xs
xsm
sm
md
lg

"ดร.มรกต" ลุยงานวิทย์เพื่อสังคมหลังพ้นเก้าอี้ ผอ.ไบโอเทค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศ.ดร.มรกต ตันติเจริญ (ภาพจาก สวทช.)
กุมบังเหียนไบโอเทคมานานถึง 8 ปีเต็ม บัดนี้ "ดร.มรกต" อดีตผู้อำนวยการของศูนย์พันธุวิศวกรรมฯ ได้หมดวาระลงด้วยวัยเกษียณพอดี แต่อดีต ผอ.คนเก่ง ก็ยังไม่ยอมเกษียณตัวเอง ทั้งยังมุ่งหน้าทำงานเพื่อสังคมโดยมีวิทยาศาสตร์และงานวิจัยในองค์กรเป็นเครื่องมือสำคัญ

หลังจากที่ ศ.ดร.มรกต ตันติเจริญ อดีตผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ก้าวพ้นจากตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของไบโอเทคเมื่อวันที่ 15 พ.ค.51 ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ก็เพิ่งได้มีโอกาสพูดคุยกับ ดร.มรกต เป็นครั้งแรกผ่านทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่าแม้จะทำงานมานานจนถึงวัยเกษียรพร้อมกับหมดวาระการดำรงตำแหน่งผอ.ไบโอเทค โดยมี ดร.กัญญวิมว์ กีรติกร มารับตำแหน่งแทนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ ดร.มรกต ก็ยังพร้อมทำงานเพื่อสังคมต่อไปโดยมีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นแผนที่นำทาง

เสียงของ ดร.มรกต ผ่านสัญญาณโทรศัพท์มาถึงหูของผู้จัดการวิทยาศาสตร์นั้นยังคงเต็มไปด้วยความแจ่มใส ไร้แววอ่อนล้าโดยสิ้นเชิง และเป็นเวลาเดียวกับที่อดีต ผอ.ไบโอเทคผู้นี้กำลังเดินทางไปเยี่ยมชมโครงการวิจัยของไบโอเทค ที่ฟาร์มโคนมแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่ง ดร.มรกต บอกว่ากำลังไปตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าของโครงการและพิจารณาว่าสามารถนำงานวิจัยเข้าไปเสริมตรงจุดไหนได้อีกบ้าง เช่น อาหารสัตว์ และการใช้ประโยชน์จากมูลสัตว์ เป็นต้น

ดร.มรกต เผยถึงสิ่งที่ตั้งใจจะทำหลังจากหมดวาระ ผอ.ไบโอเทคว่าจะมุ่งหน้าทำงานทางด้านวิทยาศาสตร์เพื่อสังคม ซึ่งก็เป็นโครงการที่สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวทช.) ที่ไบโอเทคสังกัดอยู่ได้ดำเนินการมาอยู่ก่อนแล้ว แต่อาจทำให้มีความชัดเจนและเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น และตนเองก็มีหน้าที่ในส่วนนี้อยู่แล้วเช่นกัน แต่หลังจากนี้ก็จะทุ่มเทให้กับงานทางด้านนี้อย่างเต็มตัวและเต็มที่ เช่น การสร้างความตระหนักทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, วิทยาศาสตร์ในชนบท, วิทยาศาสตร์เพื่อชุมชน เป็นต้น

"เป็นการนำงานวิจัยไปช่วยเหลือและพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งนำเอาปัญหาต่างๆ ของชุมชนมาวิเคราะห์ เพื่อดูว่าจะแก้ไขด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้อย่างไรบ้าง" ดร.มรกตกล่าว

นอกจากนี้ ดร.มรกต ก็ยังจะช่วยงานวิจัยหรือเป็นที่ปรึกษาให้กับโครงการวิจัยของหน่วยงานในสังกัดด้วย ซึ่งก็จะดูและในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร อาหาร และสิ่งแวดล้อม เป็นหลัก

"ยังมีความสนุกกับการทำงานเหล่านี้อยู่ รู้สึกว่าทำแล้วมีความสุข ที่ผ่านมาก็รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยส่งเสริมประเทศชาติด้วยการนำผลงานวิจัยออกไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นงานที่ทำแล้วเกิดผลดีต่อสังคม ซึ่งก็ได้นำผลงานดีๆ ออกไปสู่ประชาชนแล้วมากมาย" ดร.มรกต กล่าวถึงความรู้สึกของช่วงเวลาที่ได้นั่งเก้าอี้ ผอ.ไบโอเทค ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา

สิ่งที่ ดร.มรกต ตั้งใจและอยากจะทำนอกเหนือจากนี้คือ การเขียนนักสือที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สำหรับเด็ก โดยอยากให้ออกมาเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาวิทยาศาสตร์ที่เด็กๆ อ่านแล้วสนุก เข้าใจง่าย และได้ความรู้ เช่น หนังสือเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งอาจจะไม่บอกว่าคืออะไร แต่จะบอกว่ามีความสำคัญอย่างไร ทำไมจึงต้องสนใจ เป็นต้น

อดีต ผอ.ไบโอเทค มองถึงอนาคตขององค์กรและทิศทางของเทคโนโลยีชีวภาพหลังจากนี้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เทคโนโลยีชีวภาพกำลังขยายตัวและมีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือทวีความรุนแรงมากขึ้นได้ ทั้งในเรื่องของอาหารและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเทคโนโลยีชีวภาพจะช่วยได้มากทีเดียวไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ปรับปรุงพันธุ์พืชให้เหมาะสมในสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป แก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานและวิกฤตการณ์ของภาวะโลกร้อน เหล่านี้เป็นต้น

"เชื่อว่าหากไบโอเทคและเทคโนโลยีชีวภาพได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องก็น่าจะแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ" ดร.มรกตเผยแก่ผู้จัดการออนไลน์

สำหรับนโยบายของไบโอเทคที่ ดร.มรกต ต้องการฝากฝังถึงผอ.คนใหม่นั้น อดีตผอ.กล่าวว่าไม่มีเรื่องอะไรจะฝากฝัง เพราะทาง สวทช.มีนโยบายและทิศทางการบริหารงานที่ชัดเจนอยู่แล้ว และเชื่อมั่นว่า ดร.กัญญวิมว์ จะสามารถดำเนินตามนโยบายขององค์กรได้เป็นอย่างดี

ทีนี้เราก็มาคอยติดตามกันต่อไปว่าอนาคตของไบโอเทคและเทคโนโลยีชีวภาพในไทยภายใต้การบริหารงานของ ดร.กัญญวิมว์ ผอ.คนใหม่ไฟแรงจะเป็นอย่างไรบ้าง และเท่าที่ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ทราบมาบ้างแล้ว ผอ.คนล่าสุดนี้ก็ดูจะเป็นที่ถูกอกถูกใจคนวงในไม่น้อยไปกว่า ผอ.คนก่อนเลย.
กำลังโหลดความคิดเห็น