xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อชัยเป็นของ “โอบามา” นาซาเดินหน้าส่งคนไป “ดาวเคราะห์น้อย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สำหรับโอบามาการกลับไปดวงจันทร์เป็นการพลาญงบโดยเปล่าประโยชน์ การเดินหน้าส่งคนไปให้ไกลกว่านั้นสำคัญกว่า (ภาพจาก  whitehouse.gov/สเปซด็อทคอม)
ชัยชนะของ “บารัค โอบามา” จากการได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัย หมายถึงหลายโครงการอวกาศของนาซาจะยังคงเดินหน้าต่อไป ในจำนวนนั้นคือ การส่งมนุษย์อวกาศไปเยือนดาวเคราะห์น้อย ภายในปี 2025 และยังไม่ลืมที่จะกลับไปดวงจันทร์อีกครั้ง

ทั้งนี้ สเปซด็อทคอม ระบุว่า มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับองค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) อย่างแน่นอน หาก นายมิตต์ รอมนีย์ (Mitt Romney) ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน (Republican) ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยหน้า เมื่อเขาให้คำมั่นว่า จะปฏิรูปการทำงานของนาซาใหม่ แต่ก็ไม่ทราบการปฏิรูปดังกล่าวจะไปในทิศทางใด เมื่อชัยชนะเป็นของ บารัค โอบามา (Barack Obama) ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน

หนึ่งในโครงการที่นาซายังคงเดินหน้าต่อไปอย่างน้อย 4 ปี คือ การส่งคนไปดาวเคราะห์น้อย จากนั้นเป้าหมายต่อไป คือ ดาวอังคาร โดยเมื่อปี 2010 โอบามาได้สั่งให้นาซาส่งมนุษย์ไปดาวเคราะห์น้อยใกล้โลกภายในปี 2025 จากนั้นส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคารที่ใกล่เคียงในกลางทศวรรษ 2030

เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายในอวกาศที่อยู่ไกลออกไป องค์การอวกาศของสหรัฐฯ จึงกำลังพัฒนาจรวดขนาดมหึมาในชื่อ “สเปชลันช์ซิสเต็ม” (Space Launch System) หรือ เอสแอลเอส (SLS) และแคปซูลลำเลียงมนุษย์อวกาศชื่อ “โอไรออน” (Orion) โดย นาซา หวังว่า ระบบยานทั้งสองจะเริ่มส่งมนุษย์อวกาศได้ในปลายปี 2021

คณะบริหารของโอบามายังสนับสนุนให้นาซาส่งต่อกิจการขนส่งลูกเรือและสัมภาระสู่วงโคจรชั้นต่ำแก่ภาคเอกชนของอเมริกา โดยมีเป้าหมายเพื่ออุดช่องว่างที่เกิดจากการปลดระวางโครงการกระสวยอวกาศ ซึ่งผลักดันโดยอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช (George W. Bush) เมื่อปี 2004

นาซาใช้งบประมาณราว 4.2 หมื่นล้านบาท ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้บริษัทต่างๆ พัฒนายานขนส่งลูกเรือ ซึ่งทางองค์การอวกาศหวังว่าจะมียานอวกาศพาณิชย์ของเอกชนอย่างน้อย 2 รายที่จะเริ่มดำเนินการขนส่งลูกเรือได้ในปี 2017 แต่เมื่อถึงตอนนี้สหรัฐฯ ก็ยังคงจะพึ่งพายานอวกาศโซยุซ (Soyuz) ของรัสเซียในการขนส่งมนุษย์อวกาศขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station)

ถึงตอนนี้การดำเนินโครงการดังกล่าวก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วในส่วนของการขนส่งสัมภาระ ซึ่งบริษัท สเปซเอกซ์ (SpaceX) ที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนียได้ปฏิบัติภารกิจขนส่งสัมภาระเที่ยวแรกสำเร็จ จากทั้ง 12 เที่ยวตามสัญญาระหว่างบริษัทกับนาซาที่คิดเป็นมูลค่ากว่า 4.8 หมื่นล้านบาท โดยได้ส่งแคปซูลดรากอน (Dragon) ขึ้นสู่สถานีอวกาศเมื่อเดือนที่ผ่านมา

นอกจากสเปซเอกซ์แล้ว นาซายังทำสัญญากับบริษัท ออร์บิทัลไซน์คอร์ป (Orbital Sciences Corp.) ในเวอร์จิเนียเป็นมูลค่ากว่า 5.7 หมื่นล้านบาท เพื่อส่งเที่ยวบินขนส่งสัมภาระไร้คนขับ 8 เที่ยวด้วยจรวดแอนทาเรส (Antares) ที่นำส่งยานซิกนัส (Cygnus) สู่วงโคจร ซึ่งบริษัทนี้มีเป้าหมายจะเริ่มเที่ยวบินสาธิตในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

อย่างไรก็ดี ก่อนเริ่มงานของโอบามาในสมัยแรก นาซาได้ดำเนินโครงการคอนสเตลเลชัน (Constellation) ภายใต้นโยบายของบุช ซึ่งมีเป้าหมายส่งคนกลับไปเยือนดวงจันทร์อีกครั้งในปี 2020 แต่โอบามาได้ล้มเลิกโครงการดังกล่าว หลังจากคณะกรรมการเห็นว่าเป็นโครงการที่ใช้เงินเกินงบและทำงานไม่ได้ตามเป้าหมาย ถึงอย่างนั้นนาซาก็ให้สัญญาว่าจะกลับไปดวงจันทร์อีกครั้งโดยใช้จรวดเอสแอลเอส และยานโอไรออน







กำลังโหลดความคิดเห็น