xs
xsm
sm
md
lg

"วุฒิพงศ์" ย้ำเก้าอี้ "รมต.วิทย์" นั่งไม่ผิดกระทรวง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รมต.วิทย์คนใหม่แม้ได้ตำแหน่งเพราะเครดิตพี่ชาย แต่ก็เชื่อนั่งไม่ผิดกระทรวง ระบุจบนิติก็จริงแต่สนใจวิทยาศาสตร์มาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานวิจัยที่ติดตามอย่างต่อเนื่อง หวังนำไปใช้แก้ปัญหาประชาชน พร้อมแนะนำกระทรวงอื่นๆ ใช้ข้อมูลจากงานวิจัย ยกแนวคิดอยากให้เด็กไทยคิดเป็นวิทยาศาสตร์ใช้เหตุผลนำทาง

นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) คนล่าสุด ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการสภาท่าพระอาทิตย์ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 ก.พ.51 ว่า เขาสนใจงานทางด้านวิทยาศาสตร์มานานแล้ว ขอทำให้หายข้องใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานวิจัยต่างๆ

"งานวิจัยทั่วโลกสามารถพัฒนาความเป็นอยู่มนุษย์ให้อยู่อย่างเป็นสุขได้มากมายเหลือเกิน แต่นำมาใช้กันน้อย เรามีหน้าที่ชี้นำกระทรวงต่างๆ ให้นำไปใช้กับประชาชนด้วย" นายวุฒิพงศ์กล่าวโดยระบุว่าการปฏิบัติแต่ละด้านมีงานวิจัยมากมายไปหมด ต้องหยิบงานวิจัยมาให้กระทรวงและประชาชนรับรู้มากขึ้น

ทั้งนี้ ต่อข้อถามที่ว่านายวุฒิพงศ์จบการศึกษาทางด้านนิติศาสตร์แต่มาเป็น รมต.วิทยาศาสตร์จะทำงานอย่างไร ซึ่งเขาก็ชี้แจงว่า ตั้งแต่เด็กเรียนสายวิทย์มาตลอด แต่ที่บ้านเป็นผู้แทนเลยหันมาเรียนทางด้านนิติศาสตร์

"จริงๆ ผมเรียนวิทยาศาสตร์คะแนนสูงเป็นปกติอยู่แล้ว กับคณิตศาสตร์ 2 วิชานี้ แต่วิชาอื่นก็พอไปได้ ส่วนตัวก็อ่านงานวิจัยมาตลอด พอจบ ม.5 จากสวนกุหลาบ(วิทยาลัย) ก็อ่านงานวิจัยวิทยาศาสตร์ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน" นายวุฒิพงศ์เล่าปูมหลังของตัวเอง

นายวุฒิพงศ์ยังระบุว่า เขาไม่น่าจะนั่งผิดกระทรวง เชื่อว่าพอทำงานได้ เพราะติดตามเรื่องราวทางด้านวิทยาศาสตร์มาโดยตลอด

นอกจากนี้ เขายังบอกถึงแนวคิดที่ต้องการจะส่งเสริมขณะที่เป็นเจ้ากระทรวงวิทยาศาสตร์ว่า ต้องให้เด็กไทยคิดให้เป็นวิทยาศาสตร์ก่อนเป็นอย่างแรก

"ต้องให้รู้จักทฤษฎีและการปฎิบัติ ต้องเข้าใจทฤษฎีก่อนด้วยเหตุด้วยผล แต่ของเราไม่เข้าใจทฤษฎี แล้วให้จำอย่างเดียว จำไม่ได้ต้องเข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้ว จะมีทฤษฎีรองรับตลอด ถ้าคิดอะไรไปแล้วไม่มีทฤษฎีรองรับ ถือว่าเราเป็นเจ้าทฤษฎีคิดใหม่ขึ้นมาเอง มันไม่ถูกหลัก ต้องวางรากฐานแน่นๆ" รมต.วิทย์กล่าว

อย่างไรก็ดี ผู้ดำเนินรายการสภาท่าพระอาทิตย์ได้ตั้งข้อสังเกตว่าก่อนหน้านี้การแสดงความเห็นของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่มองว่าจะวางตัวนายวุฒิพงศ์ในตำแหน่ง รมช.คลัง ด้วยเหตุผลว่าเป็นน้องชายของนายจาตุรนต์ ฉายแสงซึ่งนายจาตุรนต์ก็มีความสามารถ จึงตั้งคำถามว่าทำไมเขาไม่มองที่ตัวนายวุฒิพงศ์แต่กลับมองที่พี่ชาย

"มันเป็นประวัติทางการเมืองกันมา การเมืองไม่ใช่เกิดขึ้นภายในวันเดียว ต้องสะสมกันมานาน มีความซื่อสัตย์สุจริต ต้องเห็นความสามารถ สิ่งเหล่านี้ต้องทำให้สังคมรับรู้ก่อน ตรงนี้พี่ชายผมเขามีอยู่แล้ว"

"อาจจะมองว่าครอบครัวผมมีการบ่มนิสัยกันมาลักษณะแบบนี้ ทำให้นายกฯ เกิดความพอใจ และอย่างน้อยผมก็ยังเคยช่วยพี่ชายมา คงรู้อะไรมากพอสมควร คงคิดเป็นเหตุเป็นผลอยู่" นายวุฒิพงศ์กล่าว

ทั้งนี้ นายจาตุรนต์ผู้เป็นพี่ชายเคยเป็น รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่ง ศธ. และ วท. น่าจะเชื่อมโยงกับวิทย์ได้ในแง่ของการศึกษา ประสบการณ์จากพี่ชายน่าจะเชื่อมโยงกันได้

"จริงๆ แล้ววิทยาศาสตร์เป็นสาขาหนึ่งของการศึกษา แต่เป็นรากฐานความคิดของมนุษย์ในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ว่าเราจะตัดสินใจด้วยเหตุด้วยผลแบบวิทยาศาสตร์ ถ้าเราตัดสินใจแบบนี้อยู่เรื่อยๆ คุณภาพชีวิตก็จะดี เพราะทดลองกับชีวิตของเราเอง มีการพัฒนาก้าวหน้าไปเรื่อยๆ เพราะปฏิบัติแต่สิ่งที่ถูกต้อง" นายวุฒิพงศ์กล่าว

อีกทั้งเขายังระบุว่า เมื่อเป็นอย่างนี้กระทรวงวิทย์กับ ก.ศธ.คงทิ้งกันไม่ได้ เพราะเป็นการเรียนรู้ แต่วิทยาศาสตร์ต้องเน้นการใช้เหตุใช้ผลโดยตรง

อย่างไรก็ดี การได้ตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งนี้ที่คณะรัฐบาลไม่มีเวลามากพอที่จะฮันนีมูน ต้องรีบดำเนินงานทันที ซึ่งเมื่อนายวุฒิพงศ์ถูกถามว่า "จะเริ่มยังไง" เขาก็ตอบว่า ที่จริงแล้วก็ไม่มีใครเคยเป็นมาก่อน ส่วนตัวเขานั้นสามารถทำได้เลย แต่ก็ทำได้ระดับหนึ่งเท่านั้น

"ส่วนเรื่องอื่นๆ ต้องเรียนรู้ไปเรื่อย การที่มาเป็นอย่างน้อยก็เป็นนักการเมืองมานานพอสมควร โอกาสที่ทำงานได้เลยก็มีสูงอยู่แล้ว" นายวุฒิพงศ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น