เปิดกว้างโรงเรียนด้อยโอกาสพานักเรียนเข้าชมพิพิธภัณฑ์วิทย์ อพวช.ฟรี หลัง "ซีเกท" มอบทุนสนับสนุนลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำให้เด็ก 2,000 ชีวิต พร้อมปูทางสร้างวิศวกรน้อยเตรียมเปิดค่าย "Hello Robot" ปั้นเด็กยุคดิจิทัล สร้างหุ่นยนต์ด้วยตัวเองโดยพี่เลี้ยงวิศวกรมืออาชีพ
องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกับ บ.ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว 2 โครงการใหม่ "โครงการการเรียนรู้วิทยาศาสตร์กับ อพวช.-ซีเกท และโครงการค่ายวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์ ตอน Hello Robot ภายใต้ความร่วมมือในโครงการส่งเสริมการศีกษาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2558 ณ พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ คลอง 5 จ.ปทุมธานี
นายสาคร ชนะไพฑูรย์ รองผู้อำนวยการรักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง อพวช. และซีเกท ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนกว่า 2,000 คน จากโรงเรียนที่ขาดแคลนงบประมาณได้รับความรู้และประสบการณ์ใหม่ด้วยการศึกษานอกห้องเรียน จากนิทรรศการส่งเสริมการเรียนรู้ของ อพวช.ผ่านการชมนิทรรศการทั้ง 3 พิพิธภัณฑ์ของ อพวช. และกิจกรรมค่ายวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์ Hello Robot ที่จะทำให้เยาวชนได้เรียนรู้กลไกการสร้างและเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ อันจะเป็นการเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
"15 ปีที่ผ่านมามีเด็กเข้าชม อพวช.ไม่เกิน 3 ล้านคนทั้งที่ทั่วประเทศมีเด็กมากถึง 10 ล้านคน เพราะเด็กแต่ละคนมีโอกาสที่ไม่เท่าเทียมกัน เด็กบางส่วนตกหล่นไม่เคยได้รับโอกาสทางการศึกษานอกห้องเรียน เพราะการเดินทางของคนจำนวนมากๆ จำเป็นต้องใช้ค่าเดินทางค่อนข้างสูง เป็นเรื่องน่ายินดีแทนเด็กๆ ที่วันนี้ซีเกทได้มอบทุนจำนวนหนึ่งแก่ อพวช.เพื่อใช้สำหรับการจัดการให้เด็กๆ ในโรงเรียนที่ขาดโอกาสได้เข้าถึงแหล่งเรียนรู้มากขึ้น โดยเราตั้งเป้าไว้ว่าเงินจำนวนนี้จะทำให้เด็กด้อยโอกาสกว่า 2,000 คนได้มาเยี่ยมชมและเรียนรู้ที่พิพิธภัณฑ์ของ อพวช. โดยเด็กในละแวกปทุมธานี อยุธยาและนนทบุรีจะได้รับโอกาสก่อน เพราะเป็นเขตที่อยู่ใกล้กับ อพวช." นายสาคร กล่าวแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์
ด้าน นางสาวศิริรัตน์ เอี่ยวผดุง รองประธานฝ่ายปฏิบัติการโรงงานเทพารักษ์ บ.ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซีเกทได้มอบเงินจำนวน 800,000 บาทแก่ อพวช. เพื่อให้เด็กด้อยโอกาสได้มาทัศนศึกษาและร่วมทำกิจกรรมกับทาง อพวช. เพื่อให้เด็กเหล่านี้ได้รับโอกาสเท่าเทียมกับเด็กคนอื่นๆ และเป็นการสร้างความตระหนักทางวิทยาศาสตร์ให้แก่เยาวชน นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีค่ายวิทยาศาสตร์วัฒนธรรมในธีม Hello Robot ขึ้นด้วย เพื่อให้เยาวชนชั้นม.ต้น ที่มีความสนใจทางด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และผ่านการคัดเลือกได้มาเข้าค่ายกับวิศวกรจากซีเกท และเจ้าหน้าที่ของอพวช. เพื่อเรียนรู้การทำหุ่นยนต์ขั้นต้น ซึ่งนับเป็นกิจกรรมพิเศษที่หาไม่ได้ในห้องเรียน
"ค่าย Hello Robot ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 19-21 มี.ค. นี้ น้องๆ ที่เข้ารอบ 50 คนจะได้รู้จักกลไกง่ายๆ ของการสร้างหุ่นยนต์ และสามารถประดิษฐ์หุ่นยนต์ด้วยตัวเอง ผ่านการเขียนอัลกอริทึม การทำซอฟแวร์แบบง่ายๆ ที่ทีมวิศวกรจากซีเกทและพี่ๆ จาก อพวช.จะร่วมกันสอน ซึ่งค่ายในครั้งนี้ถือเป็นการปูพื้นฐานและเป็นการสร้างวิศวกรคอมพิวเตอร์น้อยให้กับประเทศ เพราะส่วนมากเด็กที่ผ่านการเข้าค่ายจะมีความสนใจและต่อยอดไปจนถึงการเลือกเรียนในระดับอุดมศึกษาและหลายๆ คนก็กลับมาทำงานให้กับซีเกท แต่ที่มากไปกว่าการเข้าค่ายคือครั้งนี้ เราได้หยิบยื่นโอกาสให้กับเด็กด้อยโอกาสที่ไม่เคยได้ไปทัศนศึกษานอกโรงเรียนให้ได้มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ของ อพวช. ด้วย ซึ่งเราหวังว่าจะเป็นการจุดประกายวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กๆ และเป็นการสร้างความเท่าเทียมให้กับสังคม" ศิริรัตน์ เผย
ในส่วนของ นางเพ็ญณี ดวงธัมมา ครูโรงเรียนวัดผลาหาร จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ใน อพวช. เพราะถึงแม้โรงเรียนจะอยู่ใกล้แต่ก็ไม่สามารถพานักเรียนมาเที่ยวชมได้การออกนอกสถานที่แต่ละครั้งต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง ซึ่งโรงเรียนไม่ได้มีงบเพียงพอเหมือนโรงเรียนใหญ่ๆ ทั่วไป อีกทั้งยังขาดแคลนด้านครูบุคลากรที่จะเป็นผู้คุมนักเรียนในการชมนิทรรศการอีกด้วย แต่ครั้งนี้โรงเรียนได้รับโอกาสจาก อพวช.ให้นำนักเรียนจำนวน 60 คน มาร่วมชมนิทรรศการด้านไอที ทำให้เธอรู้สึกยินดีแทนเด็กๆ เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กๆ จะได้ออกมาเปิดหูเปิดตาและเกิดการเรียนรู้นอกห้องเรียนแบบวันนี้ และยังเป็นโอกาสดีสำหรับเธอด้วยที่จะได้มาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อที่จะนำกลับไปใช้สอนเด็กในโรงเรียน เพราะเธอสอนประจำหลายวิชาและสอนนักเรียนเกือบทุกระดับชั้น
"โรงเรียนเราอยู่ห่าง อพวช.แค่นิดเดียวเองค่ะ แต่คุณครูยังไม่เคยพาเด็กมา ตัวคุณครูเองก็ได้แต่เพียงผ่านอยู่บ่อยๆ โอกาสเล็กๆ ที่เราได้รับน่าจะเป็นสิ่งที่ดีให้กับเด็กๆ พอสมควร ดูพวกเขาตื่นเต้นดีใจ รีบมาขึ้นรถกันแต่เช้า เพราะเราแทบไม่เคยได้ออกไปไหน ที่โรงเรียนเรามีนักเรียนอยู่ 118 ชีวิตค่ะ ตั้งแต่ อ.1-ป.6 หลากวัยพอสมควรมันก็เลยทำให้การมีกิจกรรมพิเศษทำได้ยาก แล้วครูก็น้อยด้วย ถึงแม้ว่าโรงเรียนจะมีห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ขนาดย่อมๆ แต่การได้มาทัศนศึกษา ให้เด็กๆ เขาได้เห็นในสิ่งใหม่ๆ น่าจะเป็นประโยชน์กับพวกเขามากกว่า ให้พวกเขาได้รู้ว่าคอมพิวเตอร์เป็นยังไง เทคโนโลยีสมัยเก่ากับสมัยใหม่ต่างกันแค่ไหนได้เห็นเด็กๆ สนใจหัวเราะสนุกสนานก็มีความสุขค่ะ แล้วครูก็ชอบด้วย จะได้นำความรู้พวกนี้ไปสอนเด็กๆ ต่ออีกทีหนึ่ง" ครูโรงเรียนวัดผลาหาร กล่าว
เช่นเดียวกับ ด.ญ.แพร ชัยบุญ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนวัดผลาหาร ที่เผยกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้มาทัศนศึกษานอกโรงเรียน เพราะปกตินอกจากการเรียนในห้องเรียนแล้ว ทางโรงเรียนก็ไม่ค่อยได้จัดทัศนศึกษา เธอจึงไม่ได้ไปไหนเลยนอกจากห้องเรียน อีกทั้งห้องสมุดก็มีแต่หนังสือเก่า ไม่มีเครื่องเล่นหรือสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัย ส่วนห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนก็มีขนาดเล็กและไม่ได้เปิดให้เข้าใช้ได้ตลอดเวลา การได้มาพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์สำหรับเธอจึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับเธอ
แม้ ด.ญ.แพรยังเดินดูนิทรรศการได้ไม่ทั่ว แต่เธอบอกว่าได้จดบันทึกเรื่องราวที่สนใจบางส่วนเพื่อเก็บไว้เตือนความจำด้วย เช่น โทรศัพท์ในยุคต่างๆ, การได้ยิน, การสื่อสารในยุคต่างๆ และเรื่องรถนำทางจีพีเอสที่เธอสนใจเป็นพิเศษ นอกจากนี้เธอยังบอกด้วยว่าอยากอยู่ชมนิทรรศการให้มากกว่านี้ เพราะวันเดียวคงดูไม่หมด เนื่องจากนิทรรศการมีหลายส่วนและใหญ่มากจนเธอดูไม่ทัน เพราะต้องเดินตามครูพี่เลี้ยงให้ทันเวลา แต่การได้มาชมนิทรรศการแบบนี้ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอและน่าจะทำให้เธอสนใจในวิชาวิทยาศาสตร์มากขึ้นจากที่เดิมทีชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์เพียงอย่างเดียว
"หนูไม่เคยมาที่แบบนี้มาก่อนค่ะ สนุกดีได้มากับเพื่อน เพราะโรงเรียนไม่ค่อยได้จัดกิจกรรมข้างนอกเท่าไหร่ ได้ความรู้ใหม่ๆ มากมายแล้วก็เห็นอะไรอีกเยอะแยะแบบที่หนูไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เช่น ข้างในคอมพิวเตอร์ เห็นดาวเทียม ได้ลองเล่นกับเพื่อนว่าเสียงมันส่งถึงกันได้ยังไง ได้เล่นเครื่องเล่นที่เราบังคับได้เอง มันสนุกมาก แต่บางอย่างหนูก็เดินไม่ค่อยทัน มันใหญ่มากแบบที่หนูคิดไม่ถึง ถ้าให้มาอีกหนูก็จะมา ชอบที่นี่มาก" ด.ญ.แพร เผยความในใจแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์
*******************************
