สวทช.ส่งต่อเทคโนโลยีผลิตโลหะกึ่งแข็งด้วยการพ่นฟองก๊าซ

สวทช.- สวทช.ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตโลหะกึ่งของแข็งโดยการพ่นฟองก๊าซ สู่ภาคเอกชนลดต้นทุนการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ หวังสร้างความแข็งแกร่งแก่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และสร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพมากมาย อาทิ ขาเทียมอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา, แผ่นเกราะกันกระสุน, รถของเด็กเล่น เป็นต้น

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และบริษัท กิสโค จำกัด ร่วมลงนามในสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิประโยชน์ในผลงานวิจัย “กรรมวิธีการเตรียมโลหะกึ่งของแข็งที่มีโครงสร้างเกรนไม่เป็นแบบกิ่งไม้โดยใช้ฟองก๊าซในการรบกวน” เพื่อให้ผลงานวิจัยดังกล่าว ถูกนำไปใช้ประโยชน์สาธารณะอย่างกว้างขวาง

ดร.ณรงค์ ศิริเสิศวรกุล รองผู้อำนวยการ สวทช.กล่าวว่า สวทช.ได้สร้างเครือข่ายกับส่วนราชการ เอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อเชื่อมโยงให้นักวิทยาศาสตร์ไทยทำงานอย่างใกล้ชิดและเข้าถึงความต้องการของภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้ไทยก้าวสู่การเป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยีเกิดการสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศบนเวทีการค้าโลกได้

“ผลงานที่เกิดขึ้นจากการลงนามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในผลงานวิจัยครั้งนี้ จะนำมาซึ่งการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตสร้างรายได้ และสร้างงานแก่ประชาชนตามสภาพสังคมและพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ สำหรับความร่วมมือระหว่าง สวทช.และ บริษัท กิสโค จำกัด ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชนนำเอางานวิจัยไปสู่ภาคการผลิตเป็นการเพิ่มศักยภาพและโอกาสในการเป็นผู้นำโดยเฉพาะเทคโนโลยีโลหะกึ่งของแข็ง (Semi-solid) ซึ่งมีบริษัทเอกชนสนใจที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์” ดร.ณรงค์ กล่าว

ดร.ณรงค์ กล่าวอีกว่า ด้วยกรอบการทำงานของ สวทช.ที่จะต้องการสนับสนุนให้ผลงานวิจัยถูกนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์สวทช.จึงตกลงอนุญาตให้ บริษัท กิสโค จำกัด ใช้ประโยชน์ในผลงานวิจัยนี้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากโครงการสมองไหลกลับ (RBD) ที่ สวทช. ยืนหยัดและมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อจุดมุ่งหมายเดียว คือ “การเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทย”

ด้าน รศ.ดร.ชูศักดิ์ นิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า กระบวนการผลิตโลหะกึ่งของแข็งวิธีใหม่ที่คิดค้นขึ้นนี้ได้มีการวิจัยและพัฒนาขึ้นจากนักวิจัยผู้มีความรู้ ความชำนาญจนงานวิจัยประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย มีภาคเอกชน ก็คือ บริษัท กิสโค จำกัดแสดงความสนใจที่จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์เพื่อนำเอาเทคโนโลยีไปใช้ผลิต และให้บริการในเชิงพาณิชย์ต่อไป

สำหรับบริษัท กิสโค จำกัด ที่จะรับอนุญาตใช้สิทธิเทคโนโลยีและร่วมลงนามในสัญญาอนุญาตใช้สิทธินั้น เป็นบริษัทจากการบ่มเพาะของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมการบ่มเพาะจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ในลักษณะของการบ่มเพาะวิสาหกิจ (UBI), การจัดการทรัพย์สินทางปัญญาและถ่ายทอดเทคโนโลยี(TLO) และโครงการวิจัยและพัฒนาภาครัฐร่วมกับเอกชนในเชิงพาณิชย์

ทั้งนี้ โครงการต่างๆ มีวัตถุประสงค์เพื่อการผลักดัน ส่งเสริมและสนับสนุนให้นักศึกษา บัณฑิตศิษย์เก่าบุคลากรในมหาวิทยาลัยและผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเป็นผู้ประกอบการธุรกิจโดยเน้นธุรกิจที่ใช้ความรู้เป็นฐาน และผลักดันงานวิจัยให้มีศักยภาพ และดำเนินการเชิงพาณิชย์รวมทั้งส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรม ธุรกิจใหม่ และผู้ประกอบการใหม่ในภาคธุรกิจซึ่งสามารถแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศได้”

สำหรับกระบวนการผลิตโลหะกึ่งของแข็งวิธีใหม่นี้ สามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับวัสดุมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าว ทำให้โครงสร้างของโลหะกึ่งของแข็งมีความเป็นระเบียบมากขึ้น เมื่อนำไปหล่อขึ้นรูปก็จะไม่พบรูพรุนภายในโลหะเทคโนโลยีนี้ สามารถตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอะลูมิเนียมที่เพิ่มมากขึ้นตามอุตสาหกรรมประกอบยานยนต์และอุตสาหกรรมอิเลกทรอนิกส์

ในการผลิตชิ้นส่วนอะลูมิเนียมส่วนใหญ่ใช้กระบวนการหล่อฉีด (Die casting) ซึ่งข้อดีคือ ผลิตได้จำนวนมาก แต่ข้อเสีย คือ ชิ้นงานมีโพรงอากาศเยอะ นอกจากนั้น แม่พิมพ์ยังมีอายุการใช้งานสั้นส่งผลให้มีต้นทุนสูงขึ้น หากสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องนำเข้าเครื่องจักรหรือเทคโนโลยีจากต่างประเทศที่มีราคาแพงมาก อาทิ ขาเทียมอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา (Ortho-X), แผ่นเกราะกันกระสุน, รถของเด็กเล่น เป็นต้น