xs
xsm
sm
md
lg

28 ก.ย.จันทรุปราคาในคืน “ซูเปอร์มูน” (แต่ไม่เห็นในไทย)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สดร.เผยวันจันทร์ที่ 28 ก.ย.58 จะเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงในวันที่ดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกมากที่สุก หรือเรียกว่า “ซูเปอร์มูน” แต่ไม่สามารถเห็นได้ในไทย เพราะเกิดปรากฏการณ์ตรงกับช่วงกลางวันของ ระบุเป็นเหตุการณ์หายาก เคยเกิดล่าสุดเมื่อ 33 ปีที่แล้ว และจะเกิดอีกครั้งใน 19 ปีข้างหน้า ทว่าในเมืองไทยก็ยังคงมองไม่เห็น แต่คนไทยยังคงได้เห็นดวงจันทรืใหญ่กว่าปกติ 2-3%

ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ (สดร.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันที่ 28 ก.ย.58 จะเกิดปรากฏการณ์ “จันทรุปราคาเต็มดวง” ขึ้น แต่น่าเสียดายประเทศไทยไม่สามารถสังเกตเห็นจันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ได้เนื่องจากตรงกับเวลากลางวัน ซึ่งดวงจันทร์ยังอยู่ใต้ขอบฟ้าปรากฏการณ์ครั้งนี้ แต่จะสังเกตเห็นได้ในแถบอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ มหาสมุทรแอตแลนติก ยุโรป แอฟริกา และด้านตะวันตกของเอเชีย นอกจากนี้ยังเป็นวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงโคจรมาเข้าใกล้โลกที่สุดในรอบปีที่ระยะห่าง 356,876 กิโลเมตร จะมองเห็นดวงจันทร์มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ประมาณ2-3%หรือที่เรียกกันว่า “ซูปเปอร์มูน”

“ดังนั้นพื้นที่ดังกล่าวข้างต้นจะสามารถมองเห็นจันทรุปราคาเต็มดวงสีแดงอิฐที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติอีกด้วย ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงที่เกิดขึ้นในวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลก นับเป็นปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นเพียง 5 ครั้ง ได้แก่ พ.ศ.2453, 2471, 2489, 2507, 2525 ครั้งที่ 6 ในวันที่ 28 ก.ย.58 นี้ และจะเกิดครั้งต่อไปใน พ.ศ.2576 ถึงแม้คนไทยจะพลาดชมจันทรุปราคาเต็มดวง แต่ในคืนดังกล่าวจะยังได้เห็นปรากฏการณ์ดวงจันทร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี เชิญชวนรอชมและเก็บภาพความสวยงามของ “ซูปเปอร์มูน” ได้ทั่วประเทศ” ดร.ศรัณย์กล่าว

สำหรับปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงในวันที่ 28 ก.ย.58 นี้ เกิดขึ้นในช่วงเช้าตามเวลาในประเทศไทย ดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามัวของโลกตั้งแต่เวลาประมาณ 07.11 น. และจากนั้นค่อยๆ เคลื่อนเข้าสู่เงามืดของโลกเกิดเป็นจันทรุปราคาบางส่วนในเวลาประมาณ 08.07 น. หลังจากนั้นดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่ “จันทรุปราคาเต็มดวง” ตั้งแต่เวลา 09.11 - 10.23 น. ช่วงที่ดวงจันทร์อยู่ในเงามืดของโลกเต็มดวง จะมองเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดงอิฐทั้งดวง หลังจากนั้นดวงจันทร์จะเริ่มออกจากเงามืดของโลกเข้าสู่การเป็นช่วงจันทรุปราคาบางส่วนอีกครั้ง จนกระทั่งออกจากเงามืดของโลกทั้งดวงในเวลา 11.27 น. แล้วเปลี่ยนเป็นจันทรุปราคาเงามัว ซึ่งสังเกตได้ยากเนื่องจากดวงจันทร์มีการเปลี่ยนแปลงความสว่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ช่วงท้ายสุดดวงจันทร์จะพ้นจากเงามัวของโลกเวลา 12.28 น. ถือว่าเป็นการสิ้นสุดของปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงโดยสมบูรณ์

ทั้งนี้ จันทรุปราคาเป็นปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์โคจรมาอยู่ในระนาบเดียวกัน โลกอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ ขณะที่ดวงจันทร์โคจรผ่านเข้าไปในเงามืดของโลก ผู้สังเกตบนโลกจะมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งไปทีละน้อยจนดวงจันทร์เข้าไปอยู่เงามืดทั้งดวง และเริ่มมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งอีกครั้งหนึ่งเมื่อดวงจันทร์เคลื่อนที่ออกจากเงามืดของโลก ช่วงที่ดวงจันทร์โคจรเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลกบางส่วนจะเรียกว่า “จันทรุปราคาบางส่วน” และช่วงที่ดวงจันทร์โคจรเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลกทั้งดวง เรียกว่า “จันทรุปราคาเต็มดวง” จะมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงเป็นสีแดงอิฐ เนื่องจากแสงสีแดงมีความยาวคลื่นมากที่สุดที่ตามองเห็นได้ ซึ่งจะเกิดการหักเหผ่านบรรยากาศโลกไปกระทบกับดวงจันทร์

“ตามปกติแล้วดวงจันทร์โคจรรอบโลกเป็นรูปวงรีจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก โดย1 รอบ ใช้ระยะเวลา 1 เดือน แต่ละเดือนจะมีทั้งวันที่ดวงจันทร์ไกลโลกและดวงจันทร์ใกล้โลก จุดที่ดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกมากที่สุด เรียกว่า เปริจี (Perigee) มีระยะห่างประมาณ 363,700 กิโลเมตร ส่วนจุดที่ดวงจันทร์ห่างจากโลกมากที่สุด เรียกว่า อะโปจี (Apogee) มีระยะห่างประมาณ 406,000 กิโลเมตร การที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลกและโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำให้แรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์กระทำต่อผิวโลก ส่งผลให้ให้เกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ และการที่ผู้คนบนโลกสามารถมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงในคืนที่มีวงโคจรใกล้โลกนับว่าเป็นเรื่องปกติที่สามารถอธิบายได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์” ดร.ศรัณย์ให้ข้อมูล
ภาพแสดงตำแหน่งของดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์
สีของดวงจันทร์ขณะเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง ขณะเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคา









กำลังโหลดความคิดเห็น