กรมอนามัยเตือนช่วงหน้าฝน เสี่ยงเจองูซ่อนในบ้าน แนะ 5 วิธีป้องกันงูเข้าบ้าน จัดบ้านให้สะอาด เตียน โล่ง เป็นระเบียบ
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนอากาศร้อนชื้น เหมาะแก่การอยู่อาศัยของงู ซึ่งมักอยู่อาศัยในบริเวณที่ชื้นแฉะ และแฝงตัวในพื้นที่รก ตามต้นไม้ รวมถึงในบ้านที่ไม่มีการจัดระเบียบให้เรียบร้อย โดยเฉพาะบ้านที่มีพงหญ้าสูงรก มีสวน ป่า ในบริเวณบ้าน และในน้ำ จะพบได้ทั้งงูไม่มีพิษ เช่น งูเหลือม งูหลาม ส่วนงูมีพิษ ที่คนถูกกัดเป็นประจำ ได้แก่ งูเห่า งูจงอาง งูกะปะ งูเขียวหางไหม้ งูแมวเซา งูสามเหลี่ยม และงูทับสมิงคลา ซึ่งหากจัดการสภาพแวดล้อมทั้งภายและภายนอกบ้านไม่ถูกสุขลักษณะ อาจเสี่ยงเป็นแหล่งที่หลบซ่อนของงู อาทิ ถังกดน้ำชักโครก รูท่อในห้องน้ำ ขอบฝาถังเครื่องซักผ้า รองเท้า ตู้เก็บรองเท้า เป็นต้น
นพ.วชิระ กล่าวว่า การดูแลอนามัยสิ่งแวดล้อมในบ้าน และที่พักอาศัยเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถกำจัด ทั้งแหล่งอาหารของงู ที่อยู่อาศัย และที่หลบซ่อนของงู ซึ่งอาจจะทำอันตรายให้กับคนในครอบครัวได้ จึงต้องสอดส่องพื้นที่ทั้งภายในบ้านและบริเวณบ้านอย่างสม่ำเสมอ และควรปฏิบัติดังนี้ 1. ทำลายแหล่งอาหารของงู โดยเฉพาะหนู ด้วยการควบคุมป้องกันและกำจัดหนูไม่ให้เข้ามาในบ้าน เก็บกวาดเศษอาหารไม่ให้ตกค้างในบ้านและท่อน้ำทิ้ง ทิ้งขยะลงถังที่แข็งแรง ไม่รั่วซึม มีฝาปิดมิดชิด เก็บอาหารในตู้เก็บอาหาร หรือใช้ฝาครอบปิดมิดชิด ใช้กรงดัก กับดัก กาวดักหนู หากใช้สารเคมีกำจัดหนู ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และเลี้ยงแมว หรือสุนัข ซึ่งจะช่วยกำจัดหนู รวมถึงช่วยไล่งูได้ด้วย 2. ปิดช่องทางเข้าออกของหนูและงู ด้วยลวดตาข่าย แผ่นโลหะ หรือวัสดุที่ป้องกันการกัดแทะของหนูได้ 3. หากเลี้ยงไก่ นก ต้องทำกรงหรือคอกที่มิดชิด ปิดกั้นรูหรือช่องที่งูจะเข้าไปได้
4. ทำความสะอาดบ้านและบริเวณบ้าน หากมีใต้ถุนบ้าน ไม่ควรเก็บวัสดุอุปกรณ์รกรุงรังที่อาจเป็นที่หลบซ่อนของงู หากมีหลุมหรือโพรงควรกลบให้เรียบร้อย โดยเฉพาะบริเวณสนาม ขอบรั้ว กำแพง และหมั่นตัดกิ่งไม้ที่พาดใกล้กับชายคาบ้าน รั้ว หรือกำแพง เพื่อป้องกันงูเลื้อยเข้าไปในบ้าน และ 5. ตรวจสอบระบบท่อไม่ให้มีรูรั่ว รอยแตก เพราะงูอาจจะเลื้อยเข้าไปตามท่อระบายน้ำ เข้าไปในบ่อเกรอะ และเลื้อยเข้าท่อที่เชื่อมกับคอห่าน ซึ่งจะทำอันตรายต่อคนขณะใช้ส้วมโดยให้ช่างติดตั้งตะแกรงกันงูตามท่อน้ำทิ้ง และปิดประตูห้องส้วม เพื่อป้องกันงูเลื้อยเข้าไป
“ทั้งนี้ ประชาชนต้องดูแลและป้องกันตนเองจากการโดนงูกัด โดยสวมรองเท้าหุ้มส้น หรือ รองเท้าบูต กางเกงขายาว เสื้อแขนยาว พกไฟฉายและไม้ หากจำเป็นต้องเข้าไปในบริเวณที่มีพงหญ้ารก ในที่มืดหรือที่แคบ หากเจองูให้อยู่นิ่ง ๆ แล้วค่อย ๆ ถอยออกมา เพราะงูจะพุ่งฉกและกัดเหยื่อที่เคลื่อนไหว วิธีการสังเกตงูว่าพิษหรือไม่ คือ หากเป็นงูหัวกลมมน จะเป็นงูไม่มีพิษ แต่ถ้าเป็นงูหัวสามเหลี่ยมจะเป็นงูมีพิษ อย่างไรก็ตาม งูเหลือม งูหลาม ซึ่งเป็นงูไม่มีพิษ แต่สามารถทำอันตรายด้วยกันรัดเหยื่อได้ จึงไม่แนะนำให้จับงูเอง ให้ โทร.แจ้งหน่วยกู้ภัยท้องถิ่นเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญมาจับงูต่อไป” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่