“บีโอแอล” ผู้ให้บริการข้อมูลธุรกิจออนไลน์รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย เปิดบริการใหม่ล่าสุด รับตามหนี้ทั่วเออีซี (DebtLine) และอีกกว่า 150 ประเทศทั่วโลก รองรับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีไทย สร้างความมั่นใจในการบุกตลาดด้วยแนวคิด “ตามหนี้ไม่ได้ ไม่คิดเงิน”
นายชัยพร เกียรตินันทวิมล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร บริษัท บิสซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) หรือบีโอแอล เปิดเผยว่า การเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 ได้สร้างความตื่นตัวให้แก่ผู้ประกอบการชาวไทยที่สนใจไปลงทุนในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ปัญหาหนึ่งในการสร้างความวิตกกังวลให้แก่กลุ่มนักธุรกิจคือ ปัญหาหนี้สูญที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งสามารถสร้างความเสียหายให้ธุรกิจถึงขั้นล้มละลายได้ โดยเฉพาะหนี้สินในต่างประเทศด้วยแล้วยิ่งมีความซับซ้อนและความละเอียดอ่อนในการดำเนินการเป็นอย่างมาก
อีกทั้งเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ยังขาดประสบการณ์ในการติดตามหนี้สินระหว่างประเทศ อาจทำให้ขาดความมั่นใจในการทำธุรกิจจนพลาดโอกาสทองไป “บีโอแอล” จึงได้เปิดบริการใหม่ รับตามหนี้ทั่วเออีซี (DebtLine) และอีกกว่า 150 ประเทศทั่วโลกเพื่อรองรับความต้องการและเป็นการอุดช่องว่างของนักลงทุนชาวไทย
“บริการนี้จะทำให้เอสเอ็มอีไทยที่สนใจไปทำธุรกิจในกลุ่มประเทศเออีซีมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ด้วยสถิติความสำเร็จในการติดตามเคสหนี้ต่างๆ ที่สำเร็จกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ในประเทศไทยและประสบกาณ์การทำงานร่วมกับบริษัทระดับโลกที่มีฐานข้อมูลลูกค้ากว่า 235 บริษัท ใน 214 ประเทศทั่วโลก จะเป็นตัวการันตีการทำงานของบริษัท เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในการเลือกใช้บริการรับตามหนี้จาก บีโอแอล ภายใต้สัญญา ตามหนี้ไม่ได้ ไม่คิดเงิน” นายชัยพรกล่าว
ทั้งนี้ ลูกค้าเอสเอ็มอีที่สนใจสมัครใช้บริการอัตรา 10,000 บาทต่อปี โดยสามารถส่งเคสได้ไม่จำกัดจำนวนซึ่ง “บีโอแอล” จะรับดำเนินการในทุกขั้นตอนทางกฎหมาย เช่น ทวงถาม, ฟ้องร้อง, สืบทรัพย์, บังคับคดี และดำเนินคดี โดยจะได้รับรายงานความคืบหน้าในการติดตามหนี้ภายในสัปดาห์แรกหลังจากการรับเคส โดยทีมทนายจะแจ้งผลการดำเนินงานให้ทราบ พร้อมกับสรุปแนวทางหรือผลดำเนินการภายใน 3 เดือน ครอบคลุมถึงการให้คำปรึกษาด้านข้อกฎหมายจากทีมทนายและกฎหมายให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายสำหรับเอสเอ็มอีในการติดตามหนี้ด้วยตัวเองและตรวจสอบความคืบหน้าของการดำเนินงานผ่านเว็บไซต์ RMS ของบีโอแอล ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงสิทธิพิเศษในการใช้บริการอื่นๆ ที่มีอยู่ของ “บีโอแอล”
ทั้งนี้ “บีโอแอล” เป็นผู้ให้บริการข้อมูลธุรกิจออนไลน์รายแรกและรายเดียวในประเทศไทยมานานกว่า 19 ปี ปัจจุบันมีลูกค้า 60% ในกลุ่มธนาคารต่างๆ และอีกที่เหลือเป็นลูกค้าบริษัทขนาดใหญ่และกลาง โดย “บีโอแอล” มีบริการต่างๆ ให้ลูกค้าเลือกใช้สำหรับเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์และตัดสินใจในการทำธุรกิจเป็นจำนวนมาก ตามความต้องการและขนาดของธุรกิจที่ทำอยู่ถึง 5 โซลูชันด้วยกัน อันได้แก่ 1.โซลูชั่นเพื่อการบริหารลูกค้าครบวงจร 2.โซลูชั่นเพื่อการบริหารจัดการความเสี่ยง 3.โซลูชั่นเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะ 4.โซลูชั่นเพื่อการจัดการฐานข้อมูล และ 5.โซลูชั่นเพื่อการบริหารงานโปรเจกต์พิเศษ
นายชัยพร เกียรตินันทวิมล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร บริษัท บิสซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) หรือบีโอแอล เปิดเผยว่า การเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 ได้สร้างความตื่นตัวให้แก่ผู้ประกอบการชาวไทยที่สนใจไปลงทุนในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ปัญหาหนึ่งในการสร้างความวิตกกังวลให้แก่กลุ่มนักธุรกิจคือ ปัญหาหนี้สูญที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งสามารถสร้างความเสียหายให้ธุรกิจถึงขั้นล้มละลายได้ โดยเฉพาะหนี้สินในต่างประเทศด้วยแล้วยิ่งมีความซับซ้อนและความละเอียดอ่อนในการดำเนินการเป็นอย่างมาก
อีกทั้งเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ยังขาดประสบการณ์ในการติดตามหนี้สินระหว่างประเทศ อาจทำให้ขาดความมั่นใจในการทำธุรกิจจนพลาดโอกาสทองไป “บีโอแอล” จึงได้เปิดบริการใหม่ รับตามหนี้ทั่วเออีซี (DebtLine) และอีกกว่า 150 ประเทศทั่วโลกเพื่อรองรับความต้องการและเป็นการอุดช่องว่างของนักลงทุนชาวไทย
“บริการนี้จะทำให้เอสเอ็มอีไทยที่สนใจไปทำธุรกิจในกลุ่มประเทศเออีซีมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ด้วยสถิติความสำเร็จในการติดตามเคสหนี้ต่างๆ ที่สำเร็จกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ในประเทศไทยและประสบกาณ์การทำงานร่วมกับบริษัทระดับโลกที่มีฐานข้อมูลลูกค้ากว่า 235 บริษัท ใน 214 ประเทศทั่วโลก จะเป็นตัวการันตีการทำงานของบริษัท เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในการเลือกใช้บริการรับตามหนี้จาก บีโอแอล ภายใต้สัญญา ตามหนี้ไม่ได้ ไม่คิดเงิน” นายชัยพรกล่าว
ทั้งนี้ ลูกค้าเอสเอ็มอีที่สนใจสมัครใช้บริการอัตรา 10,000 บาทต่อปี โดยสามารถส่งเคสได้ไม่จำกัดจำนวนซึ่ง “บีโอแอล” จะรับดำเนินการในทุกขั้นตอนทางกฎหมาย เช่น ทวงถาม, ฟ้องร้อง, สืบทรัพย์, บังคับคดี และดำเนินคดี โดยจะได้รับรายงานความคืบหน้าในการติดตามหนี้ภายในสัปดาห์แรกหลังจากการรับเคส โดยทีมทนายจะแจ้งผลการดำเนินงานให้ทราบ พร้อมกับสรุปแนวทางหรือผลดำเนินการภายใน 3 เดือน ครอบคลุมถึงการให้คำปรึกษาด้านข้อกฎหมายจากทีมทนายและกฎหมายให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายสำหรับเอสเอ็มอีในการติดตามหนี้ด้วยตัวเองและตรวจสอบความคืบหน้าของการดำเนินงานผ่านเว็บไซต์ RMS ของบีโอแอล ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงสิทธิพิเศษในการใช้บริการอื่นๆ ที่มีอยู่ของ “บีโอแอล”
ทั้งนี้ “บีโอแอล” เป็นผู้ให้บริการข้อมูลธุรกิจออนไลน์รายแรกและรายเดียวในประเทศไทยมานานกว่า 19 ปี ปัจจุบันมีลูกค้า 60% ในกลุ่มธนาคารต่างๆ และอีกที่เหลือเป็นลูกค้าบริษัทขนาดใหญ่และกลาง โดย “บีโอแอล” มีบริการต่างๆ ให้ลูกค้าเลือกใช้สำหรับเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์และตัดสินใจในการทำธุรกิจเป็นจำนวนมาก ตามความต้องการและขนาดของธุรกิจที่ทำอยู่ถึง 5 โซลูชันด้วยกัน อันได้แก่ 1.โซลูชั่นเพื่อการบริหารลูกค้าครบวงจร 2.โซลูชั่นเพื่อการบริหารจัดการความเสี่ยง 3.โซลูชั่นเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะ 4.โซลูชั่นเพื่อการจัดการฐานข้อมูล และ 5.โซลูชั่นเพื่อการบริหารงานโปรเจกต์พิเศษ
