MGR Online - พระมหากษัตริย์หนุ่มของภูฏาน เสด็จถึงหมู่บ้านที่ใหญ่และห่างไกลที่สุดทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชน และตรวจสอบธารน้ำแข็งและทะเลสาบธารน้ำแข็ง อันเป็นต้นตอของแม่น้ำสำคัญหลายสาย แต่ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายกับชาวบ้านกรณีละลายเข้าท่วมพื้นที่
วานนี้ (28 ต.ค.) เฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck ของสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน เผยข่าวสาร และแพร่ภาพ ระบุ กษัตริย์จิกมี ซึ่งเริ่มต้นเสด็จพระราชดำเนินขึ้นภูเขาสูงไปที่ลูนานา (Lunana) พื้นที่ห่างไกลที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศภูฏาน ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยล่าสุด พระองค์เสด็จถึงธันซาหมู่บ้านที่ใหญ่และห่างไกลที่สุดของเขตลูนานา โดยเมื่อวันที่ 27 ต.ค. เสด็จเยือนธารน้ำแข็งและทะเลสาบธารน้ำแข็งหลายแห่ง ประกอบไปด้วย Thorthomi Rapstreng และ Lugge
ทั้งนี้ ธารน้ำแข็งและทะเลสาบธารน้ำแข็งดังกล่าว ถือเป็นต้นธารของแม่น้ำหลักหลายสายของภูฏาน แต่ในอีกทางหนึ่ง อาจก่อให้เกิดอันตรายให้กับประชาชนได้ในกรณีที่น้ำแข็งละลายจนกลายเป็นน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน โดยเหตุน้ำท่วมใหญ่ครั้งล่าสุดในพื้นที่ดังกล่าว เกิดขึ้นในปี 2537 ด้วยเหตุนี้สภาวะความเปลี่ยนแปลงของธารน้ำแข็ง รวมไปถึงการหดและขยายตัวของทะเลสาบน้ำแข็ง จึงมีความสำคัญและเป็นเรื่องต้องบริหารจัดการ แม้จะเป็นเรื่องที่ยากลำบาก โดยเฉพาะในยุคที่เกิดภาวะโลกร้อน และภูมิอากาศมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
เฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck ระบุว่า กษัตริย์จิกมีได้พบปะ และหารือกับเจ้าหน้าที่ผู้คอยตรวจสอบสถานการณ์ของทะเลสาบ ทั้งยังได้ตรวจการณ์สภาพของธารน้ำแข็งด้วยพระองค์เอง พร้อมกับนักธารน้ำแข็งวิทยา
ต่อจากนี้ กษัตริย์จิกมี จะออกจากธันซา เพื่อเสด็จพระราชดำเนินข้ามหุบเขา Rinchenzoe la ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 5,350 เมตร ไปยัง Sephu มณฑลตงซา อนึ่ง ครั้งหลังสุดที่กษัตริย์จิกมีเสด็จเยือนหมู่บ้านห่างไกลในลูนานา รวมไปถึงธารน้ำแข็งสำคัญทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศภูฏาน ก็ต้องย้อนไปในปี 2551