สำหรับคอลัมน์นี้ อยากแนะนำใครที่มักเดินทางด้วยเครื่องบิน อาจลองหากล้องดิจิทัลติดตัวไว้บ้าง เพราะนอกหน้าต่างเครื่องบิน บ่อยครั้งมักมีปรากฏการณ์ทางแสงที่สวยงามให้เราได้ถ่ายภาพกันสนุก พร้อมทั้งได้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย
ใช่แล้วครับวันนี้เราจะมาพูดกันเกี่ยวกับ กลอรี (Glory) มาลองศึกษากันไว้ก่อนครับ เผื่อใครได้ขึ้นเครื่องคราวหน้า ให้นั่งติดหน้าต่าง อยู่ฝั่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ เพื่อลุ้นถ่ายภาพ กลอรี่ (glory) กันได้ครับ
กลอรี (Glory) คืออะไร
“กลอรี” เป็นปรากฏการณ์ทางแสงที่มีลักษณะคล้ายกับวงแสงสีรุ้งที่มักเกิดอยู่รอบเงาของเครื่องบินหรือบอลลูน โดยเราจะเห็นวงแหวนสีแดงอยู่ด้านนอกและสีฟ้าอยู่ด้านใน คนที่เดินทางในเครื่องบินมักจะเห็นความงามของกลอรี โดยในการเกิดปรากฏการณ์ทางแสงนี้ จำเป็นต้องมีดวงอาทิตย์อยู่ตรงข้ามกับเงาของเครื่องบิน และผู้สังเกตต้องสามารถมองเห็นเงาเครื่องบินบนเมฆหรือหมอกได้ ซึ่งขณะที่เรามองไปยังพื้นเมฆให้ลองมองหาเงาของเครื่องบิน
ในบางครั้งเงาของเครื่องบินอาจถูกล้อมรอบไปด้วยวงแสงกลอรี ปรากฏให้เห็นความสวยงามได้บ่อยครั้ง โดยวงแสงสีรุ้ง อาจมีมากกว่า 1 ชุด รอบเงาบนเมฆหรือหมอกที่อยู่ตํ่ากว่าผู้สังเกต เช่น มองลงมาจากเครื่องบิน, ภูเขา ฯลฯ ดังภาพตัวอย่างด้านล่างจากเว็บไซต์ http://earthsky.org/ ที่ชาวต่างชาติก็สามารถถ่ายภาพมาให้ชมกันเช่นกัน
ในการอธิบายทางวิทยาศาสตร์ “กลอรี” ก็ถือเป็นปรากฏการณ์ทางแสงที่เหมือนกับรุ้งกินน้ำเต็มวงจางๆ เกิดจากการสะท้อนและหักเหของแสงอาทิตย์ในละอองน้ำในอากาศ โดยมีขนาดเชิงมุม (Angular Size) ประมาณ 5-10 องศา (รุ้งกินน้ำ (รุ้งปฐมภูมิ) มีขนาดเชิงมุมประมาณ 40-42 องศา) และเกิดในทิศทางตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ (Antisolar Point)
ภาพถ่าย“กลอรี”บอกตำแหน่งผู้ถ่ายได้อย่างไร
ในการถ่ายภาพวงแสงสีรุ้ง“กลอรี”นั้นภาพถ่ายแต่ละภาพยังสามารถบอกตำแหน่งของผู้ถ่ายภาพได้อีกว่าอยู่ตรงตำแหน่งไหนของภาพกลอรี โดยให้สังเกตตรงบริเวณศูนย์กลางของกลอรีเป็นเกณฑ์ ซึ่งจะตรงกับตำแหน่งของผู้สังเกตหรือผู้ถ่ายภาพนั่นเอง
ดังเช่นภาพด้านล่างเป็นภาพที่ผมถ่ายจากบริเวณแถวด้านหลังปีกของเครื่องบิน ซึ่งเราสามารถสังเกตว่าบริเวณศูนย์กลางของวงแสงกลอรี เป็นบริเวณไหนของเงา ก็สามารถบอกได้ว่าตำแหน่งผู้สังเกตอยู่บริเวณนั้น
กลอรีของตำแหน่งของผู้สังเกตที่ต่างกันเพียง 1 ก้าว ก็จะมีลักษณะที่ต่างกันแล้วครับ ดังนั้นกลอรีที่เรามองเห็นหรือที่เราถ่ายภาพ ก็ถือเป็นกลอรีของคนนั้นๆ จึงน่าภูมิใจหากเราภาพถ่ายได้ เพราะเป็นกลอรีของเราที่ไม่เหมือนกับใคร
การถ่ายภาพ “กลอรี”
สำหรับการถ่ายภาพนั้น เทคนิคคงไม่มีอะไรมากนัก กล้องโทรศัพท์มือถือก็สามารถถ่ายภาพได้แล้ว แต่ปัจจัยสำคัญของการถ่ายภาพปรากฏการณ์ กลอรี ก็คือ “ต้องถูกที่ ถูกเวลา” มากกว่า ดังนั้นในการถ่ายภาพกลอรี การวางแผนล่วงหน้าถือเป็นเทคนิคที่สำคัญในการถ่ายภาพครับ
1. เวลา 7.00-8.00 น. มีโอกาสเห็นได้ง่าย ผมขออนุญาตแชร์จากประสบการณ์ที่มีโอกาสได้เห็นกลอรี บ่อยๆ มักเป็นช่วงเช้า ประมาณช่วง 7.00-8.00 น. โดยประมาณ (ปกติผมมักเดินทางในเที่ยวบิน 7.00-10.00 น.) เนื่องจากช่วงเวลา 7.00-8.00 ตำแหน่งของดวงอาทิตย์จะอยู่ในมุมที่ไม่สูงมากนัก 15-20 องศาโดยประมาณ ซึ่งทำให้เราสามารถมองเห็นเงาเครื่องบินที่อยู่บนก้อนเมฆใต้เครื่องบินได้ง่ายกว่า ช่วงสายๆไปแล้ว เพราะยิ่งตำแหน่งดวงอาทิตย์อยู่สูง เงาก็ยิ่งอยู่ใต้เครื่องบินมากนั้น ยากแก่การมองจากหน้าต่างเครื่องบิน
2. เลือกตำแหน่งที่นั่งติดหน้าต่าง ด้านตรงข้ามดวงอาทิตย์ เนื่องจากตำแหน่งการเกิดปรากฏการณ์ กลอรี จะอยู่ในทิศตรงกันข้ามกับดวงอาทิตย์เสมอ
3. หมั่นสังเกตเมฆและเงาของเครื่องบิน เพราะเมื่อองค์ประกอบ ตำแหน่งการเกิด ที่เหมาะสมเราก็จะสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย แต่อาจจะเป็นเวลาสั้นๆ เท่านั้น เพราะบางช่วงของเส้นทางก็ไม่มีเมฆ
4. ทำความสะอาดกระจกเครื่องบินไว้ล่วงหน้า อาจทำความสะอาดกระจกไว้ก่อน เพื่อความคมชัดของภาพที่เราอาจโชคดีได้ถ่ายกลอรี
5. เลือกเลนส์ถ่ายภาพในช่วงปกติ ส่วนมากก็จะอยู่ในช่วง 24-70 mm. เพราะหากใช้เลนส์มมุมกว้างมากไปก็มักจะได้ภาพที่ติดขอบกระจกของเครื่องบิน หรือหากใช้เลนส์เทเลโฟโต้ก็อาจลำบากสักหน่อยในการถ่ายภาพติดกับกระจก
6. หาแจ็คเก็ตไว้คอยคลุมหน้ากล้องตอนถ่ายภาพ การใช้เสื้อแจ็กเก๊ตคลุมขณะถ่ายภาพก็ จะช่วยลดแสงสะท้อนของกระจกเครื่องบินได้ และควรให้หน้ากล้องแนบชิดกระจกให้มากที่สุด เพื่อป้องกันแสงฟุ้งที่อาจสะท้อนกระจกได้
นอกจากปรากฏการณ์กลอรี แล้วด้านนอกเครื่องบินยังมีปรากฏการณ์ทางแสงอีกมากมาย อาทิเช่น ซันด๊อก รุ้งหมอก และอื่นให้เราได้สังเกตกันครับ คราวหน้าหากมีโอกาสเดินทางด้วยเครื่องบินก็ลองหากล้องติดมือไว้กันบ้างนะครับ
และนี่เป็นปรากฏการณ์ทางแสงอีกรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า Anticrepuscular Rays or Antisolar Rays ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับการเกิดปรากฏการณ์แสง Crepuscular Rays แต่เห็นในทิศตรงข้ามกับดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า ซึ่งเห็นเป็นลำแสงจะมาบรรจบกันที่จุด Antisolar Point
สำหรับใครที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องเมฆ หรืออยากแชร์ภาพเมฆหรือปรากฏการณ์ทางแสงต่างๆ ก็สามารถเข้าได้ที่ Facebook ของชมรมคนรักมวลเมฆ ซึ่งจะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับเมฆได้ อีกทั้งยังได้รับความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมอีกด้วยครับ
เกี่ยวกับผู้เขียน
ศุภฤกษ์ คฤหานนท์
สำเร็จการศึกษาครุศาสตรบัณฑิต สาขาฟิสิกส์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีและการสื่อสาร จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่สารสนเทศทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร., เคยทำวิจัยเรื่อง การทดสอบค่าทัศนวิสัยท้องฟ้าบริเวณสถานที่ก่อสร้างหอดูดาวแห่งชาติ มีประสบการณ์ในฐานะวิทยากรอบรมการดูดาวเบื้องต้น และเป็นวิทยากรสอนการถ่ายภาพดาราศาสตร์ในโครงการประกวดภาพถ่ายดาราศาสตร์ ประจำปี 2554 ของ สดร.ในหัวข้อ “มหัศจรรย์ภาพถ่ายดาราศาสตร์ในเมืองไทย”
“คุณค่าของภาพถ่ายนั้นไม่เพียงแต่ให้ความงามด้านศิลปะ แต่ทุกภาพยังสามารถอธิบายด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ได้อีกด้วย”
อ่านบทความ ศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ทุกวันจันทร์ที่ 1 และ 3 ของเดือน