xs
xsm
sm
md
lg

วงแหวนของดาวเสาร์ (1)

เผยแพร่:   โดย: สุทัศน์ ยกส้าน

ภาพวาดดาวเสาร์โดย Christian Huygens แสดงความเข้าใจเรื่องวงแหวนของนักดาราศาสตร์เมื่อ 300 ปีก่อนนี้
ย้อนอดีตไปเมื่อ 400 ปีก่อนที่ Galileo ใช้กล้องโทรทรรศน์ส่องดูดาวเสาร์ และได้ตกตะลึงเมื่อเห็นดาวดวงนี้มิได้มีลักษณะกลมเหมือนดาวเคราะห์อื่นๆ แต่มีดาวดวงเล็กๆ อีกสองดวงประกบติดอยู่ข้างๆ

อีกสองเดือนต่อมา เมื่อ Galileo ย้อนกลับไปดูดาวเสาร์อีกครั้งหนึ่ง เขาไม่ได้เห็นดาวขนาดเล็กสองดวงนั้น เหตุการณ์นี้ทำให้ Galileo งุนงงจนไม่ได้หวนกลับไปดูดาวเสาร์อีกเลย

เมื่อถึงวันนี้ กล้องโทรทรรศน์ที่นักดาราศาสตร์ใช้มีประสิทธิภาพดีขึ้น จนทำให้เรารู้ว่า ดาวสองดวงขนาดเล็กที่ Galileo เห็นอยู่เคียงข้างดาวเสาร์นั้น แท้จริงคือวงแหวนที่มีลักษณะแบนราบ และเป็นแถบกว้าง ซึ่งถ้าแนวที่ตามองอยู่เหนือระนาบของวงแหวน มันก็จะปรากฏเป็นก้อน แต่ถ้าแนวที่ตามองอยู่ในระนาบของวงแหวน ตาก็จะเห็นเพียงขอบ ดังนั้นกล้องโทรทรรศน์ที่มีประสิทธิภาพต่ำ (ดังกล้องของ Galileo) จึงมองไม่เห็นวงแหวนเลย

ถึงเวลาจะผ่านไปร่วม 4 ศตวรรษแล้วก็ตาม แต่วงแหวนของดาวเสาร์ก็เป็นสิ่งที่นักดาราศาสตร์ยังสนใจ เพราะมีคำถามเกี่ยวกับวงแหวนมากมายที่ยังไม่มีคำตอบ เช่น วงแหวนเกิดจากอะไร และเกิดขึ้นเมื่อใด อะไรคือสาเหตุที่ทำให้มันคงรูปเช่นนั้น ดาวเสาร์มีวงแหวนกี่วงและวงแหวนมีธาตุอะไรบ้าง นอกจากนี้วงแหวนของดาวเสาร์แตกต่างจากวงแหวนของดาวพฤหัสบดีและดาวยูเรนัสอย่างไร เป็นต้น

ในการตอบคำถามเหล่านี้ การสำรวจวงแหวนที่ระยะใกล้จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำ ดังนั้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2540 องค์การบินและอวกาศของสหรัฐฯ จึงส่งยานสำรวจชื่อ Cassini (ตั้งตามชื่อของ Giovanni Cassini นักดาราศาสตร์ชาวอิตาลีผู้เห็นช่องว่างในวงแหวนเป็นครั้งแรก ชื่อ Cassini gap) ให้ออกเดินทางไกล 3,500 ล้านกิโลเมตร มุ่งสู่ดาวเสาร์ ยานที่สูง 7 เมตร หนัก 5.5 ตัน ราคาค่าสร้าง 9 หมื่นล้านบาทได้อ้อมผ่านดาวศุกร์ 2 ครั้ง ผ่านโลก แล้วมุ่งสู่ดาวก่อน เพื่ออาศัยแรงโน้มถ่วงที่มหาศาลของดาวเหวี่ยงยานให้พุ่งสู่ดาวเสาร์ด้วยความเร็ว 20,000 กม./ชั่วโมง ยาน Cassini เดินทางถึงดาวเสาร์เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2547โดยขณะที่เดินทาง ยานได้ศึกษาธรรมชาติของรังสี รวมถึงบรรยากาศของดาวพฤหัสบดีด้วย ได้ถ่ายภาพของดาวเคราะห์น้อย Masursky ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาว 16 กิโลเมตร และ พบว่ามีองค์ประกอบที่แตกต่างจากดาวเคราะห์น้อยดวงอื่นๆ ทั้งหมด

ยานสำรวจ Cassini มีอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่ช่วยในการสำรวจมากมาย เช่น มีเครื่องกำเนิดพลังงานนิวเคลียร์ที่มี plutonium เป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะทำหน้าที่ป้อนพลังงานให้อุปกรณ์ต่างๆ ทำงานตลอดเวลา 15 ปี มีอุปกรณ์เรดาร์ ซึ่งจะส่งคลื่นวิทยุไปสำรวจดาวเสาร์ และดวงจันทร์ต่างๆ แล้วรับคลื่นสะท้อนมาวิเคราะห์ มี spectrometer ที่สามารถวิเคราะห์ชนิดของอะตอมในบรรยากาศเหนือดาวเสาร์ และดวงจันทร์ต่างๆ มีกล้องถ่ายภาพที่ไวต่อแสงธรรมดา รังสี infrared และ ultraviolet ซึ่งจะทำหน้าที่วัดขนาด และความเร็วของเกล็ดน้ำแข็งในวงแหวนโดยกล้องสามารถถ่ายภาพได้มากถึง 750,000 ภาพ และมี magnetometer ที่ทำหน้าที่วัดความเข้มสนามแม่เหล็กของดาวเสาร์ด้วย (อ่านต่ออังคารหน้า)

สุทัศน์ ยกส้าน เมธีวิจัยอาวุโส สกว.
ยานสำรวจ Cassini
ภาพถ่ายแสดงวงแหวนต่างๆ ของดาวเสาร์
กำลังโหลดความคิดเห็น