xs
xsm
sm
md
lg

นักวิจัยกรมประมง-วิศวะ มอ. คว้ารางวัล " นักเทคโนโลยีดีเด่น57 "

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดร.วารินทร์ ธนาสมหวัง นักวิจัยกรมประมง (ซ้าย) และ รศ.ดร. เจษฎา วรรณสินธุ์ อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มอ. (ขวา) ผู้ได้รับรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่นประจำปี 2557
ประกาศผล"รางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่น ประจำปี 57" แก่ 2 งานวิจัยใช้ได้จริง จากคณะนักวิจัยประมง ผู้พัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง ผู้ริเริ่มการฟักไข่ปูม้าจากตับปิ้งและการเพาะเลี้ยงปลาเก๋า 3 สายพันธุ์ และ นักวิจัย มอ. ผู้คิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีการหล่อโลหะแบบสเลอรี่ตอบโจทย์อุตสาหกรรม

รศ.ดร. ศักรินทร์ ภูมิรัตน ประธานกรรมการมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในการประกาศผลรางวัล "นักเทคโนโลยีดีเด่น และนักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ประจำปี 2557" ณ โรงแรม เดอะสุโกศล เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 57 โดยผู้ได้รับรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่นในปีนี้ ได้แก่ ดร. วารินทร์ ธนาสมหวัง ผู้เชี่ยวชาญด้านการประมง และคณะกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ รศ.ดร. เจษฎา วรรณสินธุ์ ภาควิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และวัสดุ และอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมี ดร. พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมสนทนาพิเศษในหัวข้อ "วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อนำพาไทยออกจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง" และร่วมชมผลงานที่ได้รับรางวัล

ดร. พิเชฐ กล่าวบนเวทีการสนทนาพิเศษว่า การวิจัยและพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์ในประเทศมีมากแต่ยังมีไม่เพียงพอ การที่จะขับเคลื่อนประเทศให้ออกจากกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางได้นั้นต้องเกิดจากการร่วมกันในหลายๆภาคส่วน โดยเฉพาะในส่วนที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสามารถทำได้คือ การผลักดันงานวิจัยที่เป็นส่วนสำคัญที่สามารถทำให้ประเทศไปต่อได้ ประกอบด้วย 2 ส่วนใหญ่ด้วยกัน คือ ด้านการสร้างแรงจูงใจให้เกิดการลงทุน จากภาคเอกชนและผู้ประกอบการรายย่อยแบบ SMEs และด้านกำลังคนที่ในขณะนี้ประสบปัญหาอย่างมาก เนื่องจากคนเก่งคนมีความรู้จะรวมตัวกันอยู่ในมหาวิทยาลัยถึง 10,000 คนในขณะที่อยู่ในภาคเอกชนเพียง 700 คน การปรับสัดส่วนให้ผู้มีความรู้เข้าไปอยู่ในภาคเอกชนมากขึ้น จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ทำให้เทคโนโลยีของประเทศไทยพัฒนาได้เร็วยิ่งขึ้น

"เรามีคนเก่งอยู่เยอะ แต่อยู่กันกระจัดกระจายเกินไป ผมตั้งเป้าหมายให้ในอีก 6 เดือน 12 เดือนข้างหน้า คนเก่งจะมารวมตัวกันตามสาขาความรู้ต่างๆ เพื่อสร้างประโยชน์แบบเป็นรูปธรรมให้ประเทศ และร่วมกันวาดอนาคตว่าในอีก 10 ปีวงการวิทยาศาสตร์ของบ้านเราจะไปในทิศทางใด และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างค่านิยมให้เด็กรักวิทยาศาสตร์ เกิดค่านิยมในการเรียนวิทยาศาสตร์ ปลูกฝังตั้งแต่ตอนเด็กให้ได้มากที่สุด" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าว

สำหรับดร. วารินทร์ ธนาสมหวัง ผู้เชี่ยวชาญด้านการประมง และคณะกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ได้รับรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่น ประเภทกลุ่ม มีผลงานดีเด่นในการพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยทางด้านอาหารหลายโครงการ

ดร.วารินทร์ เผยว่า ส่วนตัวอยู่ในวงการการประมงมากว่า 30 ปี เห็นปัญหาต่างๆมากมาย โดยเฉพาะจำนวนสัตว์ทะเลที่ลดน้อยลง เพราะจำนวนคนที่มากขึ้นทำให้ปริมาณอาหารมีไม่พอต่อความต้องการ ประกอบกับเทคโนโลยีที่มีอยู่ก็เป็นเทคโนโลยีเดิมๆ จึงมีความคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อทำให้เทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเดินหน้าได้ดียิ่งขึ้น เป็นที่มาของการริเริ่มโครงการพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง ที่ทำร่วมกับคณะนักวิจัยกรมประมง

2 โครงการหลักที่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากที่สุด คือ โครงการพัฒนาต้นแบบการผลิตกลุ่มปลากะรัง 3 ชนิด หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ "ปลาเก๋า" ได้แก่ ปลากะรังจุดฟ้า ปลาเก๋าเสือ และปลาหมอทะเล ซึ่งเป็นปลาที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูงและมีจำนวนในธรรมชาติลดลง ให้มีอัตราการรอดตายสูง เพื่อใชัจำหน่ายให้เกษตรกร และลดปริมาณการนำเข้าลูกปลา ด้วยการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ให้สมบูรณ์ การพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยง การพัฒนาเทคนิคการอนุบาล และพัฒนาการตรวจวินิจฉัยโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสโนดะ ด้วยเทคนิคพีซีอาร์ ดร. วารินทร์ อธิบาย

ดร. วารินทร์ เล่าต่อว่า งานวิจัยที่ทำควบคู่กันอีกชิ้น คือ เทคโนโลยีการผลิตลูกปูม้า ที่เป็นสัตว์ทะเลชายฝั่งเศรษฐกิจที่นิยมส่งออกในรูปของปูกระป๋อง โดยพัฒนาการฟักไข่ปูม้าจากตับปิ้งของแม่ปูไข่นอกกระดอง แทนที่แต่เดิมจะต้องถูกการทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย เธอจึงติดต่อไปยังโรงงานผลิตปูกระป๋อง เพื่อให้ทางโรงงานคัดแยกตับปิ้งที่มีไข่ไว้ แล้วนำมาอนุบาลต่อจนฟักเป็นลูกปู ซึ่งทำให้ได้พันธุ์ลูกปูจำนวนมากโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆยกเว้นค่าขนส่ง เพื่อนำมาจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ ขายให้กับเกษตรกรในราคาถูก และปล่อยลงสู่ท้องทะเลปีละหลายล้านตัว

ในส่วนของ รศ.ดร. เจษฎา วรรณสินธุ์ ภาควิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และวัสดุ และอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้คว้ารางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่น ประเภทบุคคล เป็นผู้มีผลงานดีเด่นจากการพัฒนาเทคโนโลยีการหล่อโลหะแบบเสลอรี่ เพื่อใช้แทนการหล่อโลหะแบบเดิมซึ่งมีข้อจำกัดหลายๆประการ

รศ.ดร. เจษฎา เผยว่า เขามีทุนเดิมจากการศึกษาในด้านการหล่อโลหะโดยตรงจากสหรัฐฯ ทำให้มีความรู้ทางด้านการหล่อโลหะ และทราบปัญหาทางความต้องการของอุตสาหกรรม ที่คนทั่วไปอาจไม่ทราบว่าการหล่อโลหะแต่ละครั้งมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายสูงและอายุการใช้งานของเครื่องจักรเป็นไปอย่างจำกัด เมื่อสำเร็จการศึกษาและกลับมาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จึงพยายามคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีการหล่อโลหะแบบใหม่ขึ้นโดยใช้เวลาถึง 11 ปีและสามารถพัฒนาเทคโนโลยีการหล่อโลหะแบบ "สเลอรี่" ได้เป็นคนแรกของโลก โดยมีการจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อย

รศ.ดร. เจษฎา อธิบายว่า การหล่อแบบสเลอรี่ (Slurry Metal Casting Technology) เป็นวิธีการหล่อโลหะแบบกึ่งของแข็ง คือน้ำโลหะที่ใช้จะไม่เหลวเหมือนน้ำแต่จะมีความหนืดมากขึ้นคล้ายวุ้น ซึ่งคุณสมบัติของความหนืดนี้จะทำให้ได้เนื้องานคุณภาพดีกว่าแบบเดิม เพราะเมื่อนำไปหล่อขึ้นรูปจะไม่เกิดฟองเพราะอากาศไม่สามารถเข้ามาแทรกได้หากโลหะมีความหนืด ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับเครื่องฉีดชิ้นส่วนอะลูมิเนียม (Aluminum Die Casting) ได้ง่ายโดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องจักรใดๆ ซึ่งข้อดีของการหล่อโลหะแบบสเลอรี่ คือ น้ำโลหะที่ใช้ไม่จำเป็นต้องมีอุณหภมิที่สูงมากเท่าแบบเดิม ทำให้การใช้พลังงานในการหลอมโลหะลดลง และเมื่ออุณหภูมิโลหะลดลงเครื่องจักรและแม่พิมพ์ก็จะใช้งานได้นานมากยิ่งขี้น ทำให้สามารถผลิตโลหะขึ้นรูปได้ในราคาต้นทุนที่ต่ำลงและมีคุณภาพที่สูงขึ้น

"สเลอรี่จะมีลักษณะคล้ายๆเบียร์วุ้น ที่มีความหนืดมากกว่าน้ำ ซึ่งการหล่อโลหะแบบปกติน้ำโลหะที่ใช้จะเหลวคล้ายน้ำทำให้เกิดปัญหาฟองอากาศ แต่หล่อแบบสเลอรี่จะไม่เกิดปัญหาแบบนั้น เพราะเมื่อมีความหนืดมากกว่า โอกาศที่จะเกิดฟองโอกาสขณะขึ้นรูปจึงมีน้อยกว่า การบังคับควบคุมทิศทางก็ทำได้ง่ายกว่า แถมอุณหภูมิที่ใช้ก็ไม่สูงเท่าแบบปกติ ส่งผลดีทั้งในแง่คุณภาพและต้นทุน" รศ.ดร. เจษฎา เผยกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์

ในขณะนี้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านทางบริษัท กิสโค จำกัด และมีการนำไปผลิตเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ของเล่น อุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์ มอเตอร์ ฝาครอบโทรศัพท์มือถือโดยบริษัทจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่สร้างรายได้ให้ประเทศถึง 5,000-10,000 ล้านบาทต่อปี โดยในอนาคตจะมีการขยายตลาดออกไปสู่สหรัฐฯ และยุโรปต่อไป นอกจากนี้ยังนำมาใช้ทางด้านการแพทย์ โดยการพัฒนาและผลิตขาเทียมใต้เข่าที่มีน้ำหนักเบาให้ผู้พิการขาขาด เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ และเป็นการเปิดศักยภาพให้ประเทศไทยเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี

ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการประกาศผล "นักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ประจำปี 2557" แก่ ดร. ปราการเกียรติ ยังคง อาจารย์ประจำสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เจ้าของผลงาน การพัฒนาเซนซิเบิล แท๊บ (Sensible Tab) หุ่นยนต์ช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของแขนในผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ที่ช่วยในกายภาพบำบัดผู้ป่วยผ่านการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ที่มีหลายโปรแกรมเคลื่อนไหวรองรับ ที่สามารถประเมินผลการกายภาพของผู้ป่วย และ ดร. บรรพท ศิริเดชาดิลก นักวิจัยหน่วยเทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC) ผู้ปาะสบความสำเร็จในการนำเทคนิคกิบสัน แอสเซมบลี (Gibson Assembly) มาใช้ในการตัดต่อพันธุกรรมไวรัสเด็งกี่ เพื่อพัฒนายา หรือวัคซีนเพื่อควบคุมโรคไข้เลือดออกที่ช่วยย่นระยะเวลาการเพิ่มจำนวนไวรัสจากวิธีเดิมที่ใช้จาก 24 สัปดาห์เหลือเพียง 2 สัปดาห์

โดยผู้ได้รับรางวัลจะได้รับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 2 ธ.ค.57 ในพิธีเปิดการประชุมวาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีครั้งที่ 40 ณ จ.ขอนแก่น
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมชมผลงานเทคโนโลยี
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมสนทนาพิเศษในหัวข้อ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อนำพาไทยออกจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง
การฟักปูม้าจากไข่นอกกระดอง (นอกตับปิ้ง) หนึ่งในโครงการของดร.วารินทร์ ธนาสมหวัง ผู้ได้รับรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่น 2557
ดร.วารินทร์ ธนาสมหวัง อธิบายโครงการให้ผู้สนใจฟัง
ผลงานเทคโนโลยีการหล่อโลหะแบบสเลอรี่ โดยรศ.ดร.เจษฎา วรรณสินธุ์
ชิ้นงานจากเทคโนโลยีกานหล่อโลหะแบบสเลอรี่ โดยรศ.ดร.เจษฎา วรรณสินธุ์
(ซ้าย) ดร. บรรพท ศิริเดชาดิลก นักวิจัยหน่วยเทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC) ดร. ปราการเกียรติ ยังคง อาจารย์ประจำสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (ขวา) ผู้ได้รับรางวัลนักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ประจำปี 2557
เซนซิเบิลแทบ หุ่นยนต์ฟื้นฟูการเคลื่อนไหวแขน โดย ดร. ปราการเกียรติ ยังคง
วิธีการสริางไวรัสแบบกิบบอน แอสแซมบลีเพื่อเพิ่มจำนวนไวรัสเด็งกี่โดย ดร. บรรพท ศิริเดชาดิลก
คณะกรรมการมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ่ายภาพร่วมกับผู้ได้รับรางวัลประจำปี 2557







กำลังโหลดความคิดเห็น