เอาใจผู้ที่ชื่นชอบสัตว์แปลกๆ เราจะพาไปส่อง “ตุ๊กแก” และ “งู” ที่หายาก 13 ชนิด ทั้งหมดถูกนำมาจัดแสดงในห้างดัง ท่ามกลางบรรยากาศที่ตกแต่งเลียนแบบป่าดิบชื้น
ซีไลฟ์ แบงคอก สยามพารากอน จัดโซนป่าดิบชื้น (Rainforest Zone) ‘งู’ และ ‘ตุ๊กแก’ สายพันธุ์หายาก 13 สายพันธุ์ ท่ามกลางบรรยากาศของสายน้ำควบคู่ไปกับสิ่งมีชีวิตภายใต้พันธุ์ไม้ทึบ
งูสายพันธุ์หายากทั้ง 9 สายพันธุ์ ที่จัดแสดงตลอดปี ประกอบด้วย:
1.งูต้นไม้มรกต (Emerald Tree Boa) ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนต้นไม้ โดยจะขดตัวเองไว้ในลักษณะพร้อมโจมตี มักออกล่าเหยื่อเวลากลางคืน งูต้นไม้มรกตมีหางที่แข็งแรง ใช้ในการเคลื่อนที่ไปตามกิ่งไม้ หาเหยื่อโดยการใช้ปุ่มที่อยู่รอบปากในการตรวจจับความร้อน
2.งูหลามต้นไม้ (Green Tree Python) ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตอยู่บนต้นไม้ จะเลื้อยลงมาบ้างครั้งเมื่อต้องการเปลี่ยนต้นไม้ต้นใหม่ ชอบขดตัวเองบนกิ่งไม้ บริเวณรอบปากจะมีอวัยวะรับความร้อนใช้ในการตรวจจับเหยื่อ
3.งูโบอาหางแดง (Boa Constrictor) เป็นนักล่าที่ทรงพลังและคล่องตัว ปกติจะออกหาอาหารในเวลากลางคืนโดยใช้เทคนิคซุ่มโจมตี เมื่อจับเหยื่อได้จะใช้การกลืนเหยื่อลงไปทั้งตัว งูโบอาหางแดงจะออกลูกเป็นตัวบางครั้งอาจมากถึง 60 ตัว
4.งูหลามบอล (Ball Python) ได้ชื่อมาจากวิธีการป้องกันตัวเอง โดยงูหลามบอลจะม้วนตัวเองให้กลมแน่นเหมือนลูกบอลและจะซ่อนส่วนหัวที่บอบบางไว้ตรงกลางเพื่อป้องกันอันตราย
5.งูโบอาสายรุ้ง (Brazilian Rainbow Boa) เป็นงูไม่มีพิษเหมือนกับงูโบอาสายพันธุ์อื่น ออกล่าโดยการซุ่มโจมตีและใช้กล้ามเนื้อที่แข็งแรงบีบรัดเหยื่อจนตาย
6.งูหลามคาร์เพ็ต (Carpet Python) มีความสวยงามด้วยสีสันที่สดใส วัยเด็กจะมีสีดำสลับกับเหลือง ออกหาอาหารในเวลากลางคืน ตอนกลางวันมักขดตัวอาบแดดอยู่บนต้นไม้
7.งูมิลค์ (Milk Snake) เป็นงูไม่มีพิษ อาศัยอยู่แถบอเมริกาเหนือจนไปถึงอเมริกาใต้ เป็นงูที่คนคิดว่ามีพิษเนื่องจากสีสันคล้ายกับงูพิษ ด้วยสีสันอันงดงาม ทำให้งูชนิดนี้เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยม
8.งูข้าวโพด (Corn Snake) ชื่อของงูข้าวโพดได้มาจากบริเวณที่พบ มักพบใกล้กับไร่ข้าวโพดเนื่องจากเป็นแหล่งที่มีหนูเป็นจำนวนมากซึ่งเป็นอาหารหลักของงู เป็นงูที่ไม่มีพิษจะใช้วิธีการรัดในการฆ่าเหยื่อ
9.งูราชา (California King Snake) ได้ชื่อมาจากการที่ชอบกินงูชนิดอื่นเป็นอาหาร โดยเฉพาะงูหางกระดิ่ง งูราชาสามารถต้านทานพิษร้ายของงูหางกระดิ่งได้อย่างสบาย เมื่อพบงูหางกระดิ่งงูราชาจะกัดที่บริเวณหัวแล้วใช้ลำตัวขดรัดเพื่อฆ่างูหางกระดิ่ง
ตุ๊กแกหายากทั้ง 4 สายพันธุ์ ประกอบด้วย
1.ตุ๊กแกเขียวมาดากัสกา (Madagascar Day Gecko) มีถิ่นกำเนิดมาจากทางตะวันออกของเกาะมาดากัสกา ชอบซ่อนตัวอยู่ตามต้นไม้ในเขตป่าฝน มีนิ้วเท้าที่แบนเพื่อใช้ในการยึดเกาะตามต้นไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.ตุ๊กแกเสือดาว (Leopard Gecko) มักอาศัยอยู่ตามพื้น พบบริเวณที่ราบสูงของทวีปเอเชีย ต่างจากตุ๊กแกชนิดอื่น ตุ๊กแกเสือดาวจะมีเปลือกตาที่สามารถปิดเปิดได้ ตุ๊กแกเสือดาวไม่สามารถปีนป่ายวัตถุที่เรียบได้เหมือนตุ๊กแกทั่วไป
3.ตุ๊กแกคิ้วหนาม (Crested Gecko) มีถิ่นกำเนิดบนเกาะคาลีโดเนีย ตุ๊กแกคิ้วหนามจะไม่มีเปลือกตาแต่จะใช้ลิ้นเลียไปที่ดวงตาเพื่อสร้างความชุ่มชื้นและทำความสะอาด เมื่อถูกศัตรูทำร้ายตุ๊กแกคิ้วหนามสามารถสลัดหางออกเพื่อเอาตัวรอดแต่หางจะไม่งอกคืนกลับมา
4.ตุ๊กแกตาแมว (Cat Gecko) มีการนอนลักษณะคล้ายแมว โดยจะเอาหางพันรอบบริเวณลำตัว เป็นสัตว์หากินกลางคืน เป็นตุ๊กแกที่ปีนต้นไม้ได้คล่องแคล่วโดยใช้เล็บเท้า
สำรวจโลกแห่งป่าดิบชื้น พร้อมชมงูและตุ๊กแกหายากทั้ง 13 สายพันธุ์ ได้แล้ววันนี้ ณ โซนป่าดิบชื้น (Rainforest) ซีไลฟ์ แบงคอก สยามพารากอน บัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ ราคา 490 บาท และ สำหรับเด็กอายุ 3-11 ปี ราคา 350 บาท