พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รักษาราชการแทนรองบัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานจราจร เปิดเผยว่า จากกรณีที่ขณะนี้รถจักรยานยนต์รับจ้างบางรายฉวยโอกาสคิดค่าโดยสารเกินอัตรากำหนด และมีการติดป้ายว่ารับ-ส่งสนามหลวงฟรี แต่มีการเรียกเก็บค่าโดยสารในภายหลังนั้น ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องขัดต่อกฎหมาย ตนจึงได้กำชับให้ทุก สน.ควบคุมจับกุมวินจักรยานยนต์ที่กระความผิด พร้อมทั้งดูแลประชาชนเพื่อป้องกันไม่ให้โดนเอาเปรียบ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดพื้นที่สำหรับจักรยายนต์ที่รับ-ส่งฟรีไว้ทั้งหมด 5 จุด ได้แก่ ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อนุสาวรีย์ทหารอาสา ท่ามหาราช ท่าช้าง และวงเวียน รด. สำหรับประชาชนที่ต้องการใช้บริการ สามารถไปขึ้นได้ตามจุดต่างที่ทางเจ้าหน้าที่กำหนดเพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่ถูกรถจักรยายนต์รับจ้างหลอกว่าให้ขึ้นฟรี แต่มีการเก็บเงินภายหลัง หรือคิดอัตราค่าโดยสารเกินกว่าที่กำหนด สามารถร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน 1197 เจ้าหน้าที่จะรับเรื่องและประสานไปยัง สน.พื้นที่ที่เกิดเหตุ โดยจะต้องแจ้งหมายเลขทะเบียนรถหรือชื่อคนขับที่ติดด้านหลังเสื้อวินมาด้วย หรือสามารถถ่ายรูปทะเบียนรถจักรยานยนต์และป้ายชื่อและส่งมายังเพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร-บก02" เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากเป็นกรณีที่ประชาชนและผู้ขับขี่วินมีการตกลงราคากันก่อนจะให้ไปส่งหรือวิ่งให้บริการในเส้นทางและราคาตามปกติ ก็ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย สำหรับวินจักรยายนต์รับจ้างที่กระทำพฤติกรรมดังกล่าวถือว่า มีความผิดตามกฎกระทรวง โดยเป็นการเรียกเก็บค่าโดยสารเกินกว่าอัตรากำหนด โดยกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกโดยสารจักรยานยนต์ พ.ศ.2548 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และนายทะเบียนสามารถเพิกถอนใบอนุญาต หรือพักใบอนุญาตไม่เกิน 6 เดือน
สำหรับอัตราค่าโดยสารที่กำหนดในกฎกระทรวง 2 กิโลเมตรแรกไม่เกิน 25 บาท (กิโลเมตรต่อไปไม่เกินกิโลเมตรละ 5 บาท) และ 5 กิโลเมตรขึ้นไป อัตราค่าจ้างให้เป็นไปตามที่ผู้ขับรถและคนโดยสารตกลงกัน ส่วนกรณีกรณีติดป้ายรับ-ส่งฟรี นำผู้โดยสารไปส่งถึงจุดหมายแล้วเก็บค่าโดยสาร ผิดฐานฉ้อโกง แสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดฯ มีอัตราโทษ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรหากพบเห็นให้บังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดได้ทันที
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดพื้นที่สำหรับจักรยายนต์ที่รับ-ส่งฟรีไว้ทั้งหมด 5 จุด ได้แก่ ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อนุสาวรีย์ทหารอาสา ท่ามหาราช ท่าช้าง และวงเวียน รด. สำหรับประชาชนที่ต้องการใช้บริการ สามารถไปขึ้นได้ตามจุดต่างที่ทางเจ้าหน้าที่กำหนดเพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่ถูกรถจักรยายนต์รับจ้างหลอกว่าให้ขึ้นฟรี แต่มีการเก็บเงินภายหลัง หรือคิดอัตราค่าโดยสารเกินกว่าที่กำหนด สามารถร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน 1197 เจ้าหน้าที่จะรับเรื่องและประสานไปยัง สน.พื้นที่ที่เกิดเหตุ โดยจะต้องแจ้งหมายเลขทะเบียนรถหรือชื่อคนขับที่ติดด้านหลังเสื้อวินมาด้วย หรือสามารถถ่ายรูปทะเบียนรถจักรยานยนต์และป้ายชื่อและส่งมายังเพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร-บก02" เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากเป็นกรณีที่ประชาชนและผู้ขับขี่วินมีการตกลงราคากันก่อนจะให้ไปส่งหรือวิ่งให้บริการในเส้นทางและราคาตามปกติ ก็ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย สำหรับวินจักรยายนต์รับจ้างที่กระทำพฤติกรรมดังกล่าวถือว่า มีความผิดตามกฎกระทรวง โดยเป็นการเรียกเก็บค่าโดยสารเกินกว่าอัตรากำหนด โดยกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกโดยสารจักรยานยนต์ พ.ศ.2548 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และนายทะเบียนสามารถเพิกถอนใบอนุญาต หรือพักใบอนุญาตไม่เกิน 6 เดือน
สำหรับอัตราค่าโดยสารที่กำหนดในกฎกระทรวง 2 กิโลเมตรแรกไม่เกิน 25 บาท (กิโลเมตรต่อไปไม่เกินกิโลเมตรละ 5 บาท) และ 5 กิโลเมตรขึ้นไป อัตราค่าจ้างให้เป็นไปตามที่ผู้ขับรถและคนโดยสารตกลงกัน ส่วนกรณีกรณีติดป้ายรับ-ส่งฟรี นำผู้โดยสารไปส่งถึงจุดหมายแล้วเก็บค่าโดยสาร ผิดฐานฉ้อโกง แสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดฯ มีอัตราโทษ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรหากพบเห็นให้บังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดได้ทันที
