค้าเป้าหมาย ค่าเช่า และค่าใช้จ่ายต่างๆแล้ว (พยายามรวบรวม ข้อมูลแต่ละอย่าง ให้ได้มากที่สุด ถ้าเราไม่แน่ใจว่า ใส่ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ครบหรือไม่ ให้ตั้งเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ จากที่มีอยู่สัก 10-20% เจ๊งบนกระดาษ ดีกว่าพลาดกับเงินจริง
สำหรับการประเมินด้านการลงทุน จะดูตัวเลข 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนของผลตอบแทน และส่วนของกระแสเงินสด (1.) ส่วนของผลตอบแทน ต้องดูว่า คืนทุนในระยะเวลาที่ต้องการหรือไม่ โดยส่วนใหญ่จะตั้งเป้าไว้ที่โอกาสคืนทุนปีที่ 3 อย่าให้เกินกว่านี้ ซึ่งถ้าคำนวณแล้ว เกิดการติดลบในปีที่ 3 มีทางเลือก 2 ทาง คือ ดื้อทำต่อ แต่ต้องทำการตลาดแบบเชิงรุก และกำหนดสมมติฐานใหม่ หรือ ดึงไว้ก่อน ถ้ามีความเป็นไปได้น้อย อาจจะต้องชะลอ เพื่อศึกษาเพิ่มเติม ( 2.) พิจารณากระแสเงินสด (Cashflow) สำคัญมาก ต่อการดำเนินงานของธุรกิจ ในแต่ละวัน เอสเอ็มอีส่วนมาก ควรดูกระแสเงินสดในเดือนที่ 3 ถ้ากระแสเงินสดติดลบ ต้องรีบหาทางแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทุกวันนี้ หลายๆธุรกิจจะมีช่องทางการขายอยู่มากมาย โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ที่ยังแรงอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อว่า ธุรกิจออนไลน์ เมื่อไปได้ดีระยะหนึ่ง ก็จะคิดถึงการมีหน้าร้านของตัวเอง เพราะการมีหน้าร้านจะช่วยเรื่องการจับต้องได้มากขึ้น และจะช่วยให้ธุรกิจเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน
คอมมูนิตี้มอลล์ ทำเลดาวรุ่งในปี 2558
นาย ธนวัต บอกถึงทำเล ที่น่าสนใจในปี 2558 ว่า เทรนด์ความนิยมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป กลุ่มคนเมือง จากเดิมนิยมเดินตามโมเดิร์นเทรด แต่ในช่วงหลัง ปัญหาการจราจร และการขยายตัวของที่อยู่อาศัย ในย่านชานเมือง ความเจริญที่เกิดขึ้น ทำให้เกิด คอมมูนิตี้มอลล์ มากมาย ตามเส้นทางกลับบ้าน ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้คนที่เบื่อปัญหาการจราจร ก็จะหันมาชอปปิ้ง ผ่านคอมมูนิตี้มอลล์มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา การเกิดขึ้นของคอมมูนิตี้มอลล์ มีอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น ต้องพิจารณา ตามหลักเกณฑ์ที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งผมเองไม่แนะนำการเปิดในโมเดิร์นเทรด เพราะค่าเช่าที่สูงมาก ทำให้ไม่คุ้มกับการลงทุนในระยะยาว ถ้ามีทางเลือกที่ค่าเช่าถูกกว่า และขายได้น้อยกว่า แต่อาจจะได้กำไรมากกว่าก็เป็นได้
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
