สมาคมดาราศาสตร์ไทย ส่ง "ชาละวัน" พ่วง "ตะเภาแก้ว-ตะเภาทอง" เป็นชื่อดาวเคราะห์ต่างระบบภาษาไทยชื่อแรกในจักรวาล ลุ้นเป็น 1 ใน 20 ชื่อกลุ่มดาวนอกระบบสุริยะแข่งกับอีก 585 ชื่อทั่วโลก ชวนคนไทยเตรียมโหวตผ่านเว็บไซต์สหพันธ์ดาราศาสตร์สากลช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้
นายเชิดพงศ์ วิสารทานนท์ กรรมการบริหารสมาคมดาราศาสตร์ไทย กล่าวว่า เมื่อปลายปี 2557 ที่ผ่านมาสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล (International Astronomical Union : IAU) ได้จัดกิจกรรมตั้งชื่อให้ดาวเคราะห์ต่างระบบ (Name Exoworlds) เพื่อให้ประชาชนจากทั่วโลกมีส่วนร่วมในการตั้งชื่อ
ดาวเคราะห์ต่างระบบ หมายถึง ดาวเคราะห์ที่ไม่อยู่ในระบบสุริยะ มีการค้นพบตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปัจจุบันแล้วกว่า 305 ดวงในกาแล็กซีทางช้างเผือก ซึ่งดาวเคราะห์เหล่านี้เป็นบริวารของดาวฤกษ์ 260 ดวง ที่นักดาราศาสตร์ได้ศึกษาอย่างละเอียดแล้ว โดยทุกดวงมีเฉพาะชื่อทางวิทยาศาสตร์ในรูปแบบของโค้ดและตัวเลขซึ่งยาวและจำยาก ไม่มีชื่อสามัญที่เรียกกันทั่วไป
ด้วยเหตุดังกล่าว สหพันธ์ดาราศาสตร์สากล ซึ่งมีหน่วยงานหลักตั้งอยู่ที่ฝรั่งเศส จึงจัดโครงการตั้งชื่อสามัญให้กับกลุ่มดาวเคราะห์ต่างระบบ โดยคัดเลือกกลุ่มดาวเคราะห์ที่เหมาะสมในการนำเสนอชื่อจากประชาชนทั่วโลกรวม 20 ระบบ ที่จะให้ตั้งชื่อ ทั้งดาวฤกษ์ที่เป็นดาวหลัก (หรือที่เรียกว่าโลกต่างระบบ) และดาวเคราะห์ที่โคจรรอบๆ ซึ่งการเสนอชื่อดังกล่าวจะต้องเสนอผ่านองค์กรไม่แสวงหากำไรด้านดาราศาสตร์ของแต่ละประเทศ และสมาคมดาราศาสตร์ ไทย ได้เป็นช่องทางหลักให้คนไทยได้มีส่วนร่วมในการเสนอชื่อผ่าน เว็บไซต์ http://thaiastro.nectec.or.th/NameExoWorlds ระหว่างวันที่ 7 พ.ย. 57- 23 ม.ค. 58
"มีผู้สนใจส่งชื่อเข้ามายังสมาคมดาราศาสตร์ไทยถึง 240 ชื่อ ซึ่งส่วนมากก็เป็นคำไทยๆ ที่เรารู้จักกันดี เช่น ขนมครก ข้าวสวย สุดสาคร ดาวกระจาย แต่ชื่อที่คณะกรรมการเห็นชอบมากที่สุดคือ "ชาละวัน" เพราะสอดคล้องกับโลกต่างระบบหมีใหญ่ หรือ 47 เออเซย์ มาจอริส (47 Ursae Majoris) ที่อยู่ในกลุ่มดาวจระเข้ที่คนไทยคุ้นเคย" กรรมการบริหารสมาคมดาราศาสตร์ไทย อธิบาย
เชิดพงศ์ กล่าวว่า เหตุผลที่เลือกเสนอชื่อ "ชาละวัน" ให้กับโลกต่างระบบ 47 เออเซย์ มาจอริส เพราะเป็นโลกต่างระบบที่เหมาะสมกับคนไทย และมีความน่าจะเป็นที่ชื่อไทยจะได้รับตั้งมากที่สุด เนื่องจากเป็นดาวที่มองเห็นได้ง่ายในไทย, มีความสว่างมากถึงโชติมาตร 5.1 ซึ่งมองได้ด้วยตาเปล่า, มีดาวบริวาร 2 ดวงซึ่งกำลังพอเหมาะไม่มากไปน้อยไป และอยู่ในกลุ่มดาวหมีใหญ่หรือที่คนไทยเรียกว่า ดาวจระเข้ ที่มักสังเกตได้ในช่วงเดือน พ.ย. ถึงเดือน ส.ค.
ส่วนบริวารอีก 2 ดวงคือ เออเซย์ มาจอริสบี จะถูกตั้งชื่อว่า ตะเภาทอง (Taphao Thong) ส่วนออเซย์ มาจอริสซีจะตั้งชื่อว่า ตะเภาแก้ว (Taphao Kaew) ซึ่งเป็นชื่อต้นตำรับที่ ด.ญ.ศกลวรรณ ตระการรังสี เสนอเข้ามายังสมาคมดาราศาสตร์ไทย ซึ่งมีความหมายโดยนัยคล้องจองกับจระเข้ ที่ทำให้คณะกรรมการจากสมาคมฯ นึกไปถึงดาวจระเข้ซึ่งก็คือ กลุ่มโลกต่างาะบบหมีใหญ่ (Ursae Major)
"สำหรับชื่อเราจะเปิดโอกาสให้คนเสนอเข้ามาก่อน แล้วค่อยเลือกโลกต่างระบบทีหลัง ซึ่งคณะกรรมการทักคนสะดุดตากับชื่อ "ตะเภาแก้ว" มากเพราะมันก็ทำให้เราคิดถึงวรรณคดีเรื่องไกรทอง ที่มีชาละวันเป็นพญาจระเข้ ซึ่งพอเหมาะพอเจาะกับเออเซย์ มาจอริส ที่เป็นหนึ่งในโลกต่างระบบที่เราเห็นว่ามีความเป็นไปได้และสอดคล้องกับคนไทย แต่ด้วยความที่ชาละวันจากท้องเรื่องมีพลังมากกว่า เราจึงใช้ชื่อ ชาละวัน เป็นชื่อของดาวฤกษ์หลัก และใช้ชื่อตะเภาทองและตะเภาแก้วเป็นชื่อของดาวบริวารอีก 2 ดวง" เชิดพงษ์ เผยแก่ทีมข่าวผู้จัดการวิทยาศาสตร์
ทั้งนี้ชื่อทั้งสาม ยังอยู่ในระยะดำเนินการเสนอชื่อไปยังสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ก่อนที่จะเปิดทำการโหวตอีกครั้งในช่วงกลางเดือนก.ค. ที่ www.nameexoworlds.org ซึ่งทางสมาคม ฯ จะประกาศให้ทราบวันที่แน่นอนอีกครั้ง เมื่อมีประกาศจากทางสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล
"ในช่วงกลางเดือน ก.ค. ที่จะถึงนี้ ผมขอเชิญชวนคนไทยให้ช่วยกันเข้าไปลงทะเบียนเพื่อลงคะแนนเสียงให้กับ ชื่อ ชาละวัน-ตะเภาแก้ว-ตะเภาทอง เพื่อให้ชื่อไทยได้เป็นชื่อของโลกต่างระบบในจักรวาล เพราะนี่เป็นชุดชื่อไทยเพียงชุดเดียวเท่านั้นที่จะถูกนำเสนอ เพราะสมาคมฯ เป็นองค์กรดาราศาสตร์เพียงที่เดียวในไทยที่เข้าไปร่วมเสนอชื่อ เพื่อแข่งขันกับชื่ออื่นๆ อีกประมาณ 585 ชื่อที่องค์กรดาราศาสตร์จากทั่วโลก ร่วมส่งเข้าชิงชัยกัน ที่ถึงแม้ว่าการตั้งชื่อนี้จะไม่ได้รับรางวัลหรือเงินใดๆ แต่มันจะเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ที่เมื่อแหงนขึ้นไปดูดาว จะเห็นดาวดวงหนึ่งซึ่งมีชื่อที่คนทั้งโลกเรียกเป็นภาษาไทย ซึ่งจะทำให้เกิดผลดีด้านอื่นเกี่ยวกับวงการดาราศาสตร์ไทยตามมาในอนาคต" เชิดพงศ์ กล่าวเชิญชวนผ่านทีมข่าวผู้จัดการวิทยาศาสตร์
ทั้งนี้การแถลงการตั้งชื่อไทยให้ดาวเคราะห์ต่างระบบ จัดขึ้นที่ สมาคมดาราศาสตร์ไทย ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลอง เอกมัย) เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2558
*******************************