นักวิจัยสหราชอาณาจักรพบหลักฐาน "ฝนดาวตก" ห่าใหญ่ที่ตกบนโลกเมื่อ 470 ล้านปีก่อน บนชายหาดของเมืองในสก็อตแลนด์ เชื่อมโยงกับหลักฐานอื่นๆ ที่พบทั่วโลก เชื่อเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้เกิดความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำในช่วงนั้น
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอาเบอร์ดีน (University of Aberdeen) สหราชอาณาจักร ได้พบเศษซากของดาวตก ที่เล็กยิ่งกว่าเม็ดทรายในก้อนหิน ที่บนบริเวณชายหาดของเคาน์ตีซูเธอร์แลนด์ในสก็อตแลนด์ และการค้นพบดังกล่าวบีบีซีนิวส์ยังรายงานด้วยว่า มีความเชื่อมโยงกับงานวิจัยอื่นๆ ในจีน สหรัฐฯ และออสเตรเลีย และนักวิทยาศาสตร์ยังเชื่อด้วยว่า ปรากฏการณ์ฝนดาวตกครั้งใหญ่ซึ่งเป็นผลจากการชนกันของวัตถุในอวกาศนั้น กระตุ้นให้เกิดปรากฏการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิด้วย
ทีมวิจัยระบุว่า สิ่งที่พบครั้งนี้เป็นการยืนยันการไตร่ตรองทางวิทยาศาสตร์ก่อนหน้านี้ ที่ชี้ว่าฝนดาวตกครั้งนั้นเป็นฝนดาวตกครั้งใหญ่ที่ตกกระจายไปทั่วโลก โดยเป็นผลเนื่องจาก "การชนกันครั้งใหญ่" ในแถบดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี
การศึกษาเศษซากของดาวตกครั้งนี้นำโดย ศ.จอห์น พาร์เนลล์ (Pro.John Parnell) จากคณะธรณีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยอาเบอร์ดีน และได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยลงวารสารเนเจอร์จีโอไซน์ (Nature Geoscience) ซึ่งเขาได้พบว่าดาวตกที่พบในซูเธอร์แลนด์นั้นเชื่อมโยงกับหลักฐานที่พบในส่วนอื่นๆ ของโลก
ศ.พาร์เนลล์กล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์หาความเชื่อมโยงระหว่างฝนดาวตกและการเปลี่ยนแปลงของสปีชีส์ในใต้น้ำที่เกิดขึ้นในช่วงเวลากับที่เกิดฝนดาวตก
"เราทดสอบชิ้นส่วนของก้อนหินโดยละลายในน้ำกรด ซึ่งช่วยให้เราตรวจพบชิ้นส่วนฝนดาวตกที่เล็กเกินกว่าจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า การค้นพบนี้ยืนยันว่าเมื่อ 470 ล้านปีก่อน เกิดฝนดาวตกครั้งใหญ่ตกกระจายไปทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งที่สก็อตแลนด์ด้วย นับเป็นครั้งแรกที่เราได้พิสูจน์เหตุการณ์ใหญ่ระดับช้าง และพิสูจน์ว่าลักษณะภูมิศาสตร์ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนั้นอย่างไรบ้าง" ศ.พาร์เนลล์กล่าว
ขณะเดียวกันนักวิทยาสาสตร์ที่ร่วมศึกษาในครั้งนี้ด้วยได้เสริมว่า งานวิจัยของพวกเขานั้นชี้ให้เห็นว่า อุกกาบาตที่ตกลงมานั้นเป็นสาเหตุของแผ่นดินไหว และการเกิดคลื่นทะเลในรอยต่อของหลายๆ ทวีป โดยข้อมูลที่บันทึกไว้แสดงให้เห็นว่า สิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่เกิดขึ้นมาบนโลกในช่วงนั้นมีความหมากหลายมากขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว แต่หลักฐานเชื่อมโยงอื่นๆ ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่หลักฐานล่าสุดที่ค้นพบก็มีศักยภาพมากพอที่จะชี้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร.