กระทรวงวิทย์ฯ ชูมาตรฐานโลก PSP ใช้เป็นอาวุธหลักปักธงซอฟต์แวร์ไทยสู่เวทีโลก หนุนซอฟต์แวร์พาร์คเร่งสร้างคนไทยให้ได้มาตรฐานนักพัฒนาซอฟต์แวร์ระดับโลก ตั้งเป้าปีแรกให้ได้ 100 คน หวังสร้างภาพลักษณ์ซอฟต์แวร์ไทยในตลาดโลก
ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (ทีเอ็มซี) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวทช.) แถลงข่าว "ปักธงซอฟต์แวร์ไทยสู่ตลาดโลกด้วย PSP" ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เมื่อวันที่ 18 มี.ค.52 โดยมี ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วท. ร่วมแถลงข่าว พร้อมด้วยผู้บริหารของเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (ซอฟต์แวร์พาร์ค) ซึ่งมีสื่อมวลชนด้านวิทยาศาสตร์และไอทีร่วมงานมากมาย
ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ในการสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจซอฟต์แวร์ของประเทศด้วยการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และมุ่งเน้นการส่งเสริมการใช้ไอทีภายในประเทศให้สูงขึ้น ปัญหาในเรื่องการขาดแคลนบุคลากร ทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณนับว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก แต่ก็ถือเป็นโอกาสสำคัญของไทยที่จะสามารถปักธงซอฟต์แวร์ไทยสู่ตลาดโลกได้
โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ชูเรื่องการสร้างคนด้วยมาตรฐานพีเอสพี (Personal Software Process: PSP) ซึ่งเป็นมาตรฐานโลก ที่จะนำมาเป็นยุทธศาสตร์ทางด้านซอฟต์แวร์มาสร้างรายได้ให้กับประเทศได้ หลังจากนั้นจะมุ่งเน้นผลักดันและส่งเสริมให้เกิดการรับงานจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น และการลงทุนทางด้านธุรกิจซอฟต์แวร์เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศในระยะยาว
ด้าน ศ.ดร.ชัชนาถ เทพธรานนท์ ผู้อำนวยการทีเอ็มซี เปิดเผยทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ว่าการพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพ จะต้องทำควบคู่ไปกับการพัฒนาคน ซึ่งการดำเนินโครงการเสริมสร้างศักยภาพนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทยสู่มาตรฐานสากล ก็เพื่อสร้างนักพัฒนาซอฟต์แวร์ให้มีวินัย ทักษะ และความรู้ในด้านกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพในระดับบุคคล หรือ PSP ซึ่งเป็นมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นโดยสถาบันเอสอีไอ (Software Engineering Institute: SEI) สหรัฐฯ และได้รับการยอมรับทั่วโลก
ศ.ดร.ชัชนาถ เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ได้รับประกาศนีบัตร PSP เพียง 333 คน ขณะที่ผู้ที่ผ่านการสอบเป็นผู้สอน PSP (Authorized PSP Instructor) ทั่วโลกมีไม่เกิน 50 คน ซึ่งเป็นคนไทย 1 คน คือ ดร.สุรเดช จิตประไพกุลศาล อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
ส่วนนายเฉลิมพล ตู้จินดา รองผู้อำนวยการซอฟต์แวร์พาร์ค ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ว่า การดำเนินงานเสริมสร้างศักยภาพของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ จะทำการเปิดหลักสูตรอบรมการพัฒนาตนเอง ในการทำงานด้านพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทย จำนวน 80 ชั่วโมง โดยมี ดร.สุรเดช เป็นผู้สอน
ทั้งนี้ ผู้ที่จะเข้ารับการอบรมนั้นควรจะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์มากกว่า 2 ปีขึ้นไป เพื่อให้สามารถนำสิ่งที่ได้รับจากการอบรมไปประยุกต์ใช้งานต่อได้ทันที รวมทั้งสามารถขยายองค์ความรู้สู่หน่วยงานของตนเองได้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายในการอบรม 50,000 บาทต่อคน ซึ่งซอฟต์แวร์พาร์คจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่งสำหรับโครงการในปีแรก
ผู้ที่เข้ารับการอบรมนั้นจะต้องสอบวัดผล หากสอบผ่านจะได้รับประกาศนียบัตรที่รับรองโดย SEI ซึ่งค่าใช้จ่ายในการสอบ 10,000 บาทต่อคน หากผู้ใดสอบผ่าน ทางซอฟต์แวร์พาร์คจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสอบให้
ทั้งนี้ ซอฟต์แวร์พาร์คจะใช้งบประมาณดำเนินงานในปีแรกรวม 8 ล้านบาท โดยตั้งเป้าจะสร้างนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ได้รับการรับรอง PSP จำนวน 100 คน และในปีถัดไปจะสร้างผู้ที่ผ่านการสอบมาตรฐาน PSP ให้เป็นผู้สอน PSP ที่ได้รับการรับรองจาก SEI ให้ได้อย่างน้อย 20 คน ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้มากขึ้นติดอันดับต้นๆ ของโลก
รอง ผอ.ซอฟต์แวร์พาร์ค บอกอีกว่า การสร้างนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทยที่ได้รับการรับรอง PSP ให้เพิ่มมากขึ้น จะเท่ากับเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับบุคลากรผู้นั้นประมาณ 20% ซึ่งส่งผลดีต่อหน่วยงาน และประเทศชาติ โดยจะช่วยให้การสร้างคุณภาพซอฟต์แวร์ให้มีมาตรฐานเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ต้นทุนในการพัฒนาลดลง ทำให้เกิดแรงจูงใจให้ภาคอุตสาหกรรมหันมาใช้ซอฟต์แวร์ไทยในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความน่าเชื่อถือของซอฟต์แวร์ไทยในตลาดโลกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทซอฟต์แวร์ใดสนใจส่งบุคลากรเข้ารับการอบรมในโครงการเสริมสร้างศักยภาพนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทยสู่มาตรฐานสากล สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.swpark.or.th โดยจะเริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 52 เป็นต้นไปจนถึงสิ้นเดือน และจะเริ่มเปิดอบรมได้ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 52 เป็นต้นไป.
