นักวิจัยนาโนเทค พัฒนาสูตรผลิตนาโนไลโปโซม ใช้ผสมเครื่องสำอาง ช่วยกักเก็บสารสำคัญให้คงตัวอยู่นานขึ้น ซึมซาบเข้าสู่เซลล์ได้มากกว่าเดิม และมีฤทธิ์เพิ่มขึ้น 2 เท่า กระตุ้นเซลล์ผิวสร้างคอลลาเจนได้ดีกว่าเก่า หวังยกระดับเครื่องสำอางสูตรสมุนไพรไทยให้แข่งขันได้ในโลกธุรกิจความงาม
ดร.อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย นักวิจัย ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ศึกษาวิจัยพัฒนาการใช้นาโนเทคโนโลยีในการกักเก็บสารสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมยา โดยได้เปิดเผยในการสัมมนา "นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ในอุตสาหกรรมยาและสมุนไพร" ว่าในขณะนี้กำลังทดลองพัฒนาสูตรไลโปโซมสำหรับใช้ในเครื่องสำอาง
นักวิจัยนาโนเทคกล่าวว่า การใช้นาโนเทคโนโลยีช่วยในการนำส่งยาคือทำให้ยามีขนาดเล็กลง มีประสิทธิภาพในการละลายสูงขึ้น มีความคงตัวมากขึ้น และทำให้ร่างกายดูดซึมได้มากขึ้น อีกทั้งยังสามารถพัฒนาตัวนำส่งยาให้เพิ่มความจำเพาะของยาในการรักษาโรคได้ตรงเป้าหมายมากขึ้นด้วย
ในการศึกษาวิจัยเทคโนโลยีดังกล่าว ดร.อุรชา ได้พัฒนาสูตรไลโปโซมบรรจุสารสกัดจากบัวบกสำหรับใช้ในเครื่องสำอาง เพื่อให้ยืดอายุการกักเก็บสารสำคัญไว้ได้นาน และแพร่เข้าสู่เซลล์ผิวได้ดียิ่งกว่าเดิม ซึ่งสารสกัดบัวบกนั้นมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยต้านอนุมูลอิสระ
ดร.อุรชา อธิบายว่า หากผสมสารสกัดใบบัวบกในเครื่องสำอางโดยตรงจะทำให้เสื่อมสลายง่ายภายในไม่กี่สัปดาห์ เพราะสารดังกล่าวไม่ค่อยมีความคงตัว จึงต้องกักเก็บไว้ภายในไลโปโซมอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งไลโปโซมเป็นสารชนิดฟอสโฟลิปิด (phospholipid) ที่นิยมใช้กักเก็บสารสำคัญในเครื่องสำอาง ทว่าก็ยังมีความคงตัวไม่สูงมากนัก จึงได้พัฒนาสูตรไลโปโซมสำหรับเครื่องสำอางขึ้นใหม่โดยการเติมสารลดแรงตึงผิวพวกกลูโคไซด์ (glucoside) เพิ่มเข้าไป และทำให้ไลโปโซมมีขนาดเล็กลงจาก 400-500 นาโนเมตร เหลือเพียง 150 นาโนเมตร
ผลการวิจัยพบว่าไลโปโซมที่เติมสารลดแรงตึงผิวเข้าไป สามารถกักเก็บสารสกัดบัวบกได้มากขึ้น 40% และกักเก็บไว้ได้นานกว่า 30 วัน โดยที่สารสำคัญยังไม่เสื่อมสลายไป และเมื่อนำไปทดสอบกับเซลล์ที่เพาะเลี้ยงในห้องทดลอง ปรากฏว่าไม่พบความเป็นพิษต่อเซลล์ และยังพบว่าสารสกัดบัวบกสามารถแพร่ผ่านเข้าสู่เซลล์ได้มากขึ้นกว่าเดิม และช่วยกระตุ้นเซลล์ให้สร้างคอลลาเจนได้ดีขึ้น โดยพบว่าสารสกัดบัวบกออกฤทธิ์เพิ่มมากขึ้น 1-2 เท่า ในปริมาณเท่าเดิม
ทั้งนี้ นักวิจัยได้จดอนุสิทธิบัตรนวัตกรรมดังกล่าวไว้แล้ว และอยู่ระหว่างรอถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ภาคเอกชนเพื่อนำไปใช้ในเชิงพาณิชน์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสมุนไพรไทยให้สูงขึ้นและสามารถแข่งขันได้ในตลาด