xs
xsm
sm
md
lg

A.P. Maudslay นักโบราณคดีผู้ทำให้เกิดการศึกษาภาษามายา

เผยแพร่:   โดย: สุทัศน์ ยกส้าน

อาณาจักรมายา
Alfred Percival Maudslay เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2393 (รัชสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) ที่หมู่บ้าน Lower Norwood Lodge ใกล้ลอนดอน ในวัยเด็ก Maudslay มิได้สนใจเรื่องอารยธรรมโบราณเลย แต่เมื่อได้เข้าศึกษาวิชาชีววิทยาที่มหาวิทยาลัย Cambridge และได้เพื่อนสนิทชื่อ J.W. Clark ซึ่งขณะนั้นเป็นเลขานุการของสมาคมโบราณคดีแห่งมหาวิทยาลัย Clark ได้ชักนำให้ Maudslay หันมาสนใจโบราณคดี

เพราะครอบครัว Maudslay มีฐานะดี ดังนั้น ช่วงฤดูร้อน Maudslay จึงได้เดินทางไปพักผ่อนที่เม็กซิโกโดยหวังจะได้ศึกษาธรรมชาติของนกในประเทศนั้น แต่เมื่อได้เห็นซากปรักหักพังของรูปปั้นโบราณและอนุสาวรีย์ต่างๆ ที่เมือง Copan และ Quirigua หนุ่ม Maudslay รู้สึกทึ่งและประทับใจในความวิจิตรอลังการของโบราณวัตถุเหล่านั้นมาก จึงได้ถ่ายรูปและสเกตช์ภาพของโบราณสถานเหล่านั้นเป็นที่ระลึก

เมื่อสำเร็จการศึกษา Maudslay ได้เข้าเรียนแพทย์ต่อ แต่ต้องลาออกกลางคัน เมื่อพบว่าป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ดังนั้น เพื่อป้องกันตัวจากภัยหนาวเขาจึงคิดหางานทำในประเทศที่มีอากาศอบอุ่น เช่น Trinidad หรือ Jamaica และในที่สุดก็ได้งานเป็นเลขานุการของผู้ว่าราชการแห่ง Trinidad และเมื่อผู้ว่าฯ ย้ายไปรับตำแหน่งที่ Queensland ในออสเตรเลีย Maudlay ก็ได้ย้ายตามแต่ไม่ชอบบรรยากาศที่นั่นเลย จึงลาออกไปทำงานที่ Fiji และ Samoa จนเบื่อแล้วเดินทางกลับอังกฤษ

ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2423 Maudslay วัย 30 ปี ได้เดินทางไป Honduras และ Guatemala อีก ครั้นได้ข่าวว่าเมือง Quirigua ที่ตนเคยไปเยือนกำลังเป็นเมืองลึกลับ เพราะมีอนุสาวรีย์รูปร่างประหลาดๆ อีกทั้งมีสิ่งปรักหักพังที่ถูกตะไคร่และรากไม้ปกคลุมมากมาย ข่าวยังรายงานอีกว่าบนโบราณวัตถุเหล่านี้มีอักษรภาพที่ไม่มีใครอ่านรู้เรื่องปรากฏอยู่ด้วย ข่าวนี้ทำให้ Maudslay ตัดสินใจอุทิศตัวทำงานเป็นนักโบราณคดีทันที โดยตั้งใจว่าจะถ่ายรูป บันทึก ลอก และสร้างรูปปั้นต่างๆ ให้เหมือนตัวจริงเพื่อนำไปเผยแพร่ในพิพิธภัณฑ์ทั้งในอเมริกาและยุโรปต่อไป

หลังจากที่ได้สำรวจ Quirigua, Copan และ Guatemala City แล้ว Maudslay ก็ได้ข่าวการพบเมืองมายาใหม่ชื่อ Tikal ว่าเมืองนี้มีวัตถุโบราณมากมายเช่นเดียวกับเมือง Palenque หนุ่ม Maudslay จึงว่าจ้างชาวพื้นเมืองให้นำทางไป Tikal และรู้สึกพอใจที่ได้เห็นซากปรักหักพังมากมาย ณ ที่นั่น จากนั้นเขาก็เดินทางกลับอังกฤษพร้อมกับครุ่นคิดหาวิธีบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวกับอารยธรรมโบราณนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะรู้ดีว่าเทคนิคการถ่ายภาพที่เขามีไม่สามารถบันทึกรายละเอียดของวัตถุโบราณทุกชิ้นและทุกส่วนได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้น เวลานักโบราณคดีที่อังกฤษจะศึกษาวัตถุเหล่านี้เขาจะไม่มีรายละเอียดครบถ้วน หรือถ้าจะให้จิตรกรวาดภาพของอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ จิตรกรก็ไม่สามารถวาดได้เท่าของจริง Maudslay จึงคิดหาวิธีจำลองวัตถุโบราณเหล่านี้ให้เท่าตัวจริง และก็ได้พบว่า ถ้าเขาใช้ปูนปลาสเตอร์ทำแบบพิมพ์เป็นชิ้นๆ แล้วนำชิ้นเล็กๆ เหล่านั้นมาเรียงต่อกันเป็นชิ้นใหญ่ เขาก็จะได้สิ่งที่ต้องการทันที

Maudslay จึงนำปูนปลาสเตอร์คุณภาพดีที่สั่งตรงจากปารีสมาใช้ และได้มอบให้จิตรกรชื่อ Annie Hunter วาดภาพของโบราณวัตถุที่ Maudslay ต้องการจำลองอย่างละเอียด จากนั้นเขาก็นำภาพวาดเหล่านั้นมาตีพิมพ์เป็นหนังสือชื่อ A Glimpse at Guatemala เพื่อหาเงินมาใช้ในโครงการจำลองวัตถุโบราณ ทั้งนี้ เพราะเขาไม่ได้ทุนสนับสนุนจากองค์กรใดๆ และเพื่อให้โครงการในฝันของเขาลุล่วง Maudslay ได้ขายบ้านแล้วอพยพครอบครัวไปพำนักที่ San Angel ซึ่งอยู่ใกล้เมือง Mexico City โดยมีจุดมุ่งหมายจะได้ศึกษามหาวิหารของชาว Aztec ที่ถูกนายพล Cortez สั่งทำลายเพราะ Cortez ไม่ต้องการให้ชาว Aztec นับถือพระเจ้าใดๆ แต่ให้นับถือคริสต์ศาสนาแทน ผลที่ได้จากการศึกษานี้ได้ช่วยให้ Maudslay แปลและเรียบเรียงบันทึกของ Bernal Diaz del Castillo ซึ่งกล่าวถึงประวัติการทำลายอาณาจักร Aztec โดยทหารสเปนได้อย่างสมบูรณ์

ในการศึกษาภาษา Maya นั้น Maudslay ตระหนักว่าภาษาที่เขียนในลักษณะอักษรภาพได้อุบัติขึ้นเป็นครั้งแรกที่ Mesopotamia ในเอเชียกลาง และอียิปต์เมื่อ 5,000 ปีก่อน ไล่เลี่ยกับภาษาจีนและภาษา Harappa ในอินเดีย และประวัติศาสตร์ก็ได้บันทึกว่า Yurii Knorosov คือนักภาษาศาสตร์ชาวรัสเซียผู้ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในการอ่านภาษา Maya เมื่อเขาสามารถบอกได้ว่า ภาพใดแทนสระ และภาพใดแทนพยัญชนะ

เมื่อถึงปี 2473 Sylvanus Griswald Morley ได้ศึกษาภาษา Maya ต่อ จนรู้ว่าภาษาที่เขียนนั้นบรรยายเรื่องราวที่เกี่ยวกับศาสนาและโหราศาสตร์ แต่ Maudslay คิดว่า ชาวมายาคงได้บันทึกประวัติศาสตร์ของชาติตนด้วย เขาจึงเริ่มศึกษาอักษรภาพที่เห็นและที่พบใหม่อย่างละเอียด แต่ต้องล้มป่วยและเสียชีวิตลงที่ Hereford เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2474 สิริรวมอายุได้ 81 ปี

ในปี 2493 Enrique Berlin ได้ศึกษาภาษามายาต่อจนสามารถอ่านชื่อเมืองมายาได้หลายเมือง (แต่เขาไม่มั่นใจวิธีออกเสียงอ่านชื่อเหล่านั้น) นอกจากชื่อเมืองแล้ว เขายังสามารถอ่านอักษรภาพที่ปรากฏบนฝาโลงหินได้ว่าเป็นชื่อของคนที่ได้จากไป และ Knorosov ก็ได้แสดงให้โลกเข้าใจวิธีเขียนพยางค์ของภาษามายา ส่วน Tatiana Proskouriakoff คือบุคคลแรกที่สามารถอ่านคำกริยา เช่น เกิด ตาย และครองราชย์ได้
ณ วันนี้ นักภาษาอารยธรรมโบราณสามารถอ่านภาษามายาออกประมาณ 90% แล้ว ซึ่งนับว่าสมบูรณ์ในระดับดีมาก จนเราต้องยอมรับว่า ถ้า Maudslay ไม่ได้คิดหล่ออักษรภาพเหล่านั้นออกมาให้นักภาษาศาสตร์ได้ศึกษาอย่างละเอียดและสะดวก เหตุการณ์นี้ก็จะเกิดไม่ได้ นั่นคือ Mauslay ได้ช่วยให้โลกรู้ประวัติของอารยธรรม Maya ที่ได้สาบสูญไปจากโลกเมื่อ 1,000 ปีก่อน ให้เป็นที่รับรู้กันอีกครั้งหนึ่ง เช่น ได้ทำให้รู้ว่า เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 1069 กษัตริย์ Kinich Skull ที่ 2 ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ โดยในสมัยนั้นประชาชนนิยมการถวายเลือดแด่พระผู้เป็นเจ้า เพราะเชื่อว่าพระเจ้าทรงประทานเลือดให้แก่มนุษย์ ดังนั้น มนุษย์จึงต้องถวายเลือดกลับคืน และในกระบวนการคืนเลือดนี้ คนที่เป็นทาสและเด็กต้องเสียสละก่อน ด้วยการใช้มีดแทงตัวเอง หรือตัดลิ้นและองคชาตให้เลือดไหลลงภาชนะ ส่วนนักบวชก็อาจถวายเลือดได้โดยการใช้มีดผ่าอกของเชลยศึกเพื่อควักหัวใจออกมาสังเวย

การศึกษาภาษามายายังทำให้เรารู้ประวัติศาสตร์ของชนเผ่านี้ว่า อาณาจักรได้เจริญรุ่งเรืองสุดขีดเมื่อประมาณ พ.ศ. 1400 ที่เมือง Belize, Copan, Tikal Chichen Itza, Palenque และ Yucaxtan เพราะชาวมายารู้จักสร้างพีระมิด และพระราชวัง แต่เมื่อเวลาผ่านไปอีกประมาณ 500 ปี อารยธรรมนี้ก็เริ่มล่มสลาย เพราะประชาชนแตกสามัคคี เกิดสงครามกลางเมือง และอาณาจักรถูกนายพล Cortez นำทหารบุกทำลายจนโลกได้ลืมชาวมายาไปอย่างสิ้นเชิง

จนกระทั่ง พ.ศ. 2384 เมื่อ John Lloyd Stephens ผู้เป็นนักผจญภัยชาวอเมริกันได้เห็นซากเมืองมายาในป่าทึบของ Honduras อารยธรรมมายาจึงได้ฟื้นคืนชีพอีกครั้งหนึ่ง

ใน พ.ศ. 2545 Ian Graham ได้เรียบเรียงหนังสือชื่อ Alfred Maudslay and the Maya : A Biography ISBN 07141251 ราคา 29.99 ปอนด์ออกวางจำหน่าย หนังสือได้เล่าประวัติและวิธีทำงานของมนุษย์มายาคนนี้ได้อย่างน่าสนใจยิ่ง

สุทัศน์ ยกส้าน เมธีวิจัยอาวุโส สกว.
A.P. Maudslay
 “เต่า” ที่พบกลางป่าของเมือง Quirigua
เสาหินที่เมือง Copan ที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1166
ลายวาดที่วิหารในเมือง Tikal
 รูปจำลองที่ทำด้วยปูนปลาสเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น