xs
xsm
sm
md
lg

Benjamin Franklin บุรุษศิลปวิทยา ผู้กระชากอสุนิบาตจากเทวดา และยึดอาวุธจากพระราชา

เผยแพร่:   โดย: สุทัศน์ ยกส้าน

ภาพสัญลักษณ์จำลองเหตุการณ์ Benjamin Franklin ล่อฟ้า (ภาพวาดโดย Benjamin West เมื่อปี 1816 จัดแสดงที่  Philadelphia Museum of Art)
ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 อเมริกาซึ่งเป็นประเทศอาณานิคมในความปกครองของอังกฤษ ได้เริ่มกระบวนการแยกตัวเป็นเอกราช ณ เวลานั้นสายตาของคนอเมริกัน กับคนอังกฤษทุกคนมุ่งตรงไปที่บุคคลหนึ่งชื่อ Benjamin Franklin ซึ่งในวัยเด็กเป็นคนที่แทบไม่ได้รับการศึกษาเลย อีกทั้งเคยหลบหนีออกจากบ้านที่ Boston เพื่อไปแสวงหาโชคลาภที่ Philadelphia โดยทำงานเป็นนักหนังสือพิมพ์ บรรณาธิการ พนักงานพิมพ์หนังสือ และเจ้าของโรงพิมพ์ เมื่อมีฐานะดีขึ้นและมีชื่อเสียง Franklin ได้เป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย Pennsylvania และจัดตั้งสมาคม American Philosophical Society การประสบความสำเร็จในหลากหลายอาชีพนี้ได้ชักนำให้ Franklin เป็นบุคคลหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการเขียนแถลงการณ์ประกาศอิสรภาพของอเมริกา นอกจากนี้ Franklin ก็ยังเป็นนักประดิษฐ์ และนักวิทยาศาสตร์ ผู้ได้พิสูจน์ว่า ฟ้าแลบมิได้เกิดจากการล่อแก้วของเมขลา และฟ้าร้องมิได้เกิดจากการขว้างขวานของรามสูร แต่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของไฟฟ้าในอากาศ เมื่อยุโรปเกิดภาวะดินฟ้าอากาศวิปริตในปี 1780 Franklin ได้เสนอข้อสันนิษฐานว่าสาเหตุคงเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใน Iceland ภาวะอากาศที่แปรปรวนนี้ได้ทำให้เกิดทุพภิกขภัยในยุโรป ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่ในฝรั่งเศส อนึ่งการมีประสบการณ์เดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกบ่อยครั้ง ทำให้ Franklin ได้พบว่า การเดินทางต้องใช้เวลาไปและมาไม่เท่ากัน เวลาที่แตกต่างนี้ช่วยให้ Franklin พบกระแสน้ำอุ่น Gulf Stream

ในภาพรวม Franklin จึงเป็นบุรุษศิลปวิทยา (Renaissance man) ผู้รอบรู้ศาสตร์มากมายหลายด้านเป็นนักประดิษฐ์อุปกรณ์ดนตรี harmonica และเหนือสิ่งอื่นใดเขาเป็นคนที่ได้อุทิศชีวิตของเขาเพื่อทำคุณประโยชน์ให้แก่มนุษยชาติ

Benjamin Franklin เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1706 (ตรงกับรัชสมัยพระเจ้าเสือ) ที่เมือง Boston ในอเมริกา เป็นลูกคนที่ 15 ของครอบครัว เมื่ออายุ 8 ขวบได้เริ่มเรียนหนังสือที่โรงเรียน Boston Latin School แต่เนื่องจากพ่อแม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียนแพง จึงลาออกมาช่วยธุรกิจสบู่ของบิดา แต่พบว่ามีความพอใจจะเดินทางท่องทะเลมากกว่า บิดาจึงได้พยายามหางานอื่นให้ทำ เพราะรู้ว่าชีวิตในทะเลเต็มไปด้วยภัยอันตราย และได้พบว่าลูกชายคนนี้ชอบอ่านหนังสือมาก จึงคิดจะให้ Franklin ทำงานด้านการพิมพ์หนังสือ

ดังนั้นเมื่ออายุ 12 ปี บิดาจึงฝาก Franklin ให้ทำงานฝึกเขียนบทความในหนังสือพิมพ์กับพี่ชายชื่อ James ที่เมือง Boston สองคนพี่น้องจึงออกหนังสือชื่อ New England Courant ซึ่งนับเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับที่ 2 ที่วางขายในอเมริกา

อีก 4 ปีต่อมา เมื่อ Franklin ได้อ่านตำราโภชนาการที่ผู้เขียนสนับสนุนให้ผู้อ่านบริโภคแต่อาหารมังสวิรัติ เขารู้สึกชอบแนวคิดนี้ จึงเจียดเงินเดือนครึ่งหนึ่งมาซื้อหนังสืออ่าน เพราะพบว่าตนมีเงินเหลือจากการกินแต่ผัก อีกหนึ่งปีต่อมา Franklin ได้เลิกแนวคิดนี้ เมื่อต้องเดินทางไกลในทะเล และรู้สึกหิวมาก จึงหันกลับไปบริโภคเนื้อสัตว์เหมือนเดิม

เมื่ออายุ 17 ปี Franklin มีเรื่องทะเลาะกับพี่ชาย จึงหนีไป Philadelphia แต่ก็ยังทำงานเกี่ยวกับการพิมพ์ที่นั่นได้ระยะหนึ่ง อีกหนึ่งปีต่อมาก็เดินทางไป London เพื่อเข้ารับการฝึกเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัยเป็นเวลา 2 ปี ขณะพำนักอยู่ที่ลอนดอนเขาได้ตกหลุมรัก แต่พบว่าตนมีอายุยังน้อยเกินไป จึงไม่ได้แต่งงาน และทิ้งให้คนรักอยู่ต่อไปในอังกฤษ ส่วนตนเองเดินทางกลับอเมริกา ด้านคู่รักได้แต่งงานกับชายคนอื่น แต่ในที่สุดก็ถูกสามีทิ้ง ถึงปี 1730 Franklin ได้กลับไปแต่งงานกับเธอ และใช้ชีวิตร่วมกัน จนเธอเสียชีวิตในอีก 43 ปีต่อมา

ในปี 1726 ที่ Franklin เดินทางกลับ Philadelphia เขาเริ่มทำธุรกิจการพิมพ์ และออกหนังสือพิมพ์ชื่อ Pennsylvania Gazette อีก 4 ปี ต่อมาก็ได้จัดพิมพ์วารสาร Poor Richard's Almanac ซึ่งเป็นวารสารที่เป็นที่นิยมอ่านกันมากในสังคมอเมริกายุคนั้น เพราะในเล่มมีทุกอรรถรส ทั้งเรื่องขำขัน เกร็ดชีวิต ข่าวสังคม และคำคม มากมาย ผลงานนี้ทำให้ Franklin มีชื่อเสียง และร่ำรวยมาก

จากนั้นทัศนคติและจิตสำนึกของ Franklin เกี่ยวกับสังคมก็เริ่มเปลี่ยน จากเด็กยากจนคนหนึ่งเขาเริ่มชีวิตด้วยการพัฒนาตนเอง และคิดจะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาสังคมที่มีตนเป็นสมาชิกคนหนึ่งด้วย จึงได้จัดตั้งสมาคม Junto ที่มีความมุ่งหมายจะปฏิรูปสังคมโดยการสื่อสารสนเทศ และแลกเปลี่ยนความคิดระหว่างบรรดาสมาชิกในประเด็นต่างๆ เช่น ในปี 1730 ได้จัดตั้งห้องสมุดสาธารณะเพื่อให้ประชาชนสามารถยืมหนังสืออ่านได้ และในปี 1731 ได้จัดตั้งบริษัทประกันอัคคีภัย โดยกำหนดให้องค์กรต่างๆ มีอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยอย่างพอเพียง ในปี 1744 ได้จัดตั้งสมาคมปรัชญาของนักวิชาการ และเมื่ออังกฤษเข้าทำสงครามกับสเปนและฝรั่งเศส อเมริกาซึ่งเป็นอาณานิคมของอังกฤษก็ได้เข้าร่วมสงครามด้วย Franklin จึงได้จัดตั้งกองทหารอาสาสมัครขึ้น กิจกรรมเหล่านี้แสดงว่า Franklin เป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมและเป็นนักเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ

หลังจากนั้น Franklin ได้พยายามพัฒนาสมาคมวิชาการให้เติบโตเป็นมหาวิทยาลัย Pennsylvania ในปี 1749 อีกสองปี ต่อมา Franklin กับเพื่อนที่เป็นแพทย์ชื่อ Dr. Bond ก็ได้จัดตั้งโรงพยาบาลแห่งแรกขึ้นในอเมริกาชื่อ Charles Pennsylvania Hospital โดยได้โฆษณาขอเรี่ยไรเงินบริจาค และขอความช่วยเหลือจากสังคม

สำหรับผลงานด้านเทคโนโลยีนั้น ในปี 1742 Franklin ได้ประดิษฐ์เตาผิงรูปแบบใหม่ให้ชาวบ้านสามารถใช้ได้อย่างคุ้มค่าและปลอดภัย โดยให้ความร้อนและควันไฟไหลผ่านไปคนละทาง จากนั้นได้ปฏิเสธการขอจดทะเบียนลิขสิทธิ์ของเตา โดยให้เหตุผลว่า ตนเองก็ใช้สิ่งประดิษฐ์ที่บุคคลอื่นคิดโดยไม่ต้องเสียเงินอะไรอยู่แล้ว ดังนั้น จึงควรอนุญาตให้คนอื่นได้ใช้สิ่งที่ตนประดิษฐ์ขึ้นฟรีเช่นกัน

ตั้งแต่ปี 1749 เป็นต้นมา Franklin วัย 43 ปี ได้กลายเป็นบุคคลสังคม แม้จะมีฐานะดี แต่ยังใช้ชีวิตอย่างมัธยัสถ์คือ กินแต่ขนมปัง กับนม และไม่ดื่มน้ำชา เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ในบ้านก็มีราคาถูก จนกระทั่งวันหนึ่งภรรยาได้เห็นว่าสามีทำงานหนักมามากและนานแล้ว จึงสมควรจะมีชีวิตที่ดีบ้าง เธอจึงจัดซื้อด้วยโถถ้วยที่ทำด้วยเครื่องปั้นดินเผาดีๆ มาใช้ในบ้าน

ในด้านผลงานวิทยาศาสตร์ Franklin ก็มีบทบาทในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องไฟฟ้า เพราะ Franklin ได้ทดลองโดยใช้ถ้วย Leyden จนพบว่า มีไฟฟ้าสองชนิดในธรรมชาติ คือ ไฟฟ้าบวก กับไฟฟ้าลบ (ในสมัยนั้นยังไม่มีการพบโปรตอนและอิเล็กตรอน) ถึงปี 1752 Franklin ก็รู้ว่าฟ้าแลบเกิดจากไฟฟ้าเวลาเคลื่อนที่ผ่านอากาศ จึงได้ประดิษฐ์สายล่อฟ้า ซึ่งทำให้อาคารบ้านเรือนสูงๆ ปลอดภัยจากการถูกฟ้าผ่า ผลงานเหล่านี้ทำให้ผู้คนพากันชื่นชมความสามารถของ Franklin มาก ไม่ว่าจะในอเมริกา อังกฤษ หรือฝรั่งเศส ทำให้ได้รับเลือกเป็นสมาชิกต่างชาติของ Royal Society (F.R.S.) และรับเหรียญ Copley ของสมาคมในปี 1753

เมื่อ Franklin เดินทางไปพำนักในอังกฤษในปี 1757-75 ขณะนั้นเป็นเวลาใกล้จะเกิดสงครามระหว่างอเมริกากับอังกฤษแล้ว Franklin จึงไปปารีสเพื่อขอความช่วยเหลือทางทหารจากฝรั่งเศส ผลการเจรจาครั้งนั้นทำให้อเมริกาชนะอังกฤษและเป็นเอกราช ถึงปี 1759 ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัย St. Andrew’s และจากมหาวิทยาลัย Oxford ในปี 1762

ชีวิตของ Franklin เป็นชีวิตที่อุทิศให้สังคมโดยตลอด เช่น ในปี 1775 ขณะอายุ 69 ปีได้รับเลือกเป็นนายไปรษณีย์แห่งเมือง Philadelphia เป็นสมาชิกสภาผู้แทนของเมือง เป็นชาวอเมริกันที่คนอังกฤษรู้จักดีที่สุด และเป็นรัฐบุรุษที่รู้จักคนมีชื่อเสียงระดับโลก เช่น David Hume นักปรัชญา ปราชญ์ Voltaire นักเคมี Joseph Priestley ผู้พบออกซิเจน สมเด็จพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และนักอุตสาหกรรมชื่อ Josiah Wedgwood เป็นต้น

เมื่อเกิดกรณีพิพาทระหว่างรัฐ Pennsylvania กับครอบครัวตระกูล Penn ในปี 1764 เรื่องการเก็บภาษี Franklin ได้เข้ามาทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยจนสำเร็จ และในฐานะตัวแทนของรัฐ Franklin ได้เคยเดินทางไปอังกฤษ เพื่อทูลขอให้กษัตริย์อังกฤษทรงประกาศ Pennsylvania เป็นรัฐในความปกครองของพระองค์

แต่เมื่อสงครามประกาศอิสรภาพระเบิด Franklin ได้เข้าร่วมในกระบวนการต่อสู้เพื่อชาติ และถูกส่งตัวไปฝรั่งเศสในปี 1776 เพื่อทำความตกลงกับฝรั่งเศสที่จะให้ช่วยเรื่องอาวุธยุทธโธปกรณ์ และเงินทองในการต่อสู้เพื่อความเป็นอิสรภาพจากอังกฤษ ขณะอยู่ที่นั่นชาวฝรั่งเศสได้ต้อนรับ Franklin ในฐานะที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ และนักปรัชญาอย่างอบอุ่น เพราะเห็นด้วยกับวิธีคิดของ Franklin ในการประกาศอิสรภาพ ในปี 1779 Franklin ได้รับเลือกเป็นผู้ว่ารัฐ Pennsylvania

เมื่อกลับถึงอเมริกา Franklin ก็ยังทำงานต่อเพื่อสังคม แม้จะมีอายุ 81 ปีแล้ว แต่ก็ยังช่วยร่างรัฐธรรมนูญให้ประเทศ และพยายามล้มล้างประเพณีการมีทาส

หลังจากที่ล้มป่วยได้ไม่นาน Franklin ก็เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 เมษายน ในปี 1790 ที่ Philadelphia สิริอายุ 84 ปี ในงานศพไว้อาลัยมีผู้มาร่วมพิธีกว่า 20,000 คน

ชีวิตของ Franklin เป็นชีวิตที่เกิดมาเพื่อบุคคลอื่น เป็นคนขยันทำงานและมุ่งทำแต่สิ่งที่ดี เป็นคนที่มีความทะเยอทะยานในการประสงค์จะให้สังคมดีขึ้น จึงได้เข้าไปมีบทบาทร่วมในกิจกรรมดีแทบทุกเรื่อง

สำหรับผลงานเขียนนั้นก็มีมากมายทั้งด้านวิทยาศาสตร์ ปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ เช่น ในเบื้องต้นเขาคิดว่า อเมริกาไม่ควรเป็นอิสระจากอังกฤษ แต่เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ Franklin ก็กลับใจและหันไปต่อสู้เพื่อชาติ

บทความที่เขียนของ Franklin แสดงให้เห็นว่า เขาเป็นคนมีอารมณ์ขัน มีสติปัญญาหลักแหลม เป็นคนเขียนหนังสือเก่ง และเป็นผู้ที่คิดบัญญัติคำใหม่ๆ เช่น battery, charge, condenser, conductor, ฯลฯ แม้แต่สำนวนที่ว่า An apple a day, keep the doctor away. ก็เป็นของ Franklin

อ่านเพิ่มเติมจาก Franklin of Philadelphia โดย Esmond Wright จัดพิมพ์โดย Harvard University Press ในปี 1986






เกี่ยวกับผู้เขียน

สุทัศน์ ยกส้าน
ประวัติการทำงาน-ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์และดาราศาสตร์ และ ศาสตราจารย์ ระดับ 11 ภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นและนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขากายภาพและคณิตศาสตร์ ประวัติการศึกษา-ปริญญาตรีและโทจากมหาวิทยาลัยลอนดอน, ปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย

อ่านบทความ สุทัศน์ ยกส้าน ได้ทุกวันศุกร์







กำลังโหลดความคิดเห็น