หนุ่มแอริโซนา ชิงชัยกับคนทั่วสหรัฐฯ 50,000 คน ในการแข่งขันของบริษัททัวร์อวกาศ เพื่อคัดเลือกสุดยอดผู้ปฏิบัติภารกิจสุดท้าทายไปแตะอวกาศแบบเฉียดๆ 2-3 นาที คิดเป็นมูลค่าตั๋วกว่า 3 ล้านบาท ส่วนรางวัลปลอบใจ คือ เที่ยวบินฟรีสัมผัสสภาพแรงโน้มถ่วงต่ำ
การแข่งขันหาผู้ชนะเลิศไปเฉียดอวกาศแบบฟรีๆ นี้ จัดขึ้นด้วยการสนับสนุนของสเปซนีเดิล (Space Needle) และบริษัททัวร์อวกาศ สเปซแอดเวเจอร์ส (Space Adventures) ซึ่งจัดการแข่งขัน “สเปซเรซ 2012” (Space Race 2012) มาตั้งแต่เดือน ส.ค.2011 และมีผู้เข้าแข่งขันกว่า 50,000 คนจากทั่วสหรัฐฯ และ บัซ อัลดริน (Buzz Aldrin) มนุษย์อวกาศคนที่ 2 ที่เหยียบย่างบนดวงจันทร์ได้ประกาศ ว่า ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน คือ เกรกอรี ชไนเดอร์ (Gregory Schneider) จากแอริโซนา
ชไนเดอร์ เข้าชิงชัยกับ ซารา คุก (Sara Cook) จากวอชิงตัน ดี.ซี.ด้วยการปีนหอคอยสเปซนีเดิลที่สูงถึง 184 เมตร เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา และนอกจากการพิชิตความสูงของหอคอยสัญลักษณ์แห่งซีแอตเติลแล้ว สเปซดอตคอม ระบุว่า ยังมีการแข่งขันดิ่งพสุธาในร่ม แข่งปฏิบัติภารกิจระหว่างลอยตัวในอุโมงค์ลม และกิจกรรมสร้างแผงเซลล์แสงอาทิตย์ด้วย
สำหรับรางวัลที่ ชไนเดอร์ ได้รับถือเป็นรางวัลใหญ่ โดยเขาจะได้ขึ้นไปเฉียดอวกาศที่ความสูงประมาณ 100 กิโลเมตร โดยการนั่งยานที่ผลิตโดยอาร์มาดิลโลแอโรสเปซ (Armadillo Aerospace) ซึ่ง สเปซแอดเวนเจอร์ส ขายตั๋วที่นั่งยานอาร์มาดิลโล ในราคาประมาณ 3.3 ล้านบาท ดังนั้น ค่าตั๋วดังกล่าวจึงถือเป็นมูลค่าเป็นของรางวัลนี้
ผู้ชนะเลิศจากการแข่งขันจะได้สัมผัสสภาพไร้น้ำหนักระหว่างเดินทางบนยานพิเศษประมาณ 2-3 นาที แล้วยังจะได้เห็นเส้นโค้งของขอบโลกตัดกับความดำมืดของอวกาศ นอกจากนี้ ยังมีรางวัลอื่นๆ สำหรับการแข่งขันอีก เช่น รางวัลนั่งเครื่องบินจีฟอร์ซวัน (G-Force One) ที่ผู้โดยสารจะได้สัมผัสแรงโน้มต่ำ และรางวัลท่องเที่ยวซีแอตเติลเป็นเวลา 2 คืน เป็นต้น
อย่างไรก็ดี อาร์มาดิลโด ก็ไม่ต่างจากบริษัทอื่นๆ ที่แข่งขันนำเที่ยวไปสัมผัสขอบอวกาศอย่างเวอร์จินกาแลกติก (Virgin Galactic) และ เอ็กซ์คอร์แอโรสเปซ (XCOR Aerospace) เพราะบริษัทผู้เป็นเจ้าของเทคโนโลยียานแตะขอบอวกาศนี้ ยังไม่พร้อมในตอนนี้ ดังนั้น กำหนดการที่ ชไนเดอร์ จะได้ขึ้นไปแตะขอบอวกาศจึงยังไม่ได้ถูกกำหนดอย่างเป็นทางการ
ส่วน ชไนเดอร์ เองได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวท้องถิ่นในซีแอตเติลก่อนที่ตัวเขาจะแข่งขันรอบชิง ว่า ชัยชนะของเขาจะเติมเต็มความฝันที่มีมายาวนาน และรวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจแก่ลูกๆ ของเขาให้มีความฝันอันยิ่งใหญ่ และบอกด้วยว่า หากเขาสามารถแข่งขันทำสิ่งท้าทายตามโจทย์ที่กำหนดแล้ว ลูกๆ เขาย่อมเชื่อว่าคนเราสามารถทำอะไรก็ได้
