xs
xsm
sm
md
lg

"ฮอว์กิง" เชื่อชีวิตนอกโลกมีขนาดจิ๋ว-ไร้ดีเอ็นเอ ระวังนำพาโรคสู่มนุษย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สตีเฟน ฮอว์กิง ขณะกำลังบรรยายพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี นาซา ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งมีนักวิทยาศาสตร์ นักศึกษา และผู้สนใจมาร่วมฟังบรรยายกันอย่างหนาตา
เอพี/เอเอฟพี - นักฟิสิกส์คนดังแห่งยุค "สตีเฟน ฮอว์กิง" เปรียบการสำรวจอวกาศเหมือนโคลัมบัสเดินทางหาโลกใหม่ ที่ไม่รู้ว่าจะมีจริงหรือไม่ เชื่อสิ่งมีชีวิตต่างดาวน่าจะมีอยู่จริง แต่เป็นสัตว์ชั้นต่ำขนาดเล็ก แถมอาจเป็นตัวการนำโรคร้ายมาสู่คน ส่วนที่ทรงภูมิปัญญานั้นไม่น่ามีที่ไหนอีกนอกจากโลกของเราแห่งนี้เพียงที่เดียว

สตีเฟน ฮอว์กิง (Stephen Hawlking) สุดยอดนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์แห่งยุควัย 66 ปี ได้รับเกียรติให้มาบรรยายพิเศษเรื่อง "ทำไมเราจึงต้องเดินทางสู่อวกาศ" (Why We Should Go Into Space) เมื่อวันที่ 21 เม.ย.51 (ตามเวลาท้องถิ่น) ณ มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน (George Washington University) กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ หรือนาซา (NASA)

ฮอว์กิงเปรียบเปรยความพยายามสำรวจอวกาศของมนุษยชาติในยุคสมัยนี้ว่า ไม่ต่างไปจากการค้นพบโลกใหม่ (new world) ของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) เมื่อในอดีตเลย

"สถานการณ์ตอนนี้ก็คล้ายกับยุโรปในช่วงก่อนปี พ.ศ. 2035 ที่ผู้คนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าการส่งโคลัมบัสออกไปค้นหาสิ่งที่ไม่มีตัวตน ก็เหมือนกับเอาเงินไปทิ้งเสียเปล่าๆ" คำกล่าวของฮอว์กิงในระหว่างการบรรยายพิเศษ

เขายังบอกอีกว่าผลลัพธ์จากการค้นพบโลกใหม่ของโคลัมบัสนั้นได้ก่อให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ที่ต่างไปจากสิ่งที่มีอยู่เดิมอย่างสิ้นเชิง ถ้าไม่มีวันนั้น วันนี้เราคงไม่รู้จักอาหารฟาสต์ฟูดอย่างบิ๊กแม็ค (Big Mac) หรือเคเอฟซี (KFC)

"แต่การออกสู่อวกาศนั้นย่อมให้ผลที่ใหญ่หลวงกว่า ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงอนาคตของมวลมนุษยชาติได้เลยทีเดียว" ฮอว์กิงกล่าว

นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ชื่อดังของโลกยังมองการณ์ไกลไปถึงโครงการสำรวจอวกาศระยะยาวด้วยว่า มนุษย์โลกจะมีฐานปฏิบัติการบนดวงจันทร์ภายใน 30 ปีนี้ และจะสามารถสร้างยานที่จะนำพานักบินอวกาศออกไปสำรวจดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะได้ในอีก 200-500 ปีข้างหน้า

"มันอาจจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาบนโลกของเราที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ แต่มันจะช่วยให้เรามีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล เต็มไปด้วยความหวังที่จะช่วยให้เรารวมกันเป็นหนึ่งเดียวและเผชิญหน้ากับความท้าทายที่กำลังจะมาถึง" ฮอว์กิงเผย

นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำแห่งยุคยังบอกอีกว่าโอกาสในการค้นพบสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ นั้นย่อมเป็นไปได้แน่นอน ทว่าอาจเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเริ่มแรกหรือสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่มีวิวัฒนาการไปมากนัก ส่วนสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาหรือฉลาดล้ำนั้นคงหาได้ยากยิ่งในจักรวาลอันเวิ้งว้าง

"หากพบสิ่งมีชีวิตแรกเริ่มอาจเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่สิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดอาจหายากหรือไม่มีทางหาพบ เพราะบางทีอาจมีแค่เฉพาะบนโลกของเราเท่านั้น" ฮอว์กิง แสดงความเห็น พร้อมเตือนด้วยว่าสิ่งมีชีวิตต่างดาวหรือเอเลียน อาจไม่ต้องมีดีเอ็นเอเหมือนกับพวกเรา ดังนั้นให้เฝ้าระวังไว้ให้ดี เมื่อใดที่พบเอเลียน พวกเราอาจติดเชื้อโรคประหลาดที่ไม่อาจต้านทานได้

ทั้งนี้ ฮอว์กิงเป็นนักวิทยาศาสตร์แห่งยุคที่แม้จะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะป่วยเป็นโรคทางระบบประสาทสั่งการหรือเอแอลเอส (amyotrophic lateral sclerosis: ALS) ตั้งแต่อายุ 20 ปี เป็นผลให้กล้ามเนื้อไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือทำงานได้เหมือนคนปกติ แต่สมองของฮอว์กิงก็ไม่เคยหยุดคิดถึงทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์เลย

เมื่อปีที่แล้วฮอว์กิงได้มีโอกาสขึ้นไปสัมผัสประสบการณ์ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง (zero gravity) ในเที่ยวบินพิเศษ แต่ฮอว์กิงก็ยังหวังด้วยว่าเขาจะได้มีโอกาสออกไปสัมผัสประสบการณ์อวกาศจริงๆ ที่อยู่เหนือชั้นบรรยากาศของโลกสักครั้ง.
สตีเฟน ฮอว์กิง กับบุตรสาวของเขา ลูซี ฮอว์กิง







กำลังโหลดความคิดเห็น