เอเอฟพี - ผู้คนทั่วโลกต่างเศร้าเสียดายเมื่อ “จอร์จผู้เดียวดาย” เต่ายักษ์สายพันธุ์เกาะปินตาตัวสุดท้ายเสียชีวิตลงเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ผลวิจัยชิ้นใหม่ซึ่งเผยแพร่เมื่อวานนี้(21)กลับชี้ว่าจอร์จอาจไม่ได้เดียวดายอย่างที่มนุษย์เราเข้าใจกัน
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะกาลาปากอส ระบุในคำแถลงว่า ยังมีเต่าอีกอย่างน้อย 17 ตัวบนหมู่เกาะกาลาปาโกสที่มีลักษณะทางพันธุกรรมใกล้เคียงกับจอร์จ รวมถึงบางตัวที่อาจมาจากตระกูล (genus) เดียวกันด้วย
การจากไปของจอร์จผู้เดียวดาย เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน “ไม่ใช่การสิ้นสูญพันธุ์เต่ายักษ์แห่งเกาะปินตา ชนิด Chelonoidis abingdonii” อย่างที่หลายคนคิด
หมู่เกาะกาลาปากอสซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งเอกวาดอร์ประมาณ 1,000 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 13 เกาะ และกองหินขนาดเล็กอีกกว่า 100 แห่ง ชาวยุโรปที่เดินทางไปถึงที่นั่นในคริสตศตวรรษที่ 16 พบว่าหมู่เกาะเหล่านี้ไร้ผู้อยู่อาศัย แต่ในปัจจุบันหมู่เกาะกาลาปากอสมีพลเมืองอาศัยอยู่ประมาณ 25,000 คน
จอร์จ ซึ่งเชื่อว่ามีอายุถึง 100 ปีขณะที่มันอำลาโลก ถูกค้นพบบนเกาะปินตาเมื่อปี 1972 ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเต่าสายพันธุ์เดียวกับมันหมดไปจากโลกแล้ว
อย่างไรก็ดี งานวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเยลในสหรัฐฯ พบว่า “มีเต่าเพศเมีย 9 ตัว, เพศผู้ 3 ตัว และลูกเต่าอีก 5 ตัว ที่มียีนของเต่ายักษ์สายพันธุ์เกาะปินตาอยู่ในตัว” อุทยานแห่งชาติกาลาปากอสแถลง
นักวิจัยได้ศึกษาเปรียบเทียบตัวอย่างดีเอ็นเอกว่า 1,600 ชิ้นจากเต่าที่อาศัยอยู่บนภูเขาไฟวอล์ฟ เกาะอิซาเบลลา กับตัวอย่างดีเอ็นเอของจอร์จ ที่ได้จากพิพิธภัณฑ์เต่าบนเกาะปินตา
การค้นพบครั้งนี้หมายความว่า “อาจมีเต่าสายพันธุ์ผสมอื่นๆบนภูเขาไฟวอล์ฟ หรือแม้แต่สายพันธุ์บริสุทธิ์ที่ยังเหลืออยู่บนเกาะปินตา” ก็เป็นได้
ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ในอดีตเคยมีประชากรเต่ายักษ์อาศัยอยู่บนหมู่เกาะกาลาปากอสประมาณ 300,000 ตัว แต่ในช่วงศตวรรษที่ 18-19 เต่ายักษ์สายพันธุ์เกาะปินตาถูกคุกคามโดยนักล่าวาฬและโจรสลัด ซึ่งกินเนื้อของพวกมันเป็นอาหาร และนำสัตว์ผู้ล่าชนิดใหม่ๆ เข้ามายังหมู่เกาะแห่งนี้
ปัจจุบันหมู่เกาะกาลาปากอสมีเต่ายักษ์เหลืออยู่เพียง 10 สายพันธุ์ ประมาณ 30,000-40,000 ตัวเท่านั้น
นักวิทยาศาสตร์คาดเดาว่า เต่ายักษ์สายพันธุ์เกาะปินตาและเกาะฟลอเรียนาอาจถูกนักเดินเรือนำไปปล่อยทิ้งยังเกาะอิซาเบลลาในศตวรรษที่ 18 หลังจากที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องกินเนื้อพวกมันอีกต่อไป
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกาลาปากอสทราบมาตั้งแต่ปี 2008 ว่า ยังมีเต่าลูกผสมที่มียีนของเต่ายักษ์สายพันธุ์เกาะปินตาอยู่ในตัว แต่ วอชิงตัน ทาเปีย นักชีววิทยาประจำอุทยานแห่งชาติ เผยเมื่อเดือนมิถุนายนว่า ยีนที่พบไม่เพียงพอที่จะเพาะพันธุ์เต่าสายพันธุ์เดียวกับจอร์จให้กลับมามีชีวิตบนโลกได้
หมู่เกาะกาลาปากอสกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก หลังจาก ชาร์ลส์ ดาร์วิน ได้มาเยือนหมู่เกาะแห่งนี้ในปี 1835 และทำการศึกษาวิจัยจนคิดค้น “ทฤษฎีวิวัฒนาการ” ได้สำเร็จ