xs
xsm
sm
md
lg

“เสริมอาหาร” เค้กก้อนโตหลายพันล้าน รายเล็ก-ใหญ่แข่งเดือดบุกตลาด AEC

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ห้องวิจัยผลิตอาหารเสริมของไบโอฟาร์ม
ธุรกิจอาหารเสริมได้รับการจับตามองอย่างมากในช่วง 3-4 ปีที่เพิ่มมา เพราะการเติบโตที่ถือว่าหวือหวาอย่างมากสำหรับผู้บริโภคคนไทย มีบริษัทผู้ผลิตทั้งรายเล็ก รายใหญ่ต่างให้ความสนใจตลาดนี้พัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารออกมาเพื่อขอแบ่งเค้กก้อนนี้กันอย่างคึกคัก

สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปี 2555 นี้ก็ยังคงโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่มความสวยความงาม อย่างกลุ่มผลิตภัณฑ์คอลลาเจน คิว 10 และกลูตาไธโอน นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทวิตามินที่ได้รับความนิยมอย่างมากก่อนหน้านี้ ซึ่งมีทั้งแบรนด์ของคนไทยและนำเข้าจากต่างประเทศ ผู้ผลิตแต่ละรายก็จะมีกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ความถนัด
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของบ.จิมสกรุ๊ป จก.
เลือกช่องทางขาย สร้างโอกาสความสำเร็จ

โดยบางรายเปิดตัวแบบทุ่มทุนสร้าง ด้วยการโฆษณา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ผลิตแบรนด์ดังเป็นที่รู้จักอยู่แล้วในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม แต่สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยแล้ว การทุ่มทุนสร้างเกิดความเสี่ยงสูงเพราะการแข่งขันที่รุนแรง หรือแม้แต่บริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ในวงการยาเอง ส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่ช่องทางการขายที่ลูกค้าให้ความเชื่อถือ อย่างร้านขายยา เพราะได้ตัวช่วยอย่างเภสัชกรประจำร้านมาช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์ สร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้า และกล้าตัดสินใจซื้อ ซึ่งถ้าได้ผลหรือเห็นผลชัดเจน แน่นอน ลูกค้ก็ากลับมาซื้อซ้ำอย่างแน่นอน และอีกช่องทางหนึ่งคือ การขายตรงผ่านตัวแทนขาย ซึ่งบริษัทขายตรงทุกแบรนด์เลือกใช้

อย่างไรก็ตาม สำหรับการตลาดในยุคนี้ที่ดูเหมือนจะหวือหวา และน่ากลัวสุด คือการเข้าสู่ร้านสะดวกซื้อ และการขายผ่านอินเทอร์เน็ต มีผลิตภัณฑ์กลุ่มผู้ผลิต และนำเข้ารายย่อยเข้ามาขายผ่านอินเทอร์เน็ตกันเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่ามีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารขายผ่านอินเทอร์เน็ตกันมากกว่า 10 แบรนด์ และแน่นอน ถ้าขายไม่ได้ก็คงจะไม่มีคนเข้าไปขายในอินเทอร์เน็ตกันมากขนาดนี้ ซึ่งลูกค้าก็ต้องใช้การพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และที่สำคัญต้องดูว่าสินค้าตัวนั้นได้รับมาตรฐานองค์การอาหารและยาหรือไม่

ทั้งนี้ โอกาสการขายของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยังมีอีกมากสำหรับผู้ประกอบการทั้งหน้าเก่า และหน้าใหม่ที่จะเข้ามา เพราะยังสามารถเติบโตได้อีกตราบใดที่ผู้หญิงยังไม่สามารถที่จะหยุดสวยได้ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็เป็นทางเลือกที่ผู้หญิงอยากสวยไม่ต้องพึ่งพามีดหมอ ซึ่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะทำออกมาในหลายรูปแบบเพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้า มีทั้งที่เป็นน้ำ เครื่องดื่ม เยลลี แคปซูล และเป็นผงสำหรับชงดื่ม
 นายวิโรจน์ เลิศประภาพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จิมสกรุ๊ป จำกัด
จุดขายเน้นคุณภาพ วัดใจลูกค้าซื้อซ้ำ

นายวิโรจน์ เลิศประภาพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จิมสกรุ๊ป จำกัด หนึ่งในผู้ผลิต เล่าว่า สำหรับจิมสกรุ๊ปเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมาได้ประมาณ 2 ปี โดยสินค้าตัวแรกของเราคือคอลลาเจน พลัส ซี ภายใต้แบรนด์โอมีน่า สาเหตุที่เราเข้ามาสู่ธุรกิจนี้เกิดขึ้นมาจากเดิมทางบริษัทของเราเป็นบริษัทที่รับจ้างผลิตสินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูปให้แบรนด์ต่างๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และวันหนึ่งคู่ค้าซึ่งป้อนวัตถุดิบให้เราจากประเทศญี่ปุ่นได้แนะนำวัตถุดิบตัวหนึ่ง เป็นคอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่คุณภาพอยู่ในอันดับ 1-2 ของประเทศญี่ปุ่น จุดนี้เองทำให้เราตัดสินใจเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ประกอบกับเห็นว่า ปัจจุบันตลาดเสริมอาหารมีการเติบโตที่สูงมาก ปีหนึ่งประมาณ 15-20%

ทั้งนี้ เนื่องจากการที่เรามีวัตถุดิบคุณภาพน่าจะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ไม่ยาก แม้ว่าจะเป็นแบรนด์น้องใหม่ โดยใช้ช่องทางการขายผ่านร้านขายยาเพราะสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้า และหลังจากได้ทดลองวางตลาดในร้านขายยาหลายแห่ง โดยผ่านการแนะนำของพนักงานขาย ปรากฏว่าลูกค้าที่มีปัญหาเรื่องผิวพรรณ จุดด่างดำ หรือสิว ฝ้า ก็หาย และหน้าเนียนใสขึ้น ลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำอีก ดังนั้น มั่นใจในคุณภาพของสินค้าของเรา ไม่กลัวเรื่องการแข่งขัน ตั้งเป้าว่าจะเติบโตในกลุ่มของ Health Beauty ไม่ต่ำกว่า 20% ในปีนี้ สำหรับตลาด AEC ถือว่าเป็นอีกตลาดหนึ่งที่เราให้ความสำคัญ และตั้งใจอย่างมากจะเข้าไปทำตลาดในประเทศกลุ่มนี้
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของไบโอฟาร์ม
ราคาไม่ได้แตกต่างในผลิตภัณฑ์คุณภาพเดียวกัน

ในส่วนของราคาไม่ได้เป็นตัวแปรมากนักสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพราะผู้ผลิตสินค้าคุณภาพเดียวกัน ก็จะตั้งราคาไม่ได้แตกต่างกัน ซึ่งผู้บริโภคทราบเองหลังจากซื้อไปรับประทาน และกลับมาซื้อสินค้าที่คุณภาพมากกว่าการตัดสินใจเรื่องของราคา

สำหรับผู้ผลิตยายักษ์ใหญ่อย่างบริษัท ไบโอฟาร์ม จำกัด ผู้ผลิตยาในแวดวงยารักษาโรคในโรงพยาบาลของเมืองไทยที่รู้จักกันดี ซึ่งปกติไบโอฟาร์มจะผลิตยาในกลุ่มของโรงพยาบาลเป็นหลัก จะผลิตยาทั่วๆ ไปอยู่บ้างแต่ก็จะเลือกเฉพาะที่มีคู่แข่งไม่มากนัก แต่สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแล้ว ไบโอฟาร์มก็ไม่พลาดที่จะขอแชร์ตลาดในกลุ่มนี้เพราะการเติบโตที่หวือหวา และมีอนาคต ประกอบกับไม่ได้มีขั้นตอนการผลิตที่สลับซับซ้อน และสามารถขายได้ทั่วไป ที่สำคัญผลตอบแทนที่ดี ผู้บริโภคสามารถซื้อกินได้ตลอด ไม่ได้เฉพาะเวลาเจ็บป่วยเหมือนยาทั่วไป

นายวีระพัฒน์ ถกลศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบโอฟาร์ม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยาเล่าว่า บริษัทได้เล็งเห็นถึงการเติบโตของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทย และไบโอฟาร์มเป็นบริษัทผลิตยาที่ได้มาตรฐาน PIC/S (Pharmaceutical Inspection Co-operation Scheme) GMP เป็นมาตรฐานการผลิตยาตามข้อกำหนดอนุสัญญาระหว่างประเทศ ด้านการตรวจประเมินยาแห่งสหภาพยุโรปในการใช้ข้อกำหนดเดียวกัน ดังนั้น จากประสบการณ์การผลิตยาที่มีมานาน การทำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้ได้มาตรฐานก็คงไม่ใช่เรื่องยาก เราจึงตัดสินใจก้าวเข้ามาสู่ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเข้าช่องทางที่เราถนัด คือร้านขายยา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้า

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารออกมาจำหน่ายมากกว่า 5 ชนิด ได้แก่ กลุ่มคอลลาเจน คิว10 และวิตามินประเภทต่างๆ ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ทำออกมาในรูปของแคปซูล เพื่อสะดวกแก่การรับประทาน ไบโอฟาร์มเข้ามาในธุรกิจอาหารเสริมได้ประมาณ 5 ปี การแข่งขันค่อนข้างรุนแรงมากสำหรับการขายผ่านร้านขายยา แต่เป็นช่องทางที่ดี เพราะลูกค้าให้ความเชื่อถือ ซึ่งรายใหม่จะเข้ามาสู่ธุรกิจนี้ค่อนข้างยาก และเริ่มแข่งขันในเรื่องของแบรนด์ แบรนด์ไหนได้รับความนิยม และลูกค้าเชื่อถือก็จะซื้อแบรนด์นั้น ศักยภาพการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทยยังโตได้อีกมาก คาดว่าปีหนึ่งโตไม่ต่ำกว่า 16% ตลาดรวมประมาณ 5,000 ล้านบาท อยู่ที่แต่ละรายจะงัดกลยุทธ์อะไรมาแข่งขันกัน
นายวีระพัฒน์ ถกลศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบโอฟาร์ม จำกัด
AEC กลุ่มเป้าหมายของผู้ผลิตเสริมอาหารในประเทศไทย

สำหรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 AEC เป็นเป้าหมายสำคัญของผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทย เพราะปัจจุบันประเทศในกลุ่ม AEC ยังมีช่องว่างให้ตลาดในกลุ่มนี้อีกมาก โดยเฉพาะประเทศที่สินค้าในกลุ่มนี้ยังไม่แพร่หลายมากนัก แต่ผู้ผลิตเชื่อว่าสาวๆ ในทุกประเทศมีความต้องการในเรื่องของความสวยความงามเหมือนกัน เมื่อมีกำลังซื้อ สินค้าในกลุ่มนี้ก็น่าจะไปได้ดี

ด้านนายวีระพัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนของไบโอฟาร์ม วางเป้าหมายที่จะนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของบริษัทเข้าไปขายในกลุ่มประเทศอาเซียน เพราะด้วยชื่อเสียงของแบรนด์จากยาที่วางจำหน่ายอยู่แล้ว เป็นใบเบิกทางให้กลุ่มเสริมอาหารไปได้ดีในตลาด AEC และมาตรฐาน PIC/S ช่วยแบรนด์ไบโอฟาร์มสามารถนำสินค้าในทุกกลุ่มของบริษัทไปขายได้ทั่วโลก เพราะการสร้างแบรนด์เป็นเรื่องสำคัญในกลุ่มของยา และรวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ลูกค้ารู้จักแบรนด์ก็ตัดสินใจเลือกได้ง่าย

                                     ----------------

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
กำลังโหลดความคิดเห็น