รายงานจากนักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มเติมหลักฐานว่าปี 2016 น่าจะเป็นปีที่ร้อนที่สุดของยุคสมัยใหม่ โดยน้ำแข็งที่ขั้วโลกทั้งสองขั้วทำสถิติลดต่ำที่สุด
จากรายงานของเอเอฟพีนักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศบอกอีกว่า การเดินหน้าเผาพลาญเชื้อเพลิงฟอสซิลนั้น ยิ่งปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่กักเก็บความร้อนในชั้นบรรยากาศ ซึ่งทำให้โลกร้อนขึ้น
ยิ่งกว่านั้นแนวโน้มจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่รุนแรงในช่วงครึ่งปีแรก ยังทำให้มหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณเส้นศูนยืสูตรร้อนขึ้น และยิ่งซ้ำร้ายความร้อนเพิ่มขึ้นไปอีก
จากรายงานขององค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศสหรัฐฯ (National Oceanic and Atmospheric Administration) หรือโนอา (NOAA) ระบุว่า เฉพาะเดือน พ.ย.ของปี 2016 เพียงเดือนเดียว ก็ทำสถิติเป็นเดือน พ.ย.ที่ร้อนสูงสุดเป็นอันดับ 5 นับแต่เริ่มมีการบันทึกเมื่อปี 1880 ถึงอย่างนั้นอุณหภูมิเฉลี่ยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2016 ก็ยังคงสูงผิดปกติ
รายงานของโนอาระบุอีกว่า อุณหภูมิปีล่าสุดทั่วโลกทั้งบนภาคพื้นและพื้นผิวมหาสมุทรมีค่าเป็น 1.69 ฟาห์เรนไฮต์ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของศตวรรษที่ 20 ประมาณ 57.2 ฟาห์เรนไฮต์ และเป็นช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย. ที่มีอุณหภูมิสูงสุด ตั้งแต่มีการบันทึกระหว่างปี 1880-2016 และสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยเมื่อปี 2015 อยู่ 0.13 ฟาห์เรนไฮต์
แม้ยังไม่มีข้อมูลบันทึกอุณหภูมิของเดือน ธ.ค. แต่รายงานจากโนอาก็ระบุว่า เดือนสุดท้ายของปี 2016 นี้กำลังจะทำสถิติร้อนขึ้น
ตามรายงานซึ่งอ้างจากศูนย์ข้อมูลหิมะและน้ำแข็งสหรัฐฯ (National Snow and Ice Data Center) ความร้อนที่ส่งผลให้ทะเลน้ำเข็งในอาร์กติกหดตัวลง จนเดือน พ.ย.ทำสถิติมีขนาดเล็กที่สุดนับแต่เริ่มมีการบันทึกจากปี 1979
ค่าเฉลี่ยของพื้นที่น้ำแข็งอาร์กติกในเดือน ธ.ค.2016 เป็น 1.9 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่บันทึกระหว่างปี 1981-2010 โดยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยช่วง 30 ปีดังกล่าวอยู่ 17.7%
“การเพิ่มของทะเลน้ำแข็งนั้นเชื่องช้าผิดปกติ ระหว่างช่วงสัปดาห์แรกและสัปดาห์ที่สามของเดือน พ.ย.” รายงานระบุ
ส่วนทะเลน้ำแข็งในแอนตาร์กติกาสำหรับเดือน พ.ย.นั้นอยู่ที่ 700,000 ตารางไมล์ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปี 1981-2010 อยู่ 11.1% ซึ่งเป็นขนาดทะเลน้ำแข็งแอนตาร์กติกาสำหรับเดือน พ.ย.ที่เล็กที่สุด
ทั้งนี้ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านเป็นปีที่ร้อนผิดปกติ โดยสถิติครบทั้ง 12 เดือน ทำให้ปี 2015 เป็นปีที่ร้อนสุดในยุคสมัยใหม่ ส่วนปี 2016 ยังขาดข้อมูลของเดือน ธ.ค.
