กลั่นฉี่เป็นน้ำดื่มลดน้ำหนักบรรทุกสถานีอวกาศ เพิ่มลูกเรือได้เท่าตัว

นาซาทดสอบระบบกลั่นฉี่เป็นน้ำดื่ม ลดการลำเลียงน้ำสู่สถานีอวกาศ ช่วยเพิ่มจำนวนนักบินอวกาศประจำการณ์ได้เท่าตัว คาดเริ่มใช้งานได้กลางปีหน้า พร้อมขยายห้องนอนจาก 3 เป็น 5 และติดตั้งตู้เย็นให้ลูกเรือเก็บอาหาร

ปลายสัปดาห์นี้ ลูกเรือของกระสวยอวกาศเอนเดฟเวอร์ (Endeavour) จะลำเลียงเครื่องเรือนสุดหรู ขึ้นไปตกแต่งสถานีอวกาศนานาชาติ ซึ่งจะเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ที่จะแปลงสถานีอวกาศ 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำพร้อมห้องครัว ไปสู่สถานีอวกาศ 5 ห้องนอน 2 ห้องน้ำและ 2 ห้องครัว พร้อมของประดับประดาอื่นๆ ตามรายงานของเอพี

เพื่อความละเอียดรอบคอบ นักบินอวกาศจะติดตั้ง "ส้วมพิเศษ" และเครื่องนอนที่ติดตั้งเครื่องควบคุมอุณหภูมิ กับเครื่องออกกำลังกายที่สามารถทำงานซ้ำๆ ได้ 30 ครั้ง และพวกเขายังจะติดตั้งชิ้นส่วนของระบบจัดการสิ่งแวดล้อมแบบปิดชิ้นแรก เข้าในวงโคจร ซึ่งระบบดังกล่าวจะหมุนเวียนของเสียเกือบทั้งหมด และตอนนี้พลังงานบนสถานีอวกาศก็ได้จากแผงเซลล์แสงอาทิตย์อยู่แล้ว

สิ่งสำคัญที่สุด คือระบบหมุนเวียนน้ำ ซึ่งจะเปลี่ยนน้ำปัสสาวะแล้วกลั่นให้เป็นน้ำดื่มบริสุทธิ์ โดยระบบนี้จำเป็นที่สุดหากนาซาต้องการเพิ่มจำนวนลูกเรือบนสถานีอวกาศจาก 3 เป็น 6 คน ซึ่งการเพิ่มกำลังคนดังกล่าวจะเริ่มขึ้นในกลางปีหน้า

คริสโตเฟอร์ เฟอร์กูสัน (Christopher Ferguson) ผู้บัญชาการกระสวยอวกาศเอนเดฟเวอร์ เชื่อว่าระบบจัดการน้ำคือเครื่องมือสำคัญที่สุดที่จะลำเลียงขึ้นไป ซึ่งประโยชน์ที่ได้จะมากกว่าเป็นแค่สถานีอวกาศ และบอกว่าให้ลองจินตนาการถึงการสำรวจอวกาศที่ลูกเรือเป็นอิสระจากการลำเลียงน้ำปริมาณมากๆ

"ระบบเขาคือของจริงและไม่มีใครจะมาเทียบ ผมขอท้าให้คุณหาระบบอื่นๆ บนโลกนี้มาเปลี่ยนปัสสาวะไปเป็นน้ำดื่ม มันเป็นแนวคิดที่น่าขยะแขยงซึ่งไม่มีใครที่จะเสนอขึ้นมา แต่วันนั้นก็ต้องมาถึงสักวัน ที่ๆ เราจะไปจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีนี้ และนี่เป็นเพียงวิธีอันยิ่งใหญ่ที่จะเริ่มต้น" เฟอร์กูสันกล่าว และเผยว่าหากได้รับตัวอย่างน้ำดื่มที่หมุนเวียนจากปัสสาวะเขาก็จะลอง

ด้านโดนัลด์ เพ็ตทิต (Donald Pettit) อดีตลูกเรือสถานีอวกาศซึ่งจะช่วยติดตั้งระบบหมุนเวียนน้ำดื่มนี้ มองว่าเครื่องจักรดังกล่าว เป็นเหมือนเครื่องต้มกาแฟขนาดใหญ่เท่านั้น โดยเครื่องเดียวกันนี้ที่ต้มกาแฟของเมื่อวาน และเปลี่ยนให้เป็นกาแฟของอีกวัน

สำหรับกาแฟร้อนไม่ใช้ปัญหาในวงโคจร หากแต่เครื่องดื่มเย็นๆ ต่างหากที่หายาก เพราะห้องครัวบนสถานีอวกาศให้บริการเฉพาะเครื่องร้อนหรืออุ่นๆ แต่ไม่มีเครื่องดื่มเย็นๆ

"ตู้เย็น" ที่จะลำเลียงขึ้นไปติดตั้งบนสถานีอวกาศจึงเป็นสิ่งที่สร้างความตื่นเต้นให้กับลูกเรืออย่างมาก โดยก่อนหน้านี้ ลูกเรือต้องรีบจัดการของสดๆ อาทิ แอปเปิลหรือหัวหอมที่ลำเลียงขึ้นไปด้วยยานอวกาศของรัสเซียหรือนาซาโดยไว อีกทั้งตู้เย็นที่เคยมีนั้นจำกัดไว้เฉพาะการทดลองทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น

"ดูเหมือนเรื่องธรรมดาๆ แต่หกเดือนที่ต้องอยู่กับน้ำส้มอุ่นๆ ก็ทำให้คุณห่อเหี่ยวได้เหมือนกัน" ซานดรา แมกนัส (Sandra Magnus) นักบินอวกาศ ซึ่งจะเดินทางไปกับกระสวยเอนเดฟเวอร์และจะอยู่บนสถานอวกาศเป็นเวลา 3 เดือนครึ่งกล่าว

สำหรับระบบหมุนเวียนน้ำนี้ จะยังไม่ถูกใช้งานจนกว่าฤดูใบไม้ผลิหน้าจะมาถึง ทั้งนี้เพื่อตรวจสอบความพร้อมทุกๆ อย่างและทำให้แน่ใจได้ว่าน้ำที่หมุนเวียนมานั้นดื่มได้จริงๆ แต่ระหว่างนี้ลูกเรือของสถานีอวกาศยังต้องใช้น้ำที่กระสวยอวกาศและยานอวกาศไร้คนขับลำเลียงขึ้นไปให้ก่อน

จากนั้นก่อนที่เอนเดฟเวอร์จะพละจากสถานีอวกาศ ปัสสาวะของลูกเรือที่สะสมไว้จะถุกปล่อยเข้าระบบกลั่น จากนั้นตัวอย่างของน้ำที่ผ่านการหมุนเวียนจะถูกส่งกลับมายังโลกเพื่อทำการวิเคราะห์

ตัวอย่างเพิ่มเติมจะส่งกลับขึ้นไปยังสถานีอวกาศอีกครั้งโดยกระสวยอวกาศที่มีกำหนดส่งในเดือน ก.พ.ปีหน้า เพื่อทำให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และหากทุกอย่างไปได้สวย ทางสถานีอวกาศ จะเปิดให้ลูกเรือประจำการแบบเต็มเวลาได้เป็น 6 คน ซึ่งคาดว่าน่าจะเริ่มได้ในเดือน พ.ค.หรือ มิ.ย.

การเพิ่มจำนวนลูกเรือประจำการนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อนักบินอวกาศแคนาดา ยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งตั้งหน้าตั้งตาคอยมาหลายปีแล้ว ที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่บนสถานีอวกาศ

“ลองคิดดูว่า เรามีสถานีอวกาศที่โคจรอยู่ ซึ่งเราร่วมลงทุนด้วย แต่ไม่มีลูกเรือของสหรัฐฯ ขึ้นไปบนนั้นเลย นั่นคือสิ่งที่หุ้นส่วนเรากำลังเป็นอยู่ในตอนนี้” ไมค์ ซัฟเฟรดินี (Mike Suffredini) ผู้จัดการโครงการสถานีอวกาศของนาซากล่าว