นาโนเทคโนโลยีอาจทำให้วัสดุที่เล็กยิ่งกว่าเส้นผมกลายเป็นวัสดุที่เบาลงแต่แข็งแรงขึ้น พัฒนาเครื่องสำอางให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น หรือแม้แต่ทำให้อาหารมีรสชาติดีขึ้น แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ได้เริ่มศึกษาผลกระทบที่อาจมาจากวัสดุเล็กๆ นี้ และบางการศึกษายังชี้ว่าวัตถุระดับนาโนนั้นอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายที่แตกต่างไปจากวัตถุชนิดเดียวกันที่ใหญ่กว่า
ทั้งนี้เป็นที่ยอมรับตามกันว่าอนุภาคนาโนนั้นต้องมีขนาดระหว่าง 1-100 นาโนเมตร หรือประมาณ 1 ในหมื่นของเส้นผมมนุษย์ และมีคุณสมบัติที่ต่างไปจากคุณสมบัติตามธรรมชาติเมื่อมีขนาดปกติ แต่รอยเตอร์รายงานว่า ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยดุค (Duke University) ในเมืองเดอแรม รัฐนอร์ธคาโรไลนา สหรัฐฯ เชื่อว่าการพุ่งเป้าไปที่คุณสมบัติพิเศษของนาโนเทคโนโลยีเหล่านี้ น่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่าในการค้นหาอันตรายที่อาจจะเกิดจากนาโนเทคโนโลยี
"จำนวนศักยภาพของอนุภาคนาโนที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นนั้นมีไม่สิ้นสุด ดังนั้นเราจำเป็นต้องหาวิธีจำกัดขอบเขตการทำงานของเรา" มาร์ก ไวส์เนอร์ (Mark Wiesner) ศาสตราจารย์วิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยดุค และผู้อำนวยการศูนย์การประยุกต์ใช้นาโนเทคโนโลยีเพื่อส่งแวดล้อม กล่าวถึงงานวิจัยของเขาและทีมที่เผยแพร่ลงวารสารเนเจอร์นาโนเทคโนโลยี
ไวส์เนอร์กล่าวว่า อนุภาคขนาดเล็กที่สุดซึ่งกว้างไม่เกิน 30 นาโนเมตรนั้น ดูคล้ายมีคุณสมบัติเฉพาะที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงอันตรายได้ โดยอนุภาคที่เล็กกว่า 30 นาโนเมตรนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายภายในโครงสร้างผลึก ซึ่งเสริมให้พื้นผิวของอะตอมทำอันตรกริยาต่อสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้นด้วย และอนุภาคนาโนบางตัวก็ทำปฏิกิริยากับสารเคมีในสิ่งแวดล้อมได้ดีขึ้น และยังรบกวนกิจกรรมปกติของเซลล์ด้วย
"ขณะมีรายงานความเป็นพิษของอนุภาคนาโนยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อขนาดอนุภาคเล็กลง แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าการทำปฏิกิริยาได้ดีขึ้นนี้ทำอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม หรือมีผลต่อความปลอดภัยของมนุษย์ การนิยามความหมายของนาโนเทคโนโลยีที่ดีกว่านี้มีความสำคัญต่อทีมที่จะประเมินภัยจากอนุภาคนาโนเหล่านั้น เราจำเป็นต้องพูดภาษาเดียวกัน เมื่อจะใช้คุณสมบัติอันเป็นหนึ่งเดียวของวัสดุนวัตกรรมเหล่านี้" ไวส์เนอร์กล่าว
เมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่ผ่านมาสภาวิจัยแห่งสหรัฐฯ ได้พบช่องว่างอันสำคัญในแผนของรัฐที่จะประเมินว่านาโนเทคโนโลยีมีความเสี่ยง และเรียกร้องให้จัดทำแผนระดับชาติที่มีประสิทธิผลเพื่อจำแนกและจัดการความเสี่ยงจากนาโนเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้รอยเตอร์รายงานด้วยว่า ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์นาโนเทคโนโลยีกว่า 600 รายการ โดยส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม และนักวิจัยหลายคนทำวิจัยในลักษณะที่นำวัสดุนาโนเหล่านี้ไปใช้เพื่อการบำบัดทางการแพทย์ การเติมแต่งอาหาร และงานด้านอิเล็กทรอนิกส์