เถียงให้รู้ ดูให้เข้าใจไปกับมหกรรม "Climate Change Expo 2015" มหกรรมเตรียมความพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยความเข้าใจจากหน่วยงานทั้งไทยและเทศ ห้ามพลาดไฮไลท์เด็ด ! เสวนาถกประเด็นโลกร้อนจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมหนังสั้นสะท้อนการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศฝีมือนักศึกษาและผู้กำกับชื่อดัง 27-29 ต.ค.ณ ทีเค ปาร์ก เซ็นทรัลเวิลด์
จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้วสำหรับมหกรรมเตรียมพร้อมในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change Expo 2015 ที่ในปีนี้จัดขึ้นที่อุทยานการเรียนรู้ทีเคพาร์ค เซ็นทรัลเวิลล์ ระหว่างวันที่ 27-29 ต.ค.58 ซึ่งทีมข่าวผู้จัดการไม่พลาดอาสาเก็บภาพบรรยากาศนิทรรศการและกิจกรรมมาฝาก
ก่อนไปชมบรรยากาศภายใน เรามาทำความรู้จักมหกรรมนี้ก่อน มหกรรมเตรียมความพร้อมในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change Expo จัดขึ้นเพื่อสร้างองค์ความรู้และประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
รวมถึงการแผยแพร่ผลงานด้านการตั้งรับต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของหน่วยงานของภาครัฐ ภาคเอกชน ตัวแทนชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากต่างประเทศ โดยความร่วมมือของสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และอีกกว่า 20 หน่วยงานภาคีเครือข่าย
Climate Change Expo จัดแสดงที่ศูนย์การเรียนรู้ TK PARK ตั้งอยู่ที่ชั้น 8 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลล์ ราชประสงค์ กรุงเทพฯ ที่เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนกลางขึ้นมาก็จะเห็นนิทรรศการตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าฝั่งขวาชัดเจน ภายในงานแม้จะมีพื้นที่ไม่มากนัก แต่ก็ถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนใช้งานได้เหมาะสมถึง 4 ส่วนหลัก
เริ่มตั้งแต่ด้านหน้าสุดที่เป็นส่วนของนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นบอร์ดอักษรความรู้พร้อมพระบรมฉายาลักษณ์ขนาดใหญ่จัดแสดงโครงการพระราชดำริ เช่น โครงการหญ้าแฝก โครงการแก้มลิง และโครงการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศแปรปรวน เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้ประจักษ์ในพระปรีชาสามารถและน้อมนำไปใช้ในการแก้ปัญหาในพื้นที่ของตัวเอง
นิทรรศการส่วนที่ 2 เป็นการแสดงผลงานการตั้งรับของหน่วยงานราชการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาทิ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ริเริ่มกิจกรรมการแข่งขันประกวดสิ่งประดิษฐ์รีไซเคิลมาเป็นเวลานานนับ 10 ปี เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของการรีไซเคิล ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะได้แล้ว ยังช่วยลดปริมาณคาร์บอนที่ถูกปลดปล่อยออกสู่ธรรมชาติได้ด้วย
เช่นเดียวกับสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ที่ศึกษาปริมาณการปลดปล่อยรอยเท้าคาร์บอน (carbon footprint) ในผลิตภัณฑ์สินค้าการเกษตร 6 รายการ เพื่อมุ่งให้สินค้าการเกษตรยุคใหม่เป็นสินค้าที่ถูกปลูกขึ้นด้วยความใส่ใจสิ่งแวดล้อม
รวมถึงกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่นำตัวเลขการกักเก็บคาร์บอนในป่าแต่ละชนิดมานำเสนอ ควบคู่กับโครงการเข้าหาชุมชนชายป่าเพื่อให้ความรู้กับชาวบ้านเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเผาท่อนไม้ตอซัง อันเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ผ่านโปรแกรมที่ชื่อว่า REDD+
ส่วนที่ 3 เป็นส่วนผลงานด้านการเปลี่ยนแผลงสภาวะภูมิอากาศที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานและสถานทูตต่างประเทศ อาทิ UNEP ที่ให้ข้อมูลและทุนสนับสนุนสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทยเพื่อจัดทำฐานข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศร่วม
ด้านสหภาพยุโรปนำแผ่นพับข้อมูลความคืบหน้า 11 โครงการที่ให้เงินทุนสนับสนุนกับหน่วยงานต่างๆ ของประเทศไทยมานำเสนอ เพื่อแสดงออกให้เห็นถึงแนวนโยบายที่ไทยและยุโรปมีร่วมกันสำหรับการปกป้องสิ่งแวดล้อมจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ด้านสถานเอกอัครราชฑูตฝรั่งเศสก็ไม่แพ้กัน นำโครงการรณรงค์ "Why do I care?" มาจัดแสดงเพื่อให้ผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วม เพราะเป็นกิจกรรมที่จัดทำขึ้นเพื่อให้แต่ละคนมีสำนึกรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง อันเป็นการแก้ปัญหาจากระดับต้นน้ำเพื่อยับยั้งไม่ให้การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเลวร้ายมากขึ้น
ส่วนสุดท้ายที่เป็นสีสันมากที่สุด คือส่วนของห้องจัดแสดงผลิตภัณฑ์พื้นบ้านและห้องประชุมขนาดกลาง ที่ใช้เป็นส่วนจัดแสดงผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ของชาวบ้านชุมชนต้นแบบที่มีการบริหารจัดการแบบใส่ใจการปลดปล่อยคาร์บอน อาทิ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเทศบาลตำบลศรีธาตุ จ.อุดรธานี, ต.แม่วิน-แม่ทา จ.เชียงใหม่ และ ต.คลองจินดา จ.นครปฐมที่นอกจากแต่ละชุมชนจะนำของดีในพื้นที่มาประชันกันแล้ว การแต่งกายอันสวยงามก็ถูกจัดมาสำหรับงาน 3 วันนี้ด้วย เป็นสีสันประดับมหกรรมได้เป็นอย่างดี
ที่ขาดไม่ได้สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ คือเวทีเสวนาในหัวข้อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่จะเปิดฉากอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 28 ต.ค. เพราะไฮไลท์อยู่ที่หัวข้อและผู้พูดที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการฉายภาพยนต์สั้นประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยหัวข้อการเสวนาและฉายภาพยนต์ที่น่าสนใจมีดังนี้
28 ต.ค.58
เวลา 11.00 น. ในหัวข้อ วิทยาศาสตร์และมาตรการลดก๊าซเรือนกระจก
เวลา 13.30 น. ในหัวข้อ ผลกระทบและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เวลา 15.30 น. ในหัวข้อ การลดโลกร้อนและมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
29 ต.ค.58
เวลา 13.00 น. ในหัวข้อ เกมกระดานและองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม
เวลา 15.00 น. การฉายภาพยนต์เรื่อง Do the Math และภาพยนต์สั้นที่ส่งเข้าประกวดในหัวข้อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งจัดไปแล้ว 1 ครั้งภายในพิธีเปิดวันแรก
ทีมข่าวผู้จัดการวิทยาศาสตร์ได้ร่วมเข้าชมด้วยเป็นจำนวน 3 เรื่องด้วยกัน คือ ภาพยนตร์สั้นเรื่อง "แผ่นดินของพ่อ" ผลงานการกำกับของนายณัฐวุฒิ ศรีวงค์วรณ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวจากประสบการณ์จริง เมื่อทึกคนในทีมเป็นลูกชาวนาแต่ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้เพราะพื้นดินแห้งแล้งและฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล จนต้องน้อมนำเอาแนวพระราชดำริ "แก้มลิง" ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้จัดการกับสภาพอากาศอันเลวร้ายที่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ส่วนหนึ่ง
ภาพยนตร์เรื่อง "Mama tell me ก็แม่บอกแล้ว" ผลงานการกำกับของ น.ส.กวินนาฏ หัวเขา นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่สอดแทรกความมักง่ายของมนุษย์ผ่านการเดินเรื่องของวัยรุ่นคนหนึ่งที่บ้าโซเชียล ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นจำนวนมากทำให้สิ้นเปลืองไฟฟ้าและทรัพยากร ซึ่งถือเป็นจุดเล็กๆ ที่ทำให้สภาพภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงไป ดังเห็นได้จากฝนที่ตกมากผิดปกติจนทำให้เกิดโรคฉี่หนู โรคภูมิแพ้และไข้หวัดตามมา จนตัวแสดงหลักเกิดอาการป่วยด้วยต้นเหตุจากความมักง่ายของตัวเองเหมือนที่แม่ของเธอเคยเตือนไว้
ส่วนเรื่องสุดท้ายเป็นภาพยนต์เรื่อง "for rest" ผลงานของ น.ส.ณัฐพิชา ไชยรา นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่สะท้อนถึงเรื่องราวความเลวร้ายของสถานการณ์หมอกควันจากไฟป่าในภาคเหนือ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนมากไม่เคยรู้ เพราะเดินทางมาเที่ยวเฉพาะช่วงเทศกาลที่ธรรมชาติงดงาม ไม่ได้อยู่คลุกคลีกับสภาพอากาศอันเลวร้ายในวันปกติ ที่ณัฐพิชาเผยว่าภาพยนต์เรื่องนี้เป็นการสะท้อนความจริงให้คนทั่วไปได้เห็นอีกด้านหนึ่ง ถึงความเลวร้ายลงเรื่อยๆ ของสภาพภูมิอากาศผ่านภาพและเพลง เพื่อหวังเป็นจุดกระตุ้นเตือนเล็กๆ ให้คนในสังคมหันมาเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยภาพยนต์ for rest ได้รับเลือกให้เป็นภาพยนต์ที่ชนะเลิศในการแข่งขัน ได้รับเงินรางวัล 15,000 บาทพร้อมด้วยทุนศึกษาดูงานกรุงปารีสจากสถานทูตฝรั่งเศส
ทั้งนี้ งานมหกรรม Climate Change Expo 2015 "เพราะอากาศเป็นใจ" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 ต.ค.58 ณ อุทยานการเรียนรู้ (TK PARK) ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลล์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. เข้าชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย