เอเอฟพี - คาซัคสถาน ประเทศแถบเอเชียกลาง ต้องเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเหน็บผิดปกติ ด้วยอุณหภูมิบางพื้นที่ดำดิ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของฤดูกาลถึง 30 องศาเซลเซียส ทำให้โรงเรียนหลายแห่งต้องหยุดเรียนและเที่ยวบินจำนวนมากประสบปัญหาล่าช้า
ในกรุงอัสตานา อุณหภูมิลดต่ำแตะระดับอย่างน้อย -34 องศาเซลเซียส เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หนาวเย็นกว่าค่าเฉลี่ยของฤดูกาลเกือบ 30 องศาเซลเซียส โดยปกติแล้วอุณหภูมิในหน้าหนาวของเมืองหลวงคาซัคสถานแห่งนี้ จะอยู่ที่ราวๆ 5 องศา
สภาพอากาศหนาวเหน็บสุดขั้วยังกระตุ้นอุปสงค์อันสูงลิ่วอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนของน้ำมันเบนซิน Ai-92 จนเกิดภาวะขาดแคลนและสถานีบริการท้องถิ่นบางแห่งต้องระงับการขาย แม้ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากดังกล่าวมีต้นตอจากอะไร
โรงเรียนในบางพื้นที่ได้หยุดการเรียนการสอนมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ช่วงที่อากาศหนาวเหน็บเริ่มเข้าปกคลุม ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศบาลกว่า 4,000 คน ถูกส่งเข้าเคลียร์หิมะในอัลมาตี เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ ที่อยู่ห่างจากกรุงอัสตานา ไปทางใต้ราว 1,000 กิโลเมตรในวันจันทร์(21พ.ย.)
โฆษกของแอร์ อัสตานา สายการบินแห่งชาติของคาซัคสถาน ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีทางโทรศัพท์ ว่าเที่ยวบิน 18 เที่ยวบินจากท่าอากาศยานหลักต่างๆถูกยกเลิกในวันอาทิตย์(20พ.ย.)และวันจันทร์(21พ.ย.) สืบเนื่องจากหิมะ
กรุงอัสตานา เป็นเมืองหลวงที่มีอากาศหนาวเหน็บที่สุดเป็นลำดับ 2 ของโลก รองจากกรุงอูลานบาตอร์ ของมองโกเลีย
อุณหภูมิหนาวเหน็บสุดขั้วผิดปกตินี้ เกิดขึ้นตามหลังภูมิภาคเอเชียกลางเพิ่งประสบกับอากาศอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเผชิญมาก่อน ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยเฉพาะในอุซเบกิสถาน ชาติเพื่อนบ้าน ที่อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 30 องศาเซลเซียส
ความหนาวเหน็บในเดือนพฤจิกายนได้ส่งผลกระทบต่อเขตสหพันธ์ยูรัลและไซบีเรียของรัสเซียเช่นกัน โดยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย ท่ามกลางอุณหภูมิดำดิ่ง -30 องศาเซลเซียส
จากข้อมูลของนาซา ระบุว่าสภาพอากาศที่ผิดปกติในพื้นที่แถบนี้ของโลก เกิดขึ้นขณะที่อุณหภูมิในอาร์กติก สูงกว่าปกติราวๆ 20 องศาเซลเซียส ส่วนองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกได้พยากรณ์ในช่วงต้นเดือน ว่าปี 2016 จะเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์