"โฟนอิน" กำลังฮิต "โอบามา" ขอบ้าง ต่อสายถึงสถานีอวกาศ ทักทายเหล่าลูกเรือดิสคัฟเวอรี ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ และข้อกังขาต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตบนอวกาศ พร้อมให้นักเรียนได้ช่วยยิงคำถามข้องใจ
ประธานาธิบดีบารัก โอบามา (Barack Obama) แห่งสหรัฐอเมริกา ยกหูโทรศัพท์สนทนากับนักบินอวกาศผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ทางไกล ที่ปลายทางสถานีอวกาศนานาชาติ (ไอเอสเอส) ซึ่งกำลังโคจรรอบโลก โดยใช้เวลาสนทนากับนักบิน 10 นายอยู่นานถึง 30 นาที พร้อมทั้งยังเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนจากวอชิงตัน ดีซี รอบๆ ทำเนียบขาวได้เข้าร่วมด้วย
แม้จะเป็นถึงประธานาธิบดี แต่โอบามาก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ชีวิตบนอวกาศเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การกินอาหาร และการแต่งกาย
"ผมรู้ว่า พวกคุณเดินทางด้วยความเร็ว 17,000 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่พวกคุณสามารถโทรศัพท์คุยกับโลกเราได้" โอบามาทักทายเหล่านักบิน
ด้านไมเคิล ฟิงเค (Michael Fincke) ผู้บังคับการไอเอสเอส ตอบโอบามาว่า พวกเขาโคจรรอบโลกด้วยเวลาเพียง 90 นาที ทำให้ทุกๆ วันจะได้เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นและตก อย่างละ 16 ครั้ง
นอกจากนี้ การที่นักบินอวกาศได้ออกไปเดินอวกาศ (space walk) เพื่อติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ให้แก่สถานีอวกาศนั้น ก็ทำให้โอบามากล่าวออกไปว่า ช่างเป็นภารกิจที่น่าตื่นเต้นเสียนี่กระไร ขณะเดียวกันที่ทำเนียบขาวก็ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้เช่นกัน
"ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่า พวกคุณเด้งไปมาเล็กน้อย ระหว่างที่เราคุยกัน" โอบามาแซว พร้อมเสียงหัวเราะเต็มห้องรูสเวลต์ (Roosevelt Room) อันใช้เป็นที่เชื่อมต่อสัญญาณสู่อวกาศในทำเนียบขาว โดยนอกจากจะมีนักเรียนแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ นักกฎหมาย อดีตนักบินร่วมวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ครั้งนี้ด้วย
"พวกคุณต้องหาอะไรมัด เพื่อดึงตัวลงมาไหม หรือคุณเคยลอยออกไป แบบควบคุมไม่ได้บ้างหรือเปล่า" ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ ถามนักบินบนอวกาศ
"พวกเราเพียงแค่ ใช้นิ้วหัวแม่เท้าหนีบไว้ตามราวจับในตัวยาน แต่ก็มีบางทีที่ลอยขึ้นไปโดยไม่ทันตั้งตัว" ฟิงเคอธิบายให้โอบามาหายฉงน
ขณะเดียวกัน เหล่านักเรียนก็สงสัยเช่นกันว่า จะต้องเรียนทางด้านไหนจึงจะได้เป็นนักบินอวกาศ และได้ออกไปท่องอวกาศ ซึ่งคุณลุงคุณอานักบินก็บอกว่า วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เป็นส่วนสำคัญ แต่ในการท่องอวกาศก็จำเป็นต้องมีแพทย์ นักภูมิศาสตร์ วิศวกร และนักฟิสิกส์ ทุกคนรวมตัวกันอยู่บนยานแห่งนี้
นอกจากนี้ เด็กๆ ยังอยากรู้เรื่องสิ่งมีชีวิตนอกโลก รวมถึงดวงดาวในอวกาศว่ามีทั้งหมดกี่ดวง อีกทั้งลุงๆ ป้าๆ นักบินอวกาศกินอะไรเป็นอาหาร ซึ่งเหล่านักบินก็ได้เล่าถึงความสวยงาม เมื่อมองเห็นโลกสีน้ำเงินจากอวกาศอันมืดมิด ส่วนดวงดาวนั้นคงนับได้ไม่หมด แต่ก็สวยงามอย่างมาก
ระหว่างนั้น โอบามาก็นึกอยากสนุก จึงถามซานดร้า แมกนัส (Sandra Magnus) วิศวกรประจำไอเอสเอสที่หัวฟูฟ่องลอยตั้งขึ้นว่า ผมของใครที่ลอยอยู่บนหัวของเธอ พร้อมทั้งแซวว่า เคยพยายามจะตัดผมออก ระหว่างที่อยู่บนอวกาศไหม มันจะน่าสนุกไหมถ้าจะตัดผมในสภาพไร้น้ำหนัก
แมกนัสบอกว่า มันจะดีแน่ถ้าเธอไว้ผมสั้น แต่เธอชอบผมยาวมากกว่า ซึ่งทำให้โอบามาล้อว่า "นี่คือถ้อยแถลงของผู้นำแฟชั่นตัวจริง"
นอกจากนี้ ท่านประธานาธิบดีผิวสียังมีข้อสงสัยอื่นๆ อีก เกี่ยวกับความเข้มแข็งของร่างกาย และกฎระเบียบการใช้ชีวิตบนอวกาศ ตามที่เคยชมภาพยนตร์เรื่อง "The Right Stuff" ในปี 1983 ที่อ้างอิงจากเมอคิวรี (Mercury) ซึ่งเป็นการส่งมนุษย์ไปอวกาศโครงการแรกของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี เครื่องวิ่งออกกำลังกายของดิสคัฟเวอรีเพิ่งประสบปัญหาไปหมาดๆ ทำให้ต้องใช้เชือกกระโดดออกกำลังกายไปก่อน และเมื่อเชื่อมต่อกับไอเอสเอสแล้ว นักบินของดิสคัฟเวอรีก็ได้มีโอกาสออกกำลังอย่างเต็มรูปแบบ
ดิสคัฟเวอรีออกเดินทางจากโลกมาตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมด้วยนักบินอวกาศ 7 นาย เพื่อติดตั้งส่วนสุดท้ายของสถานีอวกาศ ที่นานาชาติร่วมลงขันกันมานานนับทศวรรษ และจะกลับสู่โลกในเวลา 00.24 น.ของวันที่ 29 มี.ค.52 (ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งโคอิชิ วาตากะ (Koichi Wakata) ลูกเรือดิสคัฟเวอรี่จะร่วมประจำการบนสถานีอวกาศถึงเดือนมิ.ย. และเขาจะกลายเป็นนักบินอวกาศคนแรกของญี่ปุ่น ที่มีชั่วโมงบนอวกาศยาวนานที่สุด.