xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดหลักทรัพย์ฯจับมือ“TMC" หนุนเทคโนโลยีไทยสู่ตลาดทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทีเอ็มซี ร่วมมือตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมวีซี เชื่อมแหล่งทุนหนุนผู้ประกอบการไฮเทคของไทย สร้างแหล่งทุนใหม่สู่ผู้ประกอบการทั้งระบบ ต้นยันปลายน้ำ ประเดิมงาน "Innobiz" หวังเกิดเจรจารอบแรกกว่า 200 ล้านบาท พร้อมเป็นสะพานเชื่อมสองกลุ่มแบบต่อเนื่อง

นายชัชนาถ เทพธรานนท์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ผู้อำนวยการ ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี หรือ TMC เปิดเผยว่า จากที่ผ่านมา TMC ประเมินว่าอุตสาหกรรมทางด้านเทคโนโลยีของไทยขณะนี้มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของบริษัทที่เริ่มต้นใหม่ก็มีโครงการดีๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก ขณะที่บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่แล้วก็ต้องการเงินทุนส่วนใหม่เข้ามาขยายกิจการให้เติบโตมากขึ้น ดังนั้น จำเป็นต้องมีแหล่งทุนเข้ามาสนับสนุนมากขึ้น แต่ที่ผ่านมาการเข้าถึงแหล่งทุนในรูปแบบต่างๆ อาจมีข้อจำกัด ดังนั้น ทาง TMC จึงวางนโยบายใหม่ที่ต้องการเน้นเชิงรุก และเป็นสะพานเชื่อมเพื่อหาแหล่งทุนหลากหลายรูปแบบให้กับวิสาหกิจทางด้านไฮเทคของไทยเพิ่มมากขึ้น

โดยล่าสุดทาง TMC ได้ร่วมกับศูนย์พัฒนาธุรกิจตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และสมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน (TVCA) จัดงาน Innobiz Matching Day เพื่อรวบรวมกลุ่มบริษัทไฮเทคของไทยที่ต้องการเงินทุนสนับสนุนประมาณ 15 ราย เพื่อมาเจรจากับแหล่งทุนจากการประสานงานของทุกฝ่าย จำนวน 25 ราย โดยคิดเป็นเงินทุนที่ต้องการสนับสนุนในรอบนี้ประมาณ 260 ล้านบาท ทั้งสองฝ่ายจะได้ตั้งโต๊ะเจรจา โดยหน่วยงานทั้งสามจะทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและอบรมผู้ประกอบการไฮเทคก่อนที่จะนำเสนอบริษัทต่อแหล่งทุน เนื้อหาในการให้คำปรึกษาประกอบด้วย เทคนิคการนำเสนอเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากแหล่งทุน วิธีการจัดระบบการเงินภายในเพื่อให้ได้รับความสนใจ และเทคนิคอื่นๆ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจากันได้อย่างราบรื่น

ด้านนายชัยยุทธ์ ชำนาญเลิศกิจ รองกรรมการผู้อำนวยการ ศูนย์พัฒนาธุรกิจตลาดทุน สถาบันกองทุนเพื่อพัฒนาตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งของตลาดทุน คือ ธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital: VC) ซึ่งมีส่วนในการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้เข้มแข็งและเติบโตมีศักยภาพในการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มจำนวนบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคต ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือที่เกิดจากหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ในการสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพมีโอกาสนำเสนอโครงการให้กับนักลงทุนที่มีความสนใจ และสามารถนำไปสู่การร่วมลงทุนในกิจการดังกล่าว

โดยการดำเนินงานในครั้งนี้ สอดคล้องกับพันธกิจหลักของศูนย์พัฒนาธุรกิจตลาดทุน สถาบันกองทุนเพื่อพัฒนาตลาดทุน ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจให้ผู้ประกอบการเห็นโอกาสในการใช้ตลาดทุนเป็นแหล่งระดมทุนเพื่อต่อยอดในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตลอดจนการเชื่อมโยงพันธมิตรที่เกี่ยวข้องร่วมกันขับเคลื่อนตลาดทุนไทยให้มีความแข็งแกร่งสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล

โดยแผนการขยายแหล่งทุนนั้น TMC มุ่งเป้าหมายตั้งแต่การครอบคลุมลักษณะการสนับสนุนทุกรูปแบบ ตั้งแต่ Matching Grants/Seed Money หรือเงินทุนตั้งต้นกิจการ, หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ในการสนับสนุนเงินทุนในการดำเนินกิจการ, เงินร่วมลงทุนที่มาจากทั้งภาครัฐและเอกชน หรือ Government Sponsored & VCs, เงินกู้ในรูปแบบต่างๆ (Loans) และเงินทุนจากตลาดหลัก

นายโสภณ บุณยรัตพันธุ์ กรรมการสมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจร่วมลงทุน (TVCA) เปิดเผยว่า แนวโน้มการร่วมลงทุนในระดับโลกคาดการณ์จากการสำรวจที่ผ่านมาพบว่า วงเงินลงทุนของกลุ่ม Venture Capital หรือวีซีมีแนวโน้มลดลง ส่วนใหญ่ของการลงทุนจะพุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นหลัก โดยอันดับหนึ่งนั้นอยู่ที่กลุ่มเทคโนโลยีสะอาด หรือ Clean Technology, เทคโนโลยีชีวภาพ หรือ Bio Technology โดยมีกลุ่มซอฟต์แวร์อยู่ในอันดับ 5 โดยเม็ดเงินส่วนใหญ่ยังทุ่มเข้ามาในทวีปเอเชียเป็นอันดับต้นๆ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเมืองไทยยังไม่ใช่เป็นเป้าหมายหลัก เนื่องจากการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ยังไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก และการติดต่อระหว่างวีซีกับผู้คิดค้นเทคโนโลยีใหม่จะอยู่ในลักษณะการติดต่อโดยตรง

โดยความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้เหล่าวีซีทั้งในไทยและต่างประเทศที่กำลังหาทางลงทุนกับผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น เนื่องเพราะทาง TMC จะมีเครือข่ายและประวัติของผู้ประกอบการที่ดีอยู่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการลงทุนของวีซีที่ต้องการลงทุนในบริษัทที่น่าจะประสบความสำเร็จแล้วนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคต เพื่อทำให้การลงทุนได้รับผลตอบแทนกลับมาได้ การที่มีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาสนับสนุนทั้งกระบวนการจะทำให้เกิดความโปร่งใส และลดความเสี่ยงในการลงทุนไปอย่างมาก

ในส่วนของเม็ดเงินที่พร้อมจะลงทุนในครั้งนี้แม้ในปัจจุบันยังไม่มีความแน่ชัด แต่คาดว่าหลังจากที่ทุกฝ่ายได้สร้างเครือข่ายระหว่างกันแล้ว เท่ากับเป็นการเพิ่มโอกาสให้กลุ่มวีซีสามารถนำไปประเมิน วางแผน และกำหนดจำนวนเงินที่จะลงทุนในอนาคตได้
กำลังโหลดความคิดเห็น