การตายของ “เต่าจอร์จผู้โดดเดี่ยว” แห่งหมู่เกาะกาลาปากอสเมื่อกลางปี เป็นการสูญพันธุ์ของเต่าสายพันธุ์นี้ไปตลอดกาล แต่การศึกษาล่าสุดพบเต่าพันธุ์ผสมที่เชื่อว่าพ่อแม่พันธุ์มีพันธุกรรมเหมือนเต่าจอร์จ และน่าจะยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเป็นความหวังของสายพันธุ์เต่ายักษ์ 100 ปีที่เชื่อว่าเหลืออยู่เพียงตัวเดียวและจากโลกไปแล้ว
ไลฟ์ไซน์รายงานว่านักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยล (Yale University) สหรัฐฯ ได้เดินท่องป่าไปทางเหนือของเกาะอิสเบลลา (Isabella Island) เกาะใหญ่สุดแห่งหมู่เกาะกาลาปากอส (Galápagos) แล้วเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากเต่ายักษ์กว่า 1,600 ตัว ผลจากการตรวจสอบพันะกรรมพบว่ามีเต่าในจำนวน 17 ตัวที่เป็นเต่าลูกผสมซึ่งพ่อหรือแม่มีพันธุกรรมเหมือนเต่าจอร์จผู้โดดเดี่ยว (Lonesome George)
ทีมวิจัยยังพบเต่าที่พันธุกรรมของเต่าจอร์จ 5 ตัวและยังเป็นเต่าอายุน้อย ซึ่งบ่งชี้ว่าเต่าในสปีชีส์ย่อย เชโลนอยดิส ไนกรา อะบิงโดนี (Chelonoidis nigra abingdoni) เช่นเดียวกับเต่าจอร์จอายุกว่า 100 ปีนั้นอาจยังคงโลดแล่นอยู่ในบริเวณที่ห่างไกลของเกาะ
“เป้าหมายของเราคือกลับไปที่นั่นในฤดูใบไม้ผลินี้ เพื่อค้นหาเต่าสปีชีส์นี้ที่ยังมีชีวิตอยู่ และเพื่อเก็บตัวอย่างลูกผสม” กิเซลลา แคคโนเน (Gisella Caccone) นักวิจัยด้านนิเวศวิทยาของเยลกล่าว และหวังว่าโครงการที่เขาทำอยู่นั้นจะนำเต่าสายพันธุ์นี้กลับไปยังแหล่งกำเนิด
อย่างไรก็ดี ไลฟ์ไซน์ระบุว่ามีข้อสงสัยตรงที่หากนักวิจัยพบตัวอย่างของเต่าเชโลนอยดิส ไนกรา อะบิงโดนี ที่เกาะอิสเบลลา แล้วเต่าชนิดนี้ไปถึงที่เกาะนั่นได้อย่างไร? เพราะเต่าตอร์จเป็นเต่าท้องถิ่นที่เกาะพินตา (Pinta Island) ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอเต่าลูกผสมบริเวณภูเขาไฟวอล์ฟ (Volcano Wolf) ของเกาะอิสเบลลา ถึง 60 กิโลเมตร นอกจากนี้เต่าเหล่านั้นยังมีขนาดมหึมาและหนักราวๆ 400 กิโลกรัม รวมทั้งมีขนาดยาวถึง 1.8 เมตร ซึ่งนักวิจัยไม่เชื่อว่ากระแสน้ำในมหาสมุทรจะพัดพาเต่าเหล่านี้ไปถึงอีกเกาะได้ แต่สงสัยว่านักเดินเรือในศตวรรษที่ 19 เป็นตัวการ
สำหรับภูเขาไฟวอล์ฟนั้นอยู่ใกล้อ่าวแบงก์สเบย์ (Banks Bay) ซึ่งเป็นจุดที่นักเดินเรือและนักล่าวาฬขนเต่ายักษ์จากเกาะอื่นๆ มาปล่อยทิ้งหลังจากพวกเขาไม่ต้องใช้เป็นอาหารอีกต่อไป และก่อนหน้านี้นักวิจัยยังพบเต่าลูกผสมในบริเวณเดียวกันนี้ซึ่งมีพันธุกรรมของเต่าโบราณชนิดอื่น เช่น เชโลนอยดิส อีเลแฟนโทปุส (Chelonoidis elephantopus) ซึ่งเคยเชื่อว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว
เต่าชนิด เชโลนอยดิส อีเลแฟนโทปุส เป็นเต่าประจำถิ่นของเกาะฟลอเรียนา (Floreana Island) ซึ่งที่เกาะดังกล่าเต่ายักษ์ชนิดนี้ถูกล่าจนสูญพันธุ์ไปเมื่อประมาณ 150 ปีที่แล้ว แต่หลักฐานใหม่ชี้ว่ามีเต่าชนิดนี้หลายตัวถูกนำมายังเกาะอิสเบลลา แล้วผสมพันธุ์กับเต่า เชโลนอยดิส เบคกี (C.becki) และการค้นพบครั้งนี้ทีมวิจัยได้ลงรายละเอียดในวารสารไบโอโลจิคัลคอนเซอร์เวชัน (Biological Conservation)
***
เต่าจอร์จผู้โดดเดี่ยวจบชีวิตลงเมื่อ 24 มิ.ย.55 โดยคาดว่าเต่ายักษษ์ตัวนี้มีอายุราวๆ 100 ปี และเชื่อว่าเป็นเต่าตัวสุดท้ายของสายพันธุ์