สดร.ชี้ข่าวลวง “โลกมืดไป 6 วันจากนาซา” แค่ข่าวจากเว็บลวง แจงข้อเท็จจริงพายุสุริยะไม่ก่อให้เกิดฝุ่นและขยะอวกาศไม่สามารถบดบังโลก วอนประชาชนบริโภคข่าวสารอย่างมีวิจารณญาณ
นายมติพล ตั้งมติธรรม เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เปิดเผยว่า ข่าวลวงดังกล่าวเผยแพร่มาจาก "สำนักข่าว" huzlers แท้จริงแล้ว huzlers ไม่ใช่สำนักข่าวจริงๆ แต่เป็นสำนักข่าวที่เขียนข่าวขำขัน เขียนเรื่องสร้างความตื่นตระหนกให้คนตกใจเล่นๆ แม้กระทั่งตัวเพจเองก็เขียนเอาไว้ด้านล่างว่า
"เว็บไซต์ Huzlers.com เป็นเว็บที่ผสมระหว่างข่าวจริงและเสียดสีที่น่าตื่นเต้นเพื่อสร้างความบันเทิงและน่าทึ่งให้กับผู้ชม" (Huzlers.com is a combination of real shocking news and satirical entertainment to keep its visitors in a state of disbelief.)
นายมติพลระบุถึงข่าวลวงโลกที่อ้างว่า วันที่ 16-22 ธันวาคม เป็นเวลารวม 3 วัน โลกจะตกอยู่ในความมืดสนิท เพราะพายุสุริยะจะทำให้เกิดฝุ่นและขยะอวกาศมาบดบังจนโลกอยู่ในความมืดสนิท ซึ่งเขาชี้ว่า “ไม่เป็นความจริง"
"เนื่องจากพายุสุริยะไม่ได้ทำให้เกิดฝุ่นหรืออะไรทั้งนั้น แล้วก็ไม่ได้ทำให้เกิดแผ่นดินไหวด้วย อย่างมากพายุสุริยะก็จะทำให้ดาวเทียมใช้งานไม่ได้ แล้วก็อาจจะทำให้เห็นออโรราสวยๆ ในประเทศแถบขั้วโลกเท่านั้น และไม่เป็นความจริงที่ฝุ่นและขยะอวกาศจะมาบดบังโลกให้อยู่ในความมืดสนิท เนื่องจากขยะอวกาศจะบดบังโลกให้อยู่ในความมืดสนิทได้นั้น ต้องมีขยะอวกาศมากกว่าดาวเทียมที่มีอยู่ทั้งหมดนี้หลายเท่า และถ้าเป็นเช่นนั้นดาวเทียมเราทุกดวงคงร่วงไปหมดแล้ว" เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ สดร.อธิบาย
มติพลอธิบายต่อว่า ฝุ่นสามารถบดบังแสงอาทิตย์ได้ แต่เกิดขึ้นได้เฉพาะในชั้นบรรยากาศ เช่น กรณีที่ภูเขาไฟลูกใหญ่ หรืออุกกาบาตขนาดมหึมา ทำให้ฝุ่นกระจายไปในชั้นบรรยากาศ ดังเช่นที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์สูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ แต่แม้กระนั้นก็ไม่ได้อยู่ในความมืดสนิทอย่างที่กล่าวอ้างในข่าว
"ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อสังคมออนไลน์ ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว บางครั้งอาจไม่ใช่ข้อเท็จจริง ต้นตอข่าวลือต่างๆ ไม่ได้มาจากไหน แต่วนเวียนอยู่ในโลกไซเบอร์ที่มีทั้งเรื่องจริงและเรื่องที่ต้องอาศัยวิจารณญาณในการรับรู้ จึงขอให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ ศึกษาข้อมูลและความเป็นไปได้ด้วยเหตุและผล ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาอ้างอิง และควรระมัดระวังในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้วย" นายมติพลกล่าว
ทั้งนี้ ก่อนนี้มีนักวิทยาศาสตร์จากฝรั่งเศสค้นพบรูปแบบสนามแม่เหล็กที่เกิดขึ้นก่อนปรากฏการณ์พายุสุริยะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพยากรณ์การปลดปล่อยอนุภาครังสีจากดวงอาทิตย์ที่เป็นอันตรายต่อดาวเทียมสื่อสารและมนุษย์อวกาศในวงโคจร แต่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกเนื่องจากมีสนามแม่เหล็กโลกช่วยปกป้อง ทว่าหากพายุสุริยะมีความรุนแรงมากพอก็อาจส่งผลเสียต่อระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าบนโลกเหมือนในอดีตที่ผ่านมา การพยากรณ์ปรากฏการณ์ได้ล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
*******************************